Publication:
ปัจจัยที่มีผลต่อความอยากเรียนของผู้เรียนวิชาภาษาญี่ปุ่น คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

dc.contributor.authorกนก รุ่งกีรติกุล
dc.contributor.authorชฎาภรณ์ จันทร์ประเสริฐ
dc.contributor.authorรุ่งฤดี เลียวกิตติกุล
dc.contributor.authorวันชัย สีลพัทธ์กุล
dc.contributor.authorหทัยวรรณ เจียมกีรติกานนท์
dc.date.accessioned2023-12-15T10:23:43Z
dc.date.available2023-12-15T10:23:43Z
dc.date.issued2018
dc.date.issuedBE2561
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อความอยากเรียนของนักศึกษากลุ่มเคยเรียนแผนกศิลป์ภาษาญี่ปุ่นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายกับนักศึกษากลุ่มที่ไม่เคยเรียนในแผนกศิลป์ภาษาญี่ปุ่น ทั้งปัจจัยทางบวกได้แก่ ปัจจัยที่ทำให้อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น หรือรักษาระดับความอยากเรียนเอาไว้ได้ และปัจจัยทางลบได้แก่ ปัจจัยที่มีผลให้ความอยากเรียนลดต่ำลง 2) ศึกษาเปรียบเทียบช่วงเวลาและสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าความอยากเรียนลดต่ำลงของทั้งของผู้ที่เคยเรียนและไม่เคยเรียน 3) ศึกษาเปรียบเทียบวิธีสร้างแรงจูงใจขึ้นมาใหม่ของผู้เรียนทั้งสองกลุ่ม โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 1-5 คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2559 รวมทั้งสิ้น 284 คน โดยแบ่งเป็น กลุ่มเคยเรียนในแผนกศิลป์ภาษาญี่ปุ่น (J1) 153 คน และกลุ่มไม่เคยเรียนในแผนกศิลป์ภาษาญี่ปุ่น (J2) 131 คน ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) เรื่องระดับความอยากเรียนของทั้ง 2 กลุ่มพบว่า จำนวนของผู้ที่อยากเรียนเพิ่มขึ้น เท่าเดิม หรือท้อถอยนั้นมีจำนวนพอๆ กันทั้งหมด อาจสรุปได้ว่า ประสบการณ์ในการเรียนนั้นไม่มีผลต่อความอยากเรียนจนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนปัจจัยที่ทำให้กลุ่ม J1 มีความต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น คือ มีบุคคลที่ประสบความสำเร็จ บุคคลที่ตนเองนับถือ หรือชื่นชอบ รวมถึงการมีคู่แข่ง ส่วนกลุ่ม J2 จะให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในจิตใจของตนเองอย่างเช่น ความรู้สึกภูมิใจ ความสนุกในการเรียน หรือความไม่พอใจในความสามารถของตัวเองเป็นตัวกระตุ้น ให้รู้สึกอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ความรู้สึกต้องการเรียน ลดน้อยลงระหว่างกลุ่ม J1 และกลุ่ม J2 คล้ายคลึงกัน คือ ปัจจัยที่ส่งผลทำให้รู้สึกท้อถอยในการเรียนมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านศักยภาพในการเรียน ในเรื่องความไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกท้อถอยน้อยที่สุด คือ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการเรียน เรื่องปัญหากับเพื่อนในชั้นเรียน 2) กลุ่มนักศึกษา J1 จะรู้สึกท้อถอยในช่วงแรกมากกว่ากลุ่มนักศึกษา J2 สาเหตุเกิดจากการเปรียบเทียบกับ การเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของตนเอง 3) นักศึกษาทั้งสองกลุ่มมีวิธีรับมือ เมื่อรู้สึกท้อถอย หรืออยากเรียนลดน้อยลงคล้ายๆ กัน คือ พยายามคิดถึงแรงบันดาลใจตอนเริ่มเรียนของตนเอง สำหรับกลุ่มนักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์ในการเรียน ภาษาญี่ปุ่นมาก่อน จะมีแนวโน้มใช้วิธีรับมือด้วยการออกห่างจากภาษาญี่ปุ่นสักพัก โดยหันไปทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกอย่างอื่นมากกว่า
dc.identifier.urihttps://harrt.in.th/handle/123456789/2924
dc.language.isoth
dc.subjectความอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น
dc.subjectความรู้สึกท้อถอยในการเรียน
dc.subject.isced0231 การเรียนภาษา
dc.subject.oecd6.2 ภาษาและวรรณคดี
dc.titleปัจจัยที่มีผลต่อความอยากเรียนของผู้เรียนวิชาภาษาญี่ปุ่น คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
dc.title.alternativeFactors in motivation to learn Japanese language of students taking Japanese course at the Faculty of Arts Silpakorn Universityen
dc.typeบทความวารสาร (Journal Article)
dspace.entity.typePublication
harrt.itemID126
harrt.researchAreaการสอนภาษาญี่ปุ่น
harrt.researchGroupภาษาญี่ปุ่น
harrt.researchTheme.1การเรียนการสอนภาษา (Language Teaching)
harrt.researchTheme.2ความรู้สึกของผู้เรียน (ทัศนคติ แรงจูงใจ กลวิธีการเรียนรู้ ฯลฯ)
mods.location.urlhttps://so05.tci-thaijo.org/index.php/sujthai/article/view/121263/92543
oaire.citation.endPage87
oaire.citation.issue2
oaire.citation.startPage63
oaire.citation.titleวารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร
oaire.citation.titleSilpakorn University Journalen
oaire.citation.volume38
Files