Publication: การใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการสอนการอ่านภาษาญี่ปุ่น : กรณีศึกษา ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นชาวไทย
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2015
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
th
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
Academic Journal Phranakhon Rajabhat University
Academic Journal Phranakhon Rajabhat University
Volume
6
Issue
1
Edition
Start Page
262
End Page
270
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
การใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการสอนการอ่านภาษาญี่ปุ่น : กรณีศึกษา ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นชาวไทย
Alternative Title(s)
Use of Concept Mapping Strategy in Reading Class : A Case Study of Thai Elementary Learners of Japanese
Author(s)
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สำรวจประสิทธิภาพของการใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการสอนการอ่านภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น 2) สำรวจผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในการใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการอ่านภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น 3) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อกลวิธีผังมโนทัศน์ในการอ่านภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ การใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการสอนการอ่านภาษาญี่ปุ่น: กรณีศึกษา ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นชาวไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จำนวน 35 คน ใช้้ระยะเวลาในการทดลอง 7 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 คาบ คาบละ 50 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แผนการสอนการอ่านภาษาญี่ปุ่นโดยใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ 5 ชนิด ได้แก่ 1) แผนผังใยแมงมุม 2) แผนภูมิขั้นบันได 3) แผนภาพลำดับการคิดเปรียบเทียบ 4) แผนผังก้างปลา 5) แผนภูมิกง จำนวน 7 แผน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนแบบปรนัยจำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามสำรวจเจตคติแบบมาตราส่วนประมาณค่า 4 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. กลวิธีผังมโนทัศน์ทั้ง 5 ชนิด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นได้ในระดับมากทั้งโดยรวมและรายด้านทุกด้าน
2. ผลสัมฤทธิ์การสอบหลังใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ มีคะแนนเฉลี่ยรวมร้อยละ 80.76 สูงกว่าการสอบก่อนเรียนร้อยละ 18.19
3. ผู้เรียนรู้สึกเห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการนำกลวิธีผังมโนทัศน์มาใช้ในการอ่านภาษาญี่ปุ่นชั้นต้นเฉลี่ยใน ระดับ 3.53 จากคะแนนเต็ม 4.00 กล่าวโดยสรุปคือ กลวิธีผังมโนทัศน์ทำให้การอ่านภาษาญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้สอนจะต้องจัดสรรเวลาในการอ่านให้เหมาะสม และควรใช้กลวิธีผังมโนทัศน์ในการทำกิจกรรมสรุปใจความสำคัญ ซึ่งอาจประยุกต์ใช้เป็นกิจกรรมเสริมนอกห้องเรียน (Outside Reading Activities) รวมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรม การเรียนการสอนทักษะอื่น เช่น การพูด และการเขียนได้ด้วย