Publication: 从《风雨耀华力》看海外华人对中华文化、伦理的传承和延
View online Resources
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2009
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
cn
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
文學院學報
Liberal Arts Review
ศิลปศาสตร์ปริทัศน์
Liberal Arts Review
ศิลปศาสตร์ปริทัศน์
Volume
4
Issue
7
Edition
Start Page
End Page
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
从《风雨耀华力》看海外华人对中华文化、伦理的传承和延
Alternative Title(s)
มองชาวจีนโพ้นทะเลสืบทอดวัฒนธรรมและจริยธรรมจีนในต่างแดน จากเรื่อง เยาวราชในพายุฝน
Author(s)
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
中华伦理形成的历史相当悠久,人们普遍认为孔子、老子、孟子是中华伦理道德观的鼻祖,其实早在我们中华民族的祖先炎黄时期就已经形成了中华民族独有的伦理道德观。就像我们的先人和现今的人们为什么在祭奠我们的中华民族祖先炎黄时,把我们说成是炎黄子孙,而把炎帝的名字放在首位一样。因为炎帝是以仁爱治天下,黄帝则是以武力夺取天下。万事“仁”为本,这说明早在远古时中华民族就以重论理为高尚而加以尊重和崇仰。 然而中国和西方乃至周边的邻国在文化、伦理道德观上既有差异又有相同点,在泰国这个受西方、印度和中华传统文化影响较深的国家也不例外,西方的伦理道德观、泰国固有的传统佛教礼仪观念和中华伦理道德观在泰华社会摩擦,融合,最终形成了泰华社会独有的以中华伦理为特色的道德观。这在泰国华文文坛六十年代问世的长篇接龙小说《风雨耀华力》中所表现的淋漓致尽,泰国与中国两国文化、伦理道德观也不例外。这种差异和包容主要表现在人们的生活方式、风俗习惯、行为规范、价值观念、思想感情等方面。 海外华人移居异国他乡历史悠久,他们把中华的传统文化、儒家、道家思想带到海外,使优秀的中华文化异地传播落地生根。海外的华人把中华伦理道德作为自己的生存之道以及自己的行为规范准则,代代相传,就在一句汉话也不会说的华裔后代也知道孔孟之道,这就是中华伦理道德的强大生命力所在。 在泰华社会,中华伦理道德的体现尤为明显,中国的南方汉人近百年来不断地移居泰国,形成了强大的泰国移民潮。他们在泰皇的庇护下安居乐业,华人以自己的勤奋和聪慧为泰国和自己的家族创造了巨大的财富。财富的背后最为重要的一点则是华人对自己祖先文化和伦理道德观的继承和发扬。 从长篇接龙小说《风雨耀华力》中我们可以看出,泰国华人历来重视对子女的中华传统教育。李俊到曼谷后的第一份工作就是教华文,他教的学生都是社会下层的华人子女,他们想通过这种家教补习的方法让自己的孩子学到中华文化。不但华人下层人们对中文给予大的重视,就连那些华人的中高层人士也是如此。 说到中华的传统教育就不能离开我们的孔孟之道。因为中华汉民族的文化、伦理、习俗无一不贯穿着孔子、老子、孟子的人生处世哲学。泰国华人把中华文化,伦理,习俗看作是他们生活和生命中的不可分割的重要组成部分,无论你是身居高位的权势,或是腰缠万贯的富翁,还是普通的贫民百姓,只要你是华人,华裔,你身上流着中华民族的血统,你就会把中华伦理传统习俗一代接一代的传承弘扬,尤其是在华人集中生活的唐人街“耀华力路”,中华传统的文化,礼遇,习俗继承保留得相当完美,原汁原味,婚丧嫁娶,接神祭祖,生日祝寿,无一不是按照中国传统的礼仪习俗来办理,华人特别重视对后人的教育,对后代也都是按照孔孟之道,三从四德,知书达理来进行家教。在小说《风雨耀华力》中主要表现在社会伦理道德观的亲情、友情、爱情观等三个方面,因此本文也主要从这三个方面论述了中泰文化观念的磨合和相融。
ประเทศจีน มีประวัติศาสตร์และจริยธรรมอันยาวนานผู้คนทั่วไปจึงเข้าใจว่า จุดกำเนิดของศีลธรรมและจริยธรรมของชนชาติจีนมาจากปรมาจารย์ “ขงจื้อ, เล่าจื้อและเมิ่งจื้อ” แท้จริงแล้ว จริยธรรมของชนชาติจีน เริ่มตั้งแต่สมัย “เอี๋ยนฮว๋าง” (ผู้นำชนชาติในยุคแรก) ยุคนั้นชนชาติจีนมีจริยธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองดังจะเห็นได้ว่าชนชาติจีนจะเคารพและศรัทธาในตัวของ “เอี๋ยนตี้และฮว๋างตี้” เป็นอย่างมาก ชนชาติจีนกับวัฒนธรรมตะวันตกและประเทศใกล้เคียงถึงจะมีวัฒนธรรมและจริยธรรมที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความเหมือนกันในหลาย ๆ ด้าน ประเทศไทยก็เช่นเดียวกันได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากตะวันตก อินเดีย และจีน แต่ประเทศไทยมีศาสนาพุทธและประเพณีอันตกทอดมาแต่โบราณ ได้ผสมผสานกับวัฒนธรรม จริยธรรมของชนชาติจีน