ภาษาศาสตร์ภาษาบาลีและสันสกฤต
Permanent URI for this collection
บทความวิจัย บทความวิชาการ รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ และหนังสือเกี่ยวกับไวยากรณ์บาลี ไวยากรณ์สันสกฤต หรือ ไวยากรณ์บาลีและสันสกฤตเชิงเปรียบเทียบ ด้านเสียง การสร้างคำนาม คำกริยา วากยสัมพันธ์ ภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทย
Browse
Browsing ภาษาศาสตร์ภาษาบาลีและสันสกฤต by Degree Level "ปริญญาเอก"
Now showing 1 - 3 of 3
Results Per Page
Sort Options
- Publicationการศึกษาวิเคราะห์กระบวนการสร้างคำในมหากาพย์เสานทรนันทะตามหลักคัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิพระมหาโกมล แก้วดึง; Kaeodueng, Phramaha Komon (2021)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประวัติและผลงานของปาณินิและพระอัศวโฆษ 2) เพื่อศึกษาบทต่าง ๆ ลักษณะของฉันทลักษณ์และอลังการในมหากาพย์เสานทรนันทะ 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์กระบวนการสร้างคำตามหลักไวยากรณ์คัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิ ฉันทลักษณ์ และอลังการในมหากาพย์เสานทรนันทะ บทความวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยกระบวนการวิจัยเชิงเอกสาร (documentary research) กรณีศึกษาคือกระบวนการสร้างคำในมหากาพย์เสานทรนันทะตามหลักคัมภีร์อัษฏาธยายีของปาณินิ ได้มาโดยการเก็บรวมรวบเอกสารข้อมูลทั้งชั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิ และทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ปาณินิมีชีวิตอยู่ในช่วง 400 ปีก่อน ค.ศ. เกิดในสกุลพราหมณ์ มีชื่อว่า ปาณินิ ท่านมีผลงานคือคัมภีร์อัษฏาธยายี ภาษาสันสกฤตเป็นภาษาที่ละเอียดผ่านการคัดกรองมาอย่างดี ทั้งเสียง อักษร และหลักไวยากรณ์ จนได้รับยกย่องเป็นบิดาภาษาสันสกฤตมาตรฐาน ผลงานของท่านยังคงเป็นต้นแบบที่เป็นพื้นฐานของทฤษฎีทางภาษาศาสตร์สมัยใหม่ มีอิทธิพลต่อหลักคณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์และปรัชญาอินเดีย 2. พระอัศวโฆษมีชีวิตอยู่ระหว่าง 50 ปีก่อน ค.ศ. ถึง ค.ศ. 100 เป็นกวีคนแรกที่แต่งบทละครสันสกฤต ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งบทละครสันสกฤต ท่านได้นำไวยากรณ์สันสกฤตมาพัฒนาต่อยอดผลิตผลของไวยากรณ์ในรูปของบทกวี เช่น พุทธจริต เสานทรนันทะ เป็นต้น จนได้รับยกย่องว่าเป็นมหากาพย์ที่มีอิทธิพลต่อความเจริญรุ่งเรืองของวรรณคดีสันสกฤตในสมัยต่อมา 3. กระบวนการสร้างคำตามตำราเรียนในปัจจุบันเป็นการทำให้ง่ายขึ้นสำหรับการเรียนไวยากรณ์สันสกฤตแบบใหม่ ซึ่งไม่ละเอียดเหมือนกระบวนการสร้างคำแบบอ้างอิงสูตรปาณินิ ส่วนฉันทลักษณ์ในมหากาพย์เสานทรนันทะ สรรคที่ 1, 2 และ 3 จำนวน 169 โศลก มีฉันท์ประเภทต่าง ๆ คือ 1) อนุษฏุภฉันท์ 8 พยางค์ 2) ตริษฏุภฉันท์ 11 พยางค์ 3) อติชคตีฉันท์ 13 พยางค์ 4) ศักวรีฉันท์ 14 พยางค์ 5) วาควัลลภฉันท์ โศลกที่มีคณะไม่เท่ากัน 6) อุปชาติ โศลกที่มีคณะเสมอกันครึ่งหนึ่ง และอลังการมี 2 ประเภท คือ 1) อลังการทางเสียง มีครบทั้ง 10 ประเภท มี ปรสารทคุณ เป็นต้น 2) อลังการทางความหมาย มี 3 ประเภท คือ (ก) รูปกาลังการ การแสดงความเป็นสิ่งเดียวกันระหว่างอุปมานะและอุปไมย (ข) อุปมาลังการ การเปรียบเทียบความเหมือนกันระหว่างสิ่งสองสิ่ง (ค) รสีอลังการ อลังการมีอรรถรส กล่าวคือแต่งให้เกิดรสต่าง ๆ มีศฤงคารรสเป็นต้น
