Publication: 泰华作家年腊梅笔下的女性形象研究
View online Resources
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2012
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
cn
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
文學院學報
Liberal Arts Review
ศิลปศาสตร์ปริทัศน์
Liberal Arts Review
ศิลปศาสตร์ปริทัศน์
Volume
7
Issue
13
Edition
Start Page
End Page
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
泰华作家年腊梅笔下的女性形象研究
Alternative Title(s)
การศึกษาภาพลักษณ์สตรีในงานเขียนของเหนียนล่าเหมย
Author(s)
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
在泰国现代文学史上,上个世纪四五十年代,泰华文坛崛起一批女作家,年腊梅是其中的一位,且是一位具有代表性和独特艺术魅力的女作家。年腊梅在五十年代正式开始她的文学创作,作品大多描绘了居住在泰国的华人的生活情况,尤其是女性们的形象和性格特征。她以独特的风格、独特的视角观察他们的生活,以悲悯的情怀描写了那些被侮辱和被欺凌的底层小人物的悲欢离合的故事,同时也展示了社会的不公和无处不在的庸俗和愚昧。 小说中悲剧性的女性形象所以有如此悲惨的命运,是因为她们缺少受教育的机会,从而使她们遭受着不公平的虐待,遭受社会的歧视。她们是弱势群体,没能力反抗也没人伸手帮助她们跳出火坑,摆脱苦海。这些人物形象是作者对不正义的社会的愤怒控诉与揭露。 此外,作家还塑造了扮演着双重角色的女性形象,这些形象反映了在当今社会中“男主外,女主内”的模式已经被打破了。女性们都加强了自我价值的意识,且有了更自由的选择。 年腊梅笔下女性形象折射出多元化的女性观。自古迄今女性处于被动地位,受到传统礼教的种种约束,没有知识的下层女性还抱有传统的女性观念,无力挣脱悲惨命运的束缚;知识女性则具有更自由解放的女性观,因而拥有更多改变自己命运的自主权。 年腊梅在泰华文坛是独树一帜且成就斐然的作家,她以细腻真实的现实主义创作方法创作了丰富鲜明的女性形象。这些感人至深的人物形象表达了作者对不同阶层的女性命运与女性在社会上的地位的热切的关注,年腊梅作品对下层女子的悲惨遭遇寄予深切同情,表现出作者宽广的悲悯情怀和强烈的社会责任感,具有强烈的现实意义。
จากประวัติวรรณกรรมสมัยใหม่ในประเทศไทยในศตวรรษที่ยี่สิบช่วงประมาณปี ค.ศ.1940-1950วงการวรรณกรรมจีนในไทยได้กำเนิดนักเขียนหญิงกลุ่มหนึ่ง เหนียนล่าเหมยเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ทั้งยังเป็นนักเขียนหญิงที่มีรูปแบบที่เป็นตัวแทนและมีเสน่ห์ในเชิงศิลปะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหนียนล่าเหมยเริ่มสร้างผลงานการประพันธ์ของตนเองประมาณปี ค.ศ. 1950 ผลงานวรรณกรรมส่วนใหญ่จะเขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย โดยเฉพาะภาพลักษณ์และอุปนิสัยของสตรีในยุคสมัยนั้น เธอใช้ท่วงทำนองและมุมมองเฉพาะตัวในการสังเกตชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ใช้ความรู้สึกที่สมเพชเวทนาในการพรรณนาเรื่องราวความเป็นอยู่ของสตรีที่เป็นชนชั้นล่างที่ถูกเหยียดหยามและถูกข่มเหงรังแก ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงสังคมที่ขาดความยุติธรรม ความล้าหลังของวัฒนธรรมและพฤติกรรมหยาบช้าของคนในสังคม สาเหตุของสตรีในนวนิยายที่ต้องตกอยู่ในสภาพทนทุกข์และถูกข่มเหงนั้นเป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดโอกาสในการศึกษา เมื่อขาดความรู้ จึงเป็นเหตุให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและถูกเอารัดเอาเปรียบ สตรีเหล่านี้เป็นกลุ่มชนชั้นที่อ่อนแอ ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านและไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือให้พวกเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน จากภาพลักษณ์ของสตรีเหล่านี้บ่งบอกถึงอารมณ์โกรธเคืองของผู้เขียนที่ต้องการประณามและเปิดโปงความไม่เป็นธรรมของสังคม นอกจากนี้ ผู้เขียนยังสร้างภาพลักษณ์ของสตรีที่มีสองบทบาท ซึ่งภาพลักษณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมเนียมโบราณที่ว่า “ชายคุมนอก หญิงคุมใน” นั้นได้ถูกทำลายแล้วในสังคมปัจจุบัน พวกเธอเหล่านั้นได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของจิตสำนึกให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของตนเอง และยังมีอิสระในการเลือกสรรมากขึ้น จากผลงานของเหนียนล่าเหมยได้สะท้อนให้เห็นถึงนานาทัศนะที่มีต่อสตรีตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เพศหญิงจะเป็นเพศที่ตกอยู่ในฐานะถูกกระทำ จะถูกบังคับให้อยู่ในขอบเขตของขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณต่าง ๆ นานา หญิงสาวผู้ต่ำต้อยและด้อยการศึกษาซึ่งยังมีกฎข้อบังคับโบราณฝังอยู่ในความคิดก็ยากจะหลุดพ้นจากการพันธนาการของชะตากรรมอันแสนขมขื่นได้ ส่วนหญิงสาวที่มีการศึกษาจะมีความคิดที่มีความเป็นอิสระและเสรีมากกว่า ฉะนั้น จึงมีอำนาจในการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองได้มากกว่า ในวงการวรรณกรรมจีนในไทย เหนียนล่าเหมยเป็นนักเขียนที่มีเอกลักษณ์และผลงานอันโดดเด่น เธอใช้หลักการเขียนที่ประณีต สมจริงซึ่งสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในยุคนั้น รวมถึงการสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ของสตรีที่อุดมไปด้วยสีสันที่สดใส ภาพลักษณ์ตัวละครที่มีอารมณ์ลึกซึ้งนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้เขียนได้ให้ความสนใจต่อชะตาชีวิตของสตรีที่ต่างชนชั้นและต่างฐานะในสังคมเป็นอย่างยิ่ง บทประพันธ์ของเหนียนล่าเหมยแสดงให้เห็นถึงเมตตาอาทรของผู้เขียนที่มีต่อหญิงสาวชนชั้นล่าง บ่งบอกถึงจิตใจของผู้เขียนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อหญิงสาวเหล่านี้ และยังประจักษ์ถึงสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีอยู่อย่างแรงกล้าของผู้เขียน อีกทั้งยังมีความหมายในเชิงความเป็นจริงแท้ที่จับต้องได้อย่างเด่นชัด
จากประวัติวรรณกรรมสมัยใหม่ในประเทศไทยในศตวรรษที่ยี่สิบช่วงประมาณปี ค.ศ.1940-1950วงการวรรณกรรมจีนในไทยได้กำเนิดนักเขียนหญิงกลุ่มหนึ่ง เหนียนล่าเหมยเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ทั้งยังเป็นนักเขียนหญิงที่มีรูปแบบที่เป็นตัวแทนและมีเสน่ห์ในเชิงศิลปะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหนียนล่าเหมยเริ่มสร้างผลงานการประพันธ์ของตนเองประมาณปี ค.ศ. 1950 ผลงานวรรณกรรมส่วนใหญ่จะเขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย โดยเฉพาะภาพลักษณ์และอุปนิสัยของสตรีในยุคสมัยนั้น เธอใช้ท่วงทำนองและมุมมองเฉพาะตัวในการสังเกตชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ใช้ความรู้สึกที่สมเพชเวทนาในการพรรณนาเรื่องราวความเป็นอยู่ของสตรีที่เป็นชนชั้นล่างที่ถูกเหยียดหยามและถูกข่มเหงรังแก ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงสังคมที่ขาดความยุติธรรม ความล้าหลังของวัฒนธรรมและพฤติกรรมหยาบช้าของคนในสังคม สาเหตุของสตรีในนวนิยายที่ต้องตกอยู่ในสภาพทนทุกข์และถูกข่มเหงนั้นเป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นขาดโอกาสในการศึกษา เมื่อขาดความรู้ จึงเป็นเหตุให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและถูกเอารัดเอาเปรียบ สตรีเหล่านี้เป็นกลุ่มชนชั้นที่อ่อนแอ ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านและไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือให้พวกเขาหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน จากภาพลักษณ์ของสตรีเหล่านี้บ่งบอกถึงอารมณ์โกรธเคืองของผู้เขียนที่ต้องการประณามและเปิดโปงความไม่เป็นธรรมของสังคม นอกจากนี้ ผู้เขียนยังสร้างภาพลักษณ์ของสตรีที่มีสองบทบาท ซึ่งภาพลักษณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมเนียมโบราณที่ว่า “ชายคุมนอก หญิงคุมใน” นั้นได้ถูกทำลายแล้วในสังคมปัจจุบัน พวกเธอเหล่านั้นได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของจิตสำนึกให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของตนเอง และยังมีอิสระในการเลือกสรรมากขึ้น จากผลงานของเหนียนล่าเหมยได้สะท้อนให้เห็นถึงนานาทัศนะที่มีต่อสตรีตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน เพศหญิงจะเป็นเพศที่ตกอยู่ในฐานะถูกกระทำ จะถูกบังคับให้อยู่ในขอบเขตของขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณต่าง ๆ นานา หญิงสาวผู้ต่ำต้อยและด้อยการศึกษาซึ่งยังมีกฎข้อบังคับโบราณฝังอยู่ในความคิดก็ยากจะหลุดพ้นจากการพันธนาการของชะตากรรมอันแสนขมขื่นได้ ส่วนหญิงสาวที่มีการศึกษาจะมีความคิดที่มีความเป็นอิสระและเสรีมากกว่า ฉะนั้น จึงมีอำนาจในการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองได้มากกว่า ในวงการวรรณกรรมจีนในไทย เหนียนล่าเหมยเป็นนักเขียนที่มีเอกลักษณ์และผลงานอันโดดเด่น เธอใช้หลักการเขียนที่ประณีต สมจริงซึ่งสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในยุคนั้น รวมถึงการสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ของสตรีที่อุดมไปด้วยสีสันที่สดใส ภาพลักษณ์ตัวละครที่มีอารมณ์ลึกซึ้งนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้เขียนได้ให้ความสนใจต่อชะตาชีวิตของสตรีที่ต่างชนชั้นและต่างฐานะในสังคมเป็นอย่างยิ่ง บทประพันธ์ของเหนียนล่าเหมยแสดงให้เห็นถึงเมตตาอาทรของผู้เขียนที่มีต่อหญิงสาวชนชั้นล่าง บ่งบอกถึงจิตใจของผู้เขียนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อหญิงสาวเหล่านี้ และยังประจักษ์ถึงสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีอยู่อย่างแรงกล้าของผู้เขียน อีกทั้งยังมีความหมายในเชิงความเป็นจริงแท้ที่จับต้องได้อย่างเด่นชัด