ทำให้สังคมของชาวไทยเชื้อสายจีนมีเอกลักษณ์ลักษณะเด่นในด้านจริยธรรมที่คล้ายคลึงกับชาวจีน ในศตวรรษที่ 20 ทศวรรษที่ 60 ได้มีวรรณกรรมเรื่องยาว คือ “เยาวราชในพายุฝน” ซึ่งกล่าวถึงวัฒนธรรมและจริยธรรมไทย-จีน ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัด ชาวจีนที่อพยพมาอาศัยอยู่ในประเทศต่าง ๆ ก็ได้นำเอาประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชนชาติจีนติดตัวออกมาด้วย ชาวจีนโพ้นทะเลจะถือเอาจริยธรรมอันดีงามของชนชาติจีนมาเป็นมาตรฐานในการดำรงชีวิต สืบทอดต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั่งลูกหลานชาวจีนที่พูดภาษาจีนไม่ได้ก็ยังได้รับอิทธิพล วัฒนธรรม และจริยธรรมของจีนโดยไม่รู้ตัว วัฒนธรรมและจริยธรรมของชนชาติจีนจะปรากฏเห็นเด่นชัด ในสังคมชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะทางใต้ของประเทศจีน ก็มีชาวจีนอพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเหล่านั้นได้มาอาศัยอยู่ภายใต้โพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างมีความสุข ชนชาติจีนจะมีความซื่อสัตย์ อดทน ขยันหมั่นเพียร จนสามารถตั้งหลักปักฐานอยู่ในประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ดังจะเห็นได้จากวรรณกรรมเรื่อง “เยาวราชในพายุฝน” ได้กล่าวถึงชาวจีนโพ้นทะเลให้ความสำคัญในการศึกษากับลูกหลานมาก ดังตัวเอกในเรื่อง ซึ่งได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ งานแรกที่ทำก็คือ สอนภาษาจีนให้แก่เด็ก ๆ สายเลือดจีนที่อยากเรียนรู้ภาษาจีน นอกจากสอนภาษาแล้ว ยังสอดแทรกจริยธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงามของชนชาติจีนเข้าไปด้วย ทำให้เด็ก ๆ ได้เกิดการเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติสืบต่อกันมา หากพูดถึงการศึกษาและจริยธรรมของชนชาติจีนก็จะต้องนึกถึงปรัชญาของท่านปรมาจารย์ “ขงจื้อ, เล่าจื้อและเมิ่งจื้อ” ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด ถ้ามีสายเลือดของชาวจีนอยู่ในตัวก็สามารถสืบทอดจริยธรรมอันดีงามของจีนได้ โดยเฉพาะที่ถนนเยาวราช (ไชน่าทาวว์) ที่มีชาวจีนโพ้นทะเลและลูกหลานชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศและกลิ่นไอของประเพณีและวัฒนธรรมจีน ซึ่งในวรรณกรรมเรื่อง “เยาวราชในพายุฝน” ได้พูดไว้ 3 ด้าน ดังนี้ คือ 1. ความรักและความผูกพันธ์ระหว่างญาติพี่น้อง 2. ความรักระหว่างมิตรสหาย 3. ความรักของสามีภรรยา ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมและจริยธรรมของชาวจีนและชาวไทยได้หล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน มาตราบจนทุกวันนี้
ประเทศจีน มีประวัติศาสตร์และจริยธรรมอันยาวนานผู้คนทั่วไปจึงเข้าใจว่า จุดกำเนิดของศีลธรรมและจริยธรรมของชนชาติจีนมาจากปรมาจารย์ “ขงจื้อ, เล่าจื้อและเมิ่งจื้อ” แท้จริงแล้ว จริยธรรมของชนชาติจีน เริ่มตั้งแต่สมัย “เอี๋ยนฮว๋าง” (ผู้นำชนชาติในยุคแรก) ยุคนั้นชนชาติจีนมีจริยธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองดังจะเห็นได้ว่าชนชาติจีนจะเคารพและศรัทธาในตัวของ “เอี๋ยนตี้และฮว๋างตี้” เป็นอย่างมาก