- Publicationคำยืมบาลีสันสกฤตในภาษาเขมรกังวล คัชชิมา; Khatshima, Kangvol (2005)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษารูปแบบคำยืมบาลีสันสกฤตในภาษาเขมร รูปคำเดิมของภาษาบาลีสันสกฤต การเปลี่ยนแปลงรูปคำยืมบาลีสันสกฤตในภาษาเขมร และการจัดกลุ่มคำยืมบาลีสันสกฤตเป็นหมวดหมู่โดยอิงตามความหมาย โดยศึกษารูปคำและความหมายของคำยืมบาลีสันสกฤตในภาษาเขมร จากพจนานุกรมเขมร-เขมร ฉบับพุทธศาสนบัณฑิตย์และพจนานุกรมเขมร-อังกฤษของ Robert K. Headley เป็นหลัก และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ รวมทั้งหนังสือวิชาการต่าง ๆ ที่พิมพ์เผยแพร่ในระหว่าง พ.ศ. 2536 – 2546 ผลการวิจัยพบว่า 1. เขมรยืมคำบาลีสันสกฤตมาจากทุกกลุ่มคำทางไวยากรณ์คือ ธาตุ กริยาอาขยาต กริยากิตก์ นามกิตก์ สมาส และตัทธิต 2. คำยืมบาลีสันสกฤตส่วนมากที่ปรากฏอยู่ในภาษาเขมรปัจจุบัน มักมีรูปคำเหมือนที่ใช้อยู่ในภาษาบาลีหรือสันสกฤต แต่ก็ยังมีคำยืมจำนวนหนึ่งที่ยังปรากฏรูปผิดแผกไปจากคำในภาษาเดิม 3. คำยืมที่เปลี่ยนแปลงรูป มีทั้งคำที่เปลี่ยนแปลงรูปพยัญชนะ สระ และจำนวนพยางค์ 4. เขมรนำคำบาลีสันสกฤตไปสร้างเป็นคำใช้ใหม่ตามวิธีการสร้างคำแบบเขมร คือ การแผลงคำ การประสมคำ การซ้อนคำ และการซ้ำคำ เหมือนกับเป็นคำเขมรเอง 5. คำยืมบาลีสันสกฤตในภาษาเขมร กระจายอยู่ในกลุ่มคำที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับคำศัพท์กลุ่มต่าง ๆ 20 กลุ่มใหญ่คือ 1. ธรรมชาติ 2. มนุษย์และวงจรชีวิตมนุษย์ 3. ปัจจัยสี่ 4. ครอบครัวและสังคม 5. ทรัพย์สินสิ่งมีค่า 6. อาชีพการงาน 7. คำศัพท์ทางวิชาการ 8. ศาสนาและพิธีกรรม 9. ศิลปะและบันเทิง 10. การคมนาคมและท่องเที่ยว 11. การเมืองการปกครอง 12. กฎหมายและระเบียบปฏิบัติ 13. เศรษฐกิจการคลัง 14. สัตว์ 15. พืช 16. คำคุณศัพท์ 17. อาการนามและคำบอกสภาวะ 18. ชื่อเฉพาะ 19. คำราชาศัพท์ 20. เบ็ดเตล็ด 6. คำยืมใหม่ ๆ ในภาษาเขมรปัจจุบัน ที่มีใช้ในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือหนังสือวิชาการต่าง ๆ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคำที่สร้างมาจากคำยืมบาลีสันสกฤต หรืออย่างน้อยก็มีคำยืมบาลีสันสกฤตเป็นส่วนประกอบในคำใหม่ ๆ เหล่านั้น
- Publicationสำนวนภาษาในวรรณคดีไทยที่สัมพันธ์กับสำนวนภาษาในวรรณคดีบาลีและสันสกฤตอัสนี พูลรักษ์; Poolrak, Assanee (2019)วิทยานิพนธ์นี้มุ่งศึกษาสำนวนภาษาในวรรณคดีไทยที่สันนิษฐานว่ามีที่มาจากวรรณคดีบาลีและสันสกฤต โดยใช้วรรณคดีไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยปัจจุบัน ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง เป็นข้อมูลในการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า วรรณคดีไทยมีสำนวนภาษาบาลีเป็นจำนวนมาก และสำนวนภาษาสันสกฤตจำนวนหนึ่ง จำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ สำนวนไวยากรณ์ และสำนวนเนื้อหา กวีไทยรับสำนวนภาษาเหล่านี้มาใช้ 2 ลักษณะ ได้แก่ การแปลและการดัดแปลง เมื่อสำนวนภาษาบาลีและสันสกฤตเข้ามาสู่วรรณคดีไทยแล้วได้คลี่คลายไปตามปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ ขนบวรรณศิลป์และความคิดสร้างสรรค์ของกวีไทย ปริบทสังคมวัฒนธรรมไทย และสากลลักษณ์ของการรับอิทธิพลภาษาต่างประเทศและการแปล สำนวนภาษาบาลีและสันสกฤตนับว่ามีความสำคัญต่อวัฒนธรรมทางภาษาและวรรณคดีไทยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในฐานะที่เป็นองค์ประกอบของภาษาทำเนียบพิเศษ เป็นต้นเค้าของขนบการแต่งวรรณคดีไทยส่วนใหญ่และจารีตวรรณคดีไทยบางประเภท รวมทั้งเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมทางภาษาและวรรณคดีไทยขึ้นใหม่โดยไม่รู้สิ้นสุด โดยนัยนี้ สำนวนภาษาบาลีและสันสกฤตจึงสะท้อนให้เห็นว่า วัฒนธรรมทางภาษาและวรรณคดีไทยมีลักษณะเป็นวัฒนธรรม ภารตานุวาท ซึ่งหมายความว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความเจริญงอกงามของภาษาและวรรณคดีไทยส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กวีไทยได้แปลและดัดแปลงสำนวนภาษาจากวรรณคดีภารตะ คือ บาลีและสันสกฤต แล้วนำมาสร้างสรรค์วรรณคดีไทยได้อย่างวิจิตรบรรจง