Publication: วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม วินยวินิจฺฉยฏีกา (ปฐโม ภาโค) : การแปลและการศึกษาวิเคราะห
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2018
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
th
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
Volume
Issue
Edition
Start Page
End Page
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
วินยตฺถสารสนฺทีปนี นาม วินยวินิจฺฉยฏีกา (ปฐโม ภาโค) : การแปลและการศึกษาวิเคราะห
Alternative Title(s)
The Vinayatthasārasandīpanīnāma Vinayavinicchayaṭīkā (Paṭhamo Bhāgo): Translation and Analytical Study
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
ดุษฎีนิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาคัมภีร์วินยัตถสารสันทีปนี นาม วินยวินิจฉยฎีกา (ปฐโม ภาโค) (๒) เพื่อแปลคัมภีร์วินยัตถสารสันทีปนี นาม วินยวินิจฉยฎีกา (ปฐโม ภาโค) จากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย (๓) เพื่อวิเคราะห์คัมภีร์วินยัตถสารสันทีปนี นาม วินยวินิจฉยฎีกา (ปฐโม ภาโค) โดยเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพและดำเนินการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ผู้วิจัยได้ดำเนินตามขั้นตอนวิจัยคือ การแปลเนื้อหาภาษาบาลีเป็นภาษาไทย การศึกษาเนื้อหาคัมภีร์ วิเคราะห์ด้านคุณค่าและความสัมพันธ์เชิงคัมภีร์ และสังเคราะห์เนื้อหาคัมภีร์วินยัตถสารสันทีปนี นาม วินยวินิจฉยฎีกา (ปฐโม ภาโค) ผลการวิจัยพบว่า (๑) จากการศึกษาคัมภีร์ ทำให้ทราบว่า คัมภีร์ “วินยวินิจฺฉย-อุตฺตรวินิจฺฉย” ฉบับบาลีเรียบเรียงแบบร้อยกรอง (รูปคาถา) เป็นต้นแบบโครงเรื่องหลัก ที่ผู้แต่งคัมภีร์ “วินยัตถสารสันทีปนี นามวินยวินิจฉยฎีกา” ได้นำใจความในรูปคาถา มาเรียบเรียงอธิบายเนื้อหาแบบร้อยแก้ว เพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าใจข้อวินิจฉัยด้านพระวินัยในแง่มุมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และมีลักษณะความสัมพันธ์เชื่อมโยงเนื้อหาเชิงคัมภีร์ตลอดสายย้อนจากปลายไปหาต้น คือ จากฎีกาพระวินัย จนถึงพระวินัยปิฎก นอกจากนี้ยังประกอบด้วยพระสุตตันตปิฎก และมติของอาจารย์ต่างๆ ด้วย; (๒) ได้ผลการแปลภาษาบาลีเป็นภาษาไทยคัมภีร์วินยัตถสารสันทีปนีนาม วินยวินิจฉยฎีกา (ปฐโม ภาโค) ในส่วนคัมภีร์วินยวินิจฺฉย เฉพาะเนื้อหาปาราชิก จนถึงปาจิตตีย์ สรุปได้โครงสร้างของ เนื้อหา ๗ ตอน คือ ๑) คันถารัมภกถา ปรารภเกี่ยวกับการรจนาวินยวินิจฉยฎีกา ๒) คันถารัมภกถา วัณณนา อธิบายคำปรารภของวินยวินิจฉยะ ๓) ปาราชิกกถา อธิบายปาราชิกของฝ่ายภิกษุสงฆ์ ๔) สังฆาทิเสสกถา อธิบายสังฆาทิเสสของฝ่ายภิกษุสงฆ์ ๕) อนิยตกถา อธิบายอนิยตของฝ่ายภิกษุสงฆ์ ๖) นิสสัคคิยกถา อธิบายนิสสัคคีย์ของฝ่ายภิกษุสงฆ์ ๗) ปาจิตติยกถา อธิบายปาจิตตีย์ของฝ่ายภิกษุสงฆ์ (๓) การวิเคราะห์คุณค่าของคัมภีร์ ทำให้ได้คุณค่าเชิงคัมภีร์ ประกอบด้วย ด้านภาษาและ การใช้ไวยากรณ์ โดยมีลักษณะการใช้ภาษาบาลีในการรจนาหรือเรียบเรียงคัมภีร์ ด้วยหลักภาษาและ หลักไวยากรณ์ที่โดดเด่น ได้แก่ วิธีการใช้นามศัพท์ กริยาศัพท์ อัพยยศัพท์ สุภาษิต สำนวนโวหาร วิเคราะห์ศัพท์ ข้ออุปมาเปรียบเทียบ และการใช้ฉันทลักษณ์ (๔) การสังเคราะห์เนื้อหาคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ทำให้ทราบว่า แนวทางการสังเคราะห์ ได้แก่ ๑) การยกร่างแนวคิด ๒) การจัดหมวดหมู่ และแยกประเภท ๓) นำแนวคิดที่จากการสังเคราะห์ เป็นแนวคิดหรือองค์ความรู้ใหม่ ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ๔) ข้อสรุป แปลความหมาย และนำเสนอ ผลการสังเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ทั้งนั้น ได้องค์ความรู้ด้านวินัยของพระสงฆ์ คือ (๑) ความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์หรือเสพเมถุนธรรม เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์กับ สตรี บุรุษ บัณเฑาะก์หรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉานหรือศพมนุษย์ ผ่านทางทวาร ๓ (สตรี) หรือ ๒ (เช่น บุรุษ) การใช้ปลอกสวมและเครื่องลาดอื่น ๆ ด้วย รวมทั้งตุ๊กตาสตรี เป็นต้น (๒) ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักขโมย ฉ้อโกงและทำทุจริตต่างๆ เกี่ยวข้องกับวิธีการทำทุจริต ด้วยการลักขโมยในรูปแบบต่าง ๆ ตามลักษณะของการลักขโมยมี ๕ ประการ เช่น การลักเอาด้วยมือ ตนเอง เป็นต้น ตามลักษณะอาการของการลักขโมย ๕ เช่น ออกสั่งให้ลักขโมย เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ทำหน้าที่วินิจฉัยพระวินัย ต้องพิจารณาองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ วัตถุ กาล (เวลา) ราคา เทสะ (โอกาส) และการใช้สอย (โภคะ) (๓) ความรู้เรื่องการฆ่ามนุษย์ โดยถือว่าชีวิตมนุษย์เริ่มต้นจากถือปฏิสนธิแห่งรูปและนาม (๔) ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการอวดคุณธรรมขั้นวิเศษ เช่น ฌาน วิโมกข์ สมาธิ เป็นต้น (๕) องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสังฆาทิเสส มี ๔ หมวดสำคัญคือ เรื่องทางเพศ เรื่องลามก อนาจารและประพฤติชั่วร้าย เรื่องการสร้างกุฎีที่ไม่ได้รับอนุญาตและเกินมาตรฐาน และเรื่องการใส่ร้ายภิกษุอื่นโดยไม่มีมูลความจริงและเรื่องการยุยงให้สงฆ์แตกแยกกัน (๖) องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ มี ๒๙ เรื่องสำคัญ เช่น เรื่องจีวรหกอย่าง เรื่องเก็บจีวรสิบห้าอย่าง เป็นต้น (๗) องค์ความรู้เกี่ยวกับปาจิตตีย์ สรุปได้ ๑๖ หมวดเรื่องสำคัญ ได้แก่ ๑) การทำร้ายร่างกาย ๒) เขตราชฐาน ๓) การเดินทางและการพักแรม ๔) การแสดงธรรม ๕) การฉันอาหาร ๖) บริขารและ เครื่องใช้ ๗) การนอนและที่อยู่อาศัย ๘) การนั่ง ๙) การพูดและการสนทนา ๑๐) การอาบน้ า (สรงน้ำ) ๑๑) กุฎีและวิหาร ๑๒) จีวรและผ้าต่างๆ ๑๓) ต้นไม้ พื้นดินและสิ่งแวดล้อม ๑๔) สัตว์และสิ่งมีชีวิต ต่างๆ ๑๕) สุรา ๑๖) ข้อห้ามและข้อปฏิบัติอื่นๆ การนำไปใช้ประโยชน์ สามารถนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงวิชาการ เช่น การบรรยาย การสอนคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา และการใช้ประโยชน์ด้านความรู้ในพระพุทธศาสนา ในแง่การ ปฏิบัติที่ถูกต้องตามพระวินัย
This dissertation is findings of translation and analytical study of the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, (Paṭhamo Bhāgo) whichhas three objectives: (1) to study the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, (Paṭhamo Bhāgo) scripture, (2) to translate the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, Paṭhamo Bhāgo scripture and (3) to analyze the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, Paṭhamo Bhāgo. The research was qualitative based and conducted documentary research. The research was conducted according to the steps by translating the Pali contents into Thai, by studying the contents of the scripture, by value analysis and scriptural relationship and synthesizing the content of Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā (Paṭhamo Bhāgo) as well. The research found that. (1) From studying the scripture found out that “VinayavinichayaUttaravinicchaya” scripture of Pali version composed as poetry (Gatha) was regarded as prototypes of the main plot of Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā. The author expounded on the texts written in prose instead of poetry in order to give learners easier understanding inferences in Vinaya in various aspects. Moreover, characteristic of the sub-commentary (tīkā) was that all the scriptural contents had link relationship in sequence: from Vinayavinicchayatīkā to Vinayapiṭaka. Besides this it also contains Suṭtantapiṭaka and resolutions of different teachers. (2) Pali to Thai translation work of the