ชนชาติจีนกับวัฒนธรรมตะวันตกและประเทศใกล้เคียงถึงจะมีวัฒนธรรมและจริยธรรมที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความเหมือนกันในหลาย ๆ ด้าน ประเทศไทยก็เช่นเดียวกันได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากตะวันตก อินเดีย และจีน แต่ประเทศไทยมีศาสนาพุทธและประเพณีอันตกทอดมาแต่โบราณ ได้ผสมผสานกับวัฒนธรรม จริยธรรมของชนชาติจีน ทำให้สังคมของชาวไทยเชื้อสายจีนมีเอกลักษณ์ลักษณะเด่นในด้านจริยธรรมที่คล้ายคลึงกับชาวจีน ในศตวรรษที่ 20 ทศวรรษที่ 60 ได้มีวรรณกรรมเรื่องยาว คือ “เยาวราชในพายุฝน” ซึ่งกล่าวถึงวัฒนธรรมและจริยธรรมไทย-จีน ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัด ชาวจีนที่อพยพมาอาศัยอยู่ในประเทศต่าง ๆ ก็ได้นำเอาประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชนชาติจีนติดตัวออกมาด้วย ชาวจีนโพ้นทะเลจะถือเอาจริยธรรมอันดีงามของชนชาติจีนมาเป็นมาตรฐานในการดำรงชีวิต สืบทอดต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั่งลูกหลานชาวจีนที่พูดภาษาจีนไม่ได้ก็ยังได้รับอิทธิพล วัฒนธรรม และจริยธรรมของจีนโดยไม่รู้ตัว วัฒนธรรมและจริยธรรมของชนชาติจีนจะปรากฏเห็นเด่นชัด ในสังคมชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะทางใต้ของประเทศจีน ก็มีชาวจีนอพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเหล่านั้นได้มาอาศัยอยู่ภายใต้โพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างมีความสุข ชนชาติจีนจะมีความซื่อสัตย์ อดทน ขยันหมั่นเพียร จนสามารถตั้งหลักปักฐานอยู่ในประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ดังจะเห็นได้จากวรรณกรรมเรื่อง “เยาวราชในพายุฝน” ได้กล่าวถึงชาวจีนโพ้นทะเลให้ความสำคัญในการศึกษากับลูกหลานมาก ดังตัวเอกในเรื่อง ซึ่งได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพ งานแรกที่ทำก็คือ สอนภาษาจีนให้แก่เด็ก ๆ สายเลือดจีนที่อยากเรียนรู้ภาษาจีน นอกจากสอนภาษาแล้ว ยังสอดแทรกจริยธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงามของชนชาติจีนเข้าไปด้วย ทำให้เด็ก ๆ ได้เกิดการเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติสืบต่อกันมา หากพูดถึงการศึกษาและจริยธรรมของชนชาติจีนก็จะต้องนึกถึงปรัชญาของท่านปรมาจารย์ “ขงจื้อ, เล่าจื้อและเมิ่งจื้อ” ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด ถ้ามีสายเลือดของชาวจีนอยู่ในตัวก็สามารถสืบทอดจริยธรรมอันดีงามของจีนได้ โดยเฉพาะที่ถนนเยาวราช (ไชน่าทาวว์) ที่มีชาวจีนโพ้นทะเลและลูกหลานชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศและกลิ่นไอของประเพณีและวัฒนธรรมจีน ซึ่งในวรรณกรรมเรื่อง “เยาวราชในพายุฝน” ได้พูดไว้ 3 ด้าน ดังนี้ คือ 1. ความรักและความผูกพันธ์ระหว่างญาติพี่น้อง 2. ความรักระหว่างมิตรสหาย 3. ความรักของสามีภรรยา ทั้งหมดนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมและจริยธรรมของชาวจีนและชาวไทยได้หล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน มาตราบจนทุกวันนี้