ปรัชญา : Philosophy
Permanent URI for this community
บทความวิจัย วิทยานิพนธ์สาขาวิชาปรัชญาในหลักสูตรที่สังกัดสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย และงานวิจัยสาขาปรัชญาที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. หรือ สกสว.
Browse
Browsing ปรัชญา : Philosophy by Degree Grantor(s) "มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น"
Now showing 1 - 2 of 2
Results Per Page
Sort Options
- Publicationพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมแท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญาพระมหาสุรชัย พุดชู; PHRAMAHA SURACHAI PHUTCHU (2017)ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์5 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาปัญญาใน ปรัชญาตะวันตกและพุทธปรัชญา 2) เพื่อศึกษาเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนและพุทธปรัชญา เถรวาท 3) เพื่อศึกษาอรรถปริวรรตศาสตร์ตะวันตกและพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์อันเป็นเครื่องมือ ในการวิจัย 4) เพื่อประยุกต์ใช้พุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมแท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญา และ 5) เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และรูปแบบในกระบวนการพัฒนาด้านอื่น ดุษฎีนิพนธ์นี้มีขอบเขต เฉพาะเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนเท่านั้น โดยอาศัยทฤษฎีพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์มหายาน มาตีความจิตเดิมแท้ว่า สามารถนำ ไปสู่กระบวนการพัฒนาปัญญาได้อย่างไร และเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพตามกระบวนการศึกษาด้านมนุษยศาสตร์ โดยใช้วิธีวิภาษวิธีและวิธีหาเหตุผลด้วยวิจารณญาณ ภายใต้การวิเคราะห์วิจักษ์และวิธาน ผลจากการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการพัฒนาปัญญาในปรัชญาตะวันตกและพุทธปรัชญามีส่วนที่สอดคล้องกัน ในเรื่องแนวคิดญาณวิทยากับ ปัจจัยแห่งสัมมาทิฏฐิกล่าวคือ ประสบการณ์นิยมสอดคล้องกับ หลักปรโตโฆสะ และเหตุผลนิยมสอดคล้องกับ หลักโยนิโสมนสิการ 2) จิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนมีความหมายใกล้เคียงกับคำ ว่า ภวังคจิตในพุทธปรัชญาเถรวาท อย่างไรก็ตาม จิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนมีพื้นฐานมาจากพุทธปรัชญาโยคาจารเรื่อง อาลยวิญญาณและพุทธปรัชญามาธยามิกะเรื่องศูนยตา ส่วนจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเถรวาท ในที่นี้ หมายถึง ภวังคจิต จะมีความเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือกิจของจิตทั้ง 14 ประการ 3) อรรถปริวรรตศาสตร์ตะวันตกเดิมทีเป็นการตีความคัมภีร์ทางศาสนา ต่อมาพัฒนาเป็นญาณวิทยาในปรัชญาหลังนวยุค จำแนกเป็น 2 สาย คือ 1) การตีความเชิงศาสนา 2) การตีความเชิงปรัชญา ส่วนพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์เป็นทฤษฎีบูรณาการหรือปฏิสัมพันธ์นิยม ทฤษฎีอรรถปริวรรตศาสตร์ในพุทธปรัชญามหายานที่นำมาใช้คือ อุปายโกศลวิธี 4) การประยุกต์ใช้พุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมแท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญาแยกเป็น 2 ระดับ คือ 1) โลกิยปัญญาหรือความรู้เชิงจริยธรรม คือการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยอาศัยอุดมคติข้อมหาอุปายและมหากรุณา 2) โลกุตรปัญญาหรือความรู้ที่เป็นสัจธรรม คือ การบรรลุซาโตริ โดยอาศัยอุดมคติข้อมหาอุปายและมหาปัญญา ปัญญาทั้งสองระดับอาศัยทฤษฎีอุปาย โกศลวิธี คือ โกอาน ซาเซนและมอนโด เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงจิตเดิมแท้ 5) การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในกระบวนการพัฒนาปัญญา มี 3 ประการ คือ 1) วิภาษวิธีแห่งอไทฺวตะ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างอุดมคติกับปัญญาและธรรมะ 2 และ 3) ทฤษฎีพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์เซน
- Publicationรูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตในพุทธปรัชญาตามพหุสารัตถะในอรรถกถาธรรมบทพระมหาวิฑูรย์ สิทฺธิเมธี (บังสันเทียะ); PHRAMAHA WITOON SITTHIMETHI (BUNGSANTHIA) (2016)ดุษฎีนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์หลัก 4 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาพุทธปรัชญาในการพัฒนา คุณภาพชีวิต 2) เพื่อศึกษาพหุสารัตถะในอรรถกถาธรรมบทในฐานะเครื่องมือการวิจัย 3) เพื่อ วิเคราะห์และวิจักษ์พหุสารัตถะในอรรถกถาธรรมบทเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 4) เพื่อวิธานในการสร้างองค์ความรู้ใหม่และรูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วย วิธีการวิจัยทางปรัชญาภายใต้กระบวนการศึกษาเชิงวิเคราะห์วิจักษ์และวิธาน เพื่อนำไปสู่องค์ความรู้ ใหม่ทางปรัชญา ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย สังคม (ศีล) อารมณ์ (จิตใจ) และสติปัญญา วิเคราะห์ผ่านกรอบพุทธปรัชญาที่ปรากฏจากเรื่องเล่าเชิงบุคลาธิษฐานใน อรรถกถาธรรมบท มีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาชีวิตโดยมิได้มุ่งเน้นเพียงทฤษฎีเท่านั้น แต่ มุ่งหวังให้มนุษย์ตระหนักในการนำสารัตถธรรมนั้น ไปปฏิบัติจนเกิดผลเชิงคุณภาพที่ถูกต้อง ดีงาม และจริงแท้ได้อย่างชัดแจ้งทุกกาลสมัย เน้นย้ำให้มนุษย์มีสติสัมปชัญญะในการลดละความหลงติด สิ่งที่เป็นพันธนาการ รู้จักนำมาเป็นรูปแบบหรือแนวทางเพื่อเสริมแง่คิดในการแสวงหาทางออกของ ปมปัญหาต่าง ๆ เป็นอุปการะต่อการหล่อหลอมพัฒนาวิถีชีวิตมนุษย์ สังคม และโลก ให้ได้เห็น แนวทาง ได้เรียนรู้วิธีคิด ได้เข้าใจวิธีปฏิบัติตามนัยแห่งพหุสารัตถะในอรรถกถาธรรมบท จน สามารถเข้าใจซึ้งถึงแก่นแท้แห่งสภาวะทั้งปวงอย่างตรงประเด็น องค์ความรู้ใหม่จากการนำพหุสารัตถะในอรรถกถาธรรมบทเชิงพุทธปรัชญามาเป็นรูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต พบว่า สามารถทำให้วิถีชีวิตทางสังคมเกิดความสงบราบรื่นผาสุกอย่างยั้งยืน และเป็นฐานนำพาชีวิตให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดอย่างถูกต้อง ดีงาม และจริงแท้สมเจตจำนงต่อไปได้