contents in Vinayavinicchaya scripture especially Pārājika to pacittiya can be concluded into 7 parts: 1) Gandharumbha-katha mentioned about composing the Vinayavinicchayatīkā 2) Gandharumbhakatha vaṇnana explains the foreword of Vinayavinicchaya 3) Pārājikakathā explains the four Pārājikas of the Bhikkhu sangha 4) Saṅghādisesakatha explains the thirteen Saṅghādisesa rules of bhikkhu sangha 5) Aniyatakatha explains the two Aniyata (indefinite rules) of bhikkhu sangha 6) Nissaggiyakatha explains the thirty Nissaggiya rules (confession with forfeiture) of the bhikkhu sangha 7) Pacittiyakatha explains the ninety two pacittiya (rules entailing confession) of bhikkhu sangha. (3) Analysis the value of scripture, scriptural values was comprised of language and grammar usage.. the characteristic of scripture was that author composed in Pali with use of outstanding language and grammatical knowledge such as methods of using vocabulary, verbs, indeclinable, proverbs, locution, metaphorical comparison and prosody usage. (4) Synthesizing contents of buddhist scripture found that the synthesis approach was composed of 1) draft concept 2) classification and sorting. In addition, the synthesis approaches can create use of new body of knowledge which can be useful 3) conclusion, translation and synthetic findings were as the objectives of the study. As a whole was to gain the knowledge on the Vinaya of the Sangha 1) knowledge about having sexual intercourse, about having sexual relation with women, men, bisexual or even animals and a dead human body through the 3 doors of (women) or 2 doors (such as men) by wearing case or something covering along with dolls as well. 2) knowledge about stealing, fraudulent and corruption which is related about committing theft in different ways. According to nature of theft has 5 types such as self-stealing etc. whereas, symptoms according to the 5 types of nature such as ordering to steal etc. However, the one who does the Vinayavinicchaya must consider the 5 components: object, time, price, place and property. 3) knowledge about killing human being, by considering that life of a human begins from birth of form (Rupa) and name (Nāma). 4) knowledge about claiming super human state such as Jhanas, Vimokha, Samadhi etc. (5) Knowledge about Saṅghādisesa rules has 4 important categories; about sexuality, about obscene and behaving badly, about building dwellings without permission and over standard, about accusing other monks without having any cause and provoking sangha to split up. (6) Knowledge about Nissagiya has twenty nine important issues which are about six kinds of robes, fifteen types of keeping robes etc. (7) Knowledge about Pacittiya can be concluded in sixteen important categories which are 1) physical assault 2) royal court 3) travelling and staying 4) preaching 5) eating 6) eight requisites and equipments 7) sleeping and residence 8) sitting 9) speaking and conversation 10) bathing 11) dwellings and vihara 12) robes and other clothes 13) trees, grounds and different environment 14) animals and other living beings 15) alcohol 16) prohibition and other regulations. Whereas, taking advantages can lead to research results to be used in academic benefit such as giving lecture or teaching Buddhist scriptures and utilizing the knowledge in Buddhism in terms of right practice according to Vinaya.
