บาลีและสันสกฤต : Pali and Sanskrit
Permanent URI for this community
Browse
Browsing บาลีและสันสกฤต : Pali and Sanskrit by Author "Banrai, Nattapaul"
Now showing 1 - 2 of 2
Results Per Page
Sort Options
- Publicationการศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดเรื่องพระเคราะห์ ทศา และนรลักษณ์ในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์และตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์ของไทยณัฐพล บ้านไร่; Banrai, Nattapaul (2019)วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปริวรรตและแปลคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเคราะห์ ทศา และนรลักษณ์ จากต้นฉบับภาษาสันสกฤตเป็นภาษาไทย เพื่อนำมาศึกษาและเปรียบเทียบแนวคิดดังกล่าวในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์และตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์ ผลการศึกษาพบว่า ตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย เนื่องจากมีแนวคิดด้านโหราศาสตร์ที่ใกล้เคียงกับคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องพระเคราะห์ และทศา ในประเด็นแนวคิดเรื่องพระเคราะห์ ชื่อพระเคราะห์ที่ปรากฏในตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์มีทั้งมาจากภาษาบาลีและสันสกฤต โดยส่วนใหญ่มีรากศัพท์เดียวกับคำเรียกขานพระเคราะห์ในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ซึ่งแต่ละชื่อมักมีความหมายที่บ่งบอกเหล่ากอ ลักษณะ และสถานภาพของพระเคราะห์แต่ละดวง หากแต่ตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์กลับระบุว่าพระเคราะห์เกิดจากการทรงสร้างของพระอิศวร แม้ว่าพระเคราะห์ในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์และตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์จะมีคุณสมบัติประจำพระเคราะห์ และความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ในส่วนมาตรฐานพระเคราะห์นั้นมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก ทั้งตำแหน่งเกษตร อุจจ์ และนิจ สำหรับแนวคิดเรื่องทศา ตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์นิยมเรียกว่า “ทักษา” ซึ่งมหาทักษาในตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์มีความคล้ายคลึงกับอัษโฏตตรีทศาในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์อยู่มาก ทั้งในเรื่องอายุบริบูรณ์ของทศา 108 ปี อายุพระเคราะห์ และการคำนวณหาช่วงเวลาการเสวยแทรกของพระเคราะห์ แตกต่างกันเพียงการหาพระเคราะห์ที่เริ่มต้นเสวยอายุ โดยคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ต้องอาศัยนักษัตรฤกษ์ที่ชนมจันทร์สถิตอยู่ แต่ตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์ใช้พระเคราะห์ประจำวันเกิดเป็นพระเคราะห์ที่เริ่มเสวยอายุทักษา ในเรื่องของการคำนวณหาช่วงเวลาการเสวยแทรกอายุทศานั้นใช้วิธีการเทียบบัญญัติไตรยางศ์คล้ายคลึงกัน แต่ในส่วนของการพยากรณ์คัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์จะต้องพิจารณาถึงคุณภาพของพระเคราะห์ประกอบด้วย สำหรับเนื้อหาของคำพยากรณ์ก็พบว่าส่วนใหญ่มีความแตกต่างกัน ส่วนแนวคิดเรื่องนรลักษณ์ ทั้งการทำนายโดยอาศัยลักษณะร่างกายหรือการดูตำหนิ ไฝ ปาน พบว่าคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์มักใช้ทำนายสตรีโดยเฉพาะ แม้ว่าในช่วงท้าย อัธยายะที่ 81 และในส่วนของคำทำนายตำหนิในอัธยายะที่ 82 บางตำแหน่งปรากฏคำทำนายสำหรับบุรุษอยู่บ้างก็ตาม หากแต่ตำราพรหมชาติฉบับราษฎร์นั้นสามารถใช้ทำนายได้ทั้งชายและหญิง ในส่วนของคำทำนายพบว่ามีคำทำนายที่ดี-ไม่ดีคล้ายคลึงกันค่อนข้างมาก แต่ทว่าเนื้อหาของคำทำนายกลับมีความแตกต่างกันแทบทั้งสิ้น
- Publicationภูตสังขยาในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ณัฐพล บ้านไร่; ชัยณรงค์ กลิ่นน้อย; Banrai, Nattapaul; Klinnoi, Chainarong (2021)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะการใช้ภูตสังขยาและแนวคิดของการนำภูตสังขยามาใช้แทนตัวเลขในคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ซึ่งเป็นคัมภีร์โหราศาสตร์ที่ประพันธ์ขึ้นด้วยภาษาสันสกฤตที่สำคัญเล่มหนึ่ง โดยศึกษาจากคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ฉบับบรรณาธิการโดยเทวจันทร์ ฌา เฉพาะเนื้อหาส่วนที่ว่าด้วยเรื่องพระเคราะห์ ทศา และนรลักษณ์ จากอัธยายะที่ 1-3, 47-65, 75 และ 81-82 ผลการศึกษาพบว่า มีการใช้ภูตสังขยาเพื่อบ่งบอกอายุของเจ้าทศา, ตัวเลขที่ใช้ในการคำนวณหาระยะการเสวยแทรกอายุทศา, เลขราศีที่เป็นเจ้าทศาสำหรับระบบทศาราศี, จำนวนองศาในราศีต่าง ๆ ที่ทำให้พระเคราะห์ได้ตำแหน่งคุณภาพ และขนาดความยาวของใบหน้า ซึ่งล้วนแต่เป็นเนื้อหาส่วนที่สำคัญของคัมภีร์พฤหัตปาราศรโหราศาสตร์ ส่วนลักษณะของการใช้ภูตสังขยาที่พบมีทั้งสิ้น 4 ลักษณะ ได้แก่ การใช้ภูตสังขยาเพียงศัพท์เดียว, ภูตสังขยาสองศัพท์สมาสกัน, ภูตสังขยาสมาสกับปรกติสังขยา, และภูตสังขยาสมาสกับคำว่า ยุชฺ สำหรับแนวคิดของการนำภูตสังขยามาใช้แทนตัวเลขพบว่า ภูตสังขยาส่วนใหญ่เป็นคำนามที่มีความเกี่ยวพันกับแนวคิดด้านปรัชญา คติความเชื่อทางศาสนา และศาสตร์ความรู้ของอินเดียอย่างลึกซึ้ง