Repository logo
  • English
  • ไทย
  • Log In
    New user? Click here to register.Have you forgotten your password?
Repository logo
  • Communities & Collections
  • All of HARRT
  • English
  • ไทย
  • Log In
    New user? Click here to register.Have you forgotten your password?
  1. Home
  2. Browse by Author

Browsing by Author "ธีระ บุษบกแก้ว"

Now showing 1 - 3 of 3
Results Per Page
Sort Options
  • No Thumbnail Available
    Publication
    กลวิธีทางภาษากับการนำเสนออัตลักษณ์ของตนเองโดยกลุ่ม "เกย์ออนไลน์"
    ธีระ บุษบกแก้ว; Butsabokkaew, Theera (2010)
    วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาอัตลักษณ์ของตนเองที่นำเสนอผ่านวาทกรรมของกลุ่ม “เกย์ออนไลน์” และกลวิธีทางภาษาที่ใช้สื่ออัตลักษณ์ดังกล่าว ข้อมูลที่ศึกษาประกอบด้วยบทความและคอลัมน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกย์และผู้เขียนเป็นเกย์ ซึ่งสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ กูเกิ้ล (www.google.co.th) ผลการวิจัยพบว่ากลวิธีทางภาษาที่กลุ่ม “เกย์ออนไลน์” ใช้สื่ออัตลักษณ์ของตนเอง ที่สำคัญมี 8 กลวิธี ได้แก่ การเลือกใช้คำศัพท์ การใช้มูลบท การปฏิเสธสื่อมูลบท การใช้นามวลีสื่อมูลบท การใช้อุปลักษณ์ การใช้รูปประโยคกรรม การกล่าวอ้าง และการใช้คำถามวาทศิลป์ กลวิธีทางภาษาใช้เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ของเกย์ต่อสาธารณชน 8 ประเด็น ได้แก่ 1) “เกย์เป็นคนปกติ และมีวิถีชีวิตเหมือนคนทั่วไป” 2) “เกย์ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมของเพศชาย” 3) “เกย์ไม่ได้หมกมุ่นเรื่องเพศ” 4) “เกย์ไม่ใช่ผู้ป่วยโรค หรืออาการทางจิต แต่เป็นความรู้สึกหรือตัวตนที่แท้จริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” 5) “เกย์เป็นกลุ่มคนที่ตกอยู่ในความกลัว และเกย์ผู้ยอมรับและเปิดเผยตนเองเป็นผู้ที่มีความกล้า” 6) “เกย์เป็นผู้โหยหาความรัก” 7) “เกย์เป็นคนที่อบอุ่น มีน้ำใจต่อผู้อื่น โดยเฉพาะต่อเกย์ด้วยกัน” 8) “เกย์คือ “ของปลอม” เกย์เป็นคนที่มีความผิด และเกย์หมกมุ่นเรื่องเพศ” สิ่งสำคัญที่ผู้วิจัยสังเกตเห็นคือ อัตลักษณ์เกย์ที่นำเสนอในบทความดังกล่าวเป็นภาพด้านบวกเกี่ยวกับตนเอง อย่างไรก็ตาม กลวิธีทางภาษาที่กลุ่มเกย์ออนไลน์ใช้ก็แสดงให้เห็นว่า เกย์ยังมีความคิดด้านลบต่อตนเองแฝงอยู่ แสดงนัยยะว่าการสร้างอัตลักษณ์ของเกย์ยังคงได้รับอิทธิพลจากสังคม
  • No Thumbnail Available
    Publication
    การศึกษาเปรียบเทียบคำซ้อนสี่คำในภาษาไทยกับภาษาจีน
    ซิน หยัง; ธีระ บุษบกแก้ว (2022)
    งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบรูปแบบและชนิดคำของคำซ้อนสี่คำในภาษาไทยกับภาษาจีน โดยเก็บข้อมูลจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 และพจนานุกรมคำจีนร่วมสมัยเล่มที่ 7 พ.ศ. 2559 ผลการวิจัยด้านรูปแบบพบว่า รูปแบบคำซ้อนสี่คำในภาษาไทยมี 5 รูปแบบ ได้แก่ AXAY AXBY XAYA AABB และ ABXY ส่วนในภาษาจีนมี 10 รูปแบบ ได้แก่ AXBY AXAY AABB XAYA AXYA AAXY XAAY XYAA ABXY และ ABCD จะเห็นได้ว่า คำซ้อนสี่คำในภาษาจีนมีรูปแบบหลากหลายกว่า นอกจากนี้ผู้วิจัยพบว่า รูปแบบคำซ้อน 5 ประเภทที่พบทั้งในภาษาไทยและภาษาจีนมีลักษณะร่วมกัน กล่าวคือ รูปแบบ AXAY AXBY XAYA และ AABB ซึ่งปรากฏมากก็พบได้มากทั้งในสองภาษา เช่นเดียวกับรูปแบบ ABXY ซึ่งปรากฏน้อยก็ไม่ค่อยพบทั้งสองภาษาเช่นกัน ด้านชนิดคำพบว่า ชนิดคำของคำซ้อนสี่คำในภาษาไทยและภาษาจีนมี 3 ประเภท ได้แก่ คำกริยา คำวิเศษณ์ คำนาม อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยพบว่า ในภาษาไทยมักใช้เป็นคำกริยามากที่สุด รองลงมาคือ คำวิเศษณ์ และคำนาม ในขณะที่ในภาษาจีนมักใช้เป็นคำวิเศษณ์มากที่สุด รองลงมาคือ คำกริยา และคำนาม ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า แม้ภาษาไทยและภาษาจีนเป็นภาษาต่างตระกูลกัน แต่ภาษาทั้งสองก็ปรากฏคำซ้อนเช่นเดียวกันซึ่งสะท้อนให้เห็นลักษณะที่ปรากฏร่วมกันของภาษาในภูมิภาคนี้
  • No Thumbnail Available
    Publication
    ภาพตัวแทนผู้สูงอายุไทยที่สื่อผ่านกลวิธีทางภาษาในวาทกรรมสื่อสาธารณะ
    ธีระ บุษบกแก้ว; Butsabokkaew, Theera (2018)
    ประเด็นเรื่องผู้สูงอายุได้รับความสนใจจากนักวิชาการหลายสาขาเพราะสังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ภาพตัวแทนของผู้สูงอายุที่สื่อผ่านกลวิธีทางภาษาในวาทกรรมสื่อสาธารณะในสังคมไทย 2 ประเภท ได้แก่ หนังสือพิมพ์ และรายการโทรทัศน์ ข้อมูลที่ใช้ศึกษาคือปี พ.ศ. 2559 โดยใช้กรอบแนวคิดวาทกรรมวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ของแฟร์คลัฟ (Fairclough, 1995) ผลการวิเคราะห์ตัวบทพบว่า วาทกรรมหนังสือพิมพ์ขับเน้นภาพตัวแทนผู้สูงอายุด้านลบ กล่าวคือมองผู้สูงอายุในฐานะผู้ที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เป็นผู้พึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐและสังคม อีกทั้งยังเป็นปัญหาและภาระที่รัฐต้องแก้ไข การเน้นนำเสนอภาพดังกล่าวมากเป็นพิเศษเป็นการมองภาพแบบเหมารวม ภาพดังกล่าวอาจ ทำให้เกิดเป็น “วาทกรรมแห่งความกลัว” ในสังคมไทย คือทำให้เกิดความกลัวความชรา หรือปฏิเสธความแก่ ความชรา ในขณะที่วาทกรรมรายการโทรทัศน์พยายามนำเสนอภาพด้านบวกของผู้สูงอายุขึ้นมาแข่งขันเพื่อปฏิเสธความคิดด้านลบของคนในสังคม กล่าวคือ ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและมีพลังร่วมสร้างสังคมไทยได้ ภาพดังกล่าวสอดคล้องไปกับทิศทางของหน่วยงานรัฐ คือเน้นให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตัวเองและทำประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งนี้จะได้ไม่เป็นภาระของรัฐ ขณะเดียวกันก็นำเสนอภาพผู้สูงอายุเพียงกลุ่มเดียวคือ กลุ่มที่มีความสามารถช่วยสังคมได้จึงอาจสร้างภาพเหมารวมผู้สูงอายุในบางแง่มุม ภาพตัวแทนเหล่านี้สื่อผ่านกลวิธีทางภาษา 6 กลวิธี ได้แก่ การเลือกใช้คำอ้างถึง การใช้ชนิดกระบวนการ การนิยาม การให้รายละเอียด การแนะความ การใช้สหบท ทั้งนี้ภาพตัวแทนจากสื่อทั้งสองกลุ่มมิได้นำเสนอภาพผู้สูงอายุในฐานะปู่ย่าตายายที่มีบทบาทสำคัญในครอบครัว อาทิ บทบาทผู้ดูแลบ้านและเลี้ยงดูลูกหลาน บทบาทผู้ให้การพึ่งพา บทบาทผู้แนะนำสั่งสอน ด้านการวิเคราะห์วิถีปฏิบัติทางวาทกรรมพบว่า วาทกรรมหนังสือพิมพ์และวาทกรรมรายการโทรทัศน์ ที่ถ่ายทอดออกไปสู่สังคมต่างก็มีรัฐเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวาทกรรม ดังนั้นภาพตัวแทนผู้สูงอายุที่ถูกผลิตขึ้นจึงสนองไปกับนโยบายของรัฐ ด้านการวิเคราะห์วิถีปฏิบัติทางสังคมวัฒนธรรมพบว่า ปัจจัยทางสังคม ได้แก่ สถานการณ์สังคมสูงอายุ นโยบายรัฐและกฎหมายที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ การแพทย์และสาธารณสุข แนวคิดที่มีอยู่ในสังคมวัฒนธรรมไทย แนวคิดเรื่องความกตัญญู ความอาวุโส คุณค่าของผู้สูงอายุ และอิทธิพลจากสหประชาชาติ มีอิทธิพลต่อการผลิต ตัวบท ขณะเดียวกันภาพตัวแทนผู้สูงอายุที่สื่อผ่านตัวบทก็อาจส่งผลต่อความคิดความเชื่อของคนในสังคมด้วยเช่นกัน กล่าวโดยสรุป ผลการศึกษานี้เผยให้เห็นว่าภาพตัวแทนผู้สูงอายุในวาทกรรมสื่อสาธารณะทั้งสองประเภทถูกเลือกสรรเฉพาะบางด้านมานำเสนอให้โดดเด่นตามอุดมการณ์หรือจุดยืนที่ผู้ผลิตวาทกรรมมีอยู่ การตระหนักรู้ภาพตัวแทนผู้สูงอายุที่ถูกนำเสนอในวาทกรรมสื่อสาธารณะนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจประเด็นผู้สูงอายุมากขึ้น

Copyright © 2023 Humanities and Arts Research Repository in Thailand

โครงการสำรวจภูมิทัศน์แห่งความรู้ด้านมนุษยศาสตร์ไทย