This dissertation is findings of translation and analytical study of the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, (Paṭhamo Bhāgo) whichhas three objectives: (1) to study the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, (Paṭhamo Bhāgo) scripture, (2) to translate the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, Paṭhamo Bhāgo scripture and (3) to analyze the Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā, Paṭhamo Bhāgo. The research was qualitative based and conducted documentary research. The research was conducted according to the steps by translating the Pali contents into Thai, by studying the contents of the scripture, by value analysis and scriptural relationship and synthesizing the content of Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā (Paṭhamo Bhāgo) as well. The research found that. (1) From studying the scripture found out that “VinayavinichayaUttaravinicchaya” scripture of Pali version composed as poetry (Gatha) was regarded as prototypes of the main plot of Vinayatṭthasārasandipanināma Vinayaviniccayaṭīkā. The author expounded on the texts written in prose instead of poetry in order to give learners easier understanding inferences in Vinaya in various aspects. Moreover, characteristic of the sub-commentary (tīkā) was that all the scriptural contents had link relationship in sequence: from Vinayavinicchayatīkā to Vinayapiṭaka. Besides this it also contains Suṭtantapiṭaka and resolutions of different teachers. (2) Pali to Thai translation work of the contents in Vinayavinicchaya scripture especially Pārājika to pacittiya can be concluded into 7 parts: 1) Gandharumbha-katha mentioned about composing the Vinayavinicchayatīkā 2) Gandharumbhakatha vaṇnana explains the foreword of Vinayavinicchaya 3) Pārājikakathā explains the four Pārājikas of the Bhikkhu sangha 4) Saṅghādisesakatha explains the thirteen Saṅghādisesa rules of bhikkhu sangha 5) Aniyatakatha explains the two Aniyata (indefinite rules) of bhikkhu sangha 6) Nissaggiyakatha explains the thirty Nissaggiya rules (confession with forfeiture) of the bhikkhu sangha 7) Pacittiyakatha explains the ninety two pacittiya (rules entailing confession) of bhikkhu sangha. (3) Analysis the value of scripture, scriptural values was comprised of language and grammar usage.. the characteristic of scripture was that author composed in Pali with use of outstanding language and grammatical knowledge such as methods of using vocabulary, verbs, indeclinable, proverbs, locution, metaphorical comparison and prosody usage. (4) Synthesizing contents of buddhist scripture found that the synthesis approach was composed of 1) draft concept 2) classification and sorting. In addition, the synthesis approaches can create use of new body of knowledge which can be useful 3) conclusion, translation and synthetic findings were as the objectives of the study. As a whole was to gain the knowledge on the Vinaya of the Sangha 1) knowledge about having sexual intercourse, about having sexual relation with women, men, bisexual or even animals and a dead human body through the 3 doors of (women) or 2 doors (such as men) by wearing case or something covering along with dolls as well. 2) knowledge about stealing, fraudulent and corruption which is related about committing theft in different ways. According to nature of theft has 5 types such as self-stealing etc. whereas, symptoms according to the 5 types of nature such as ordering to steal etc. However, the one who does the Vinayavinicchaya must consider the 5 components: object, time, price, place and property. 3) knowledge about killing human being, by considering that life of a human begins from birth of form (Rupa) and name (Nāma). 4) knowledge about claiming super human state such as Jhanas, Vimokha, Samadhi etc. (5) Knowledge about Saṅghādisesa rules has 4 important categories; about sexuality, about obscene and behaving badly, about building dwellings without permission and over standard, about accusing other monks without having any cause and provoking sangha to split up. (6) Knowledge about Nissagiya has twenty nine important issues which are about six kinds of robes, fifteen types of keeping robes etc. (7) Knowledge about Pacittiya can be concluded in sixteen important categories which are 1) physical assault 2) royal court 3) travelling and staying 4) preaching 5) eating 6) eight requisites and equipments 7) sleeping and residence 8) sitting 9) speaking and conversation 10) bathing 11) dwellings and vihara 12) robes and other clothes 13) trees, grounds and different environment 14) animals and other living beings 15) alcohol 16) prohibition and other regulations. Whereas, taking advantages can lead to research results to be used in academic benefit such as giving lecture or teaching Buddhist scriptures and utilizing the knowledge in Buddhism in terms of right practice according to Vinaya.
Table of contents
Description
Sponsorship
Degree Name
พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
Degree Level
ปริญญาเอก
Degree Department
คณะพุทธศาสตร์
Degree Discipline
Degree Grantor(s)
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย