Publication: The Moral Ambiguity in Neil Gaiman’s The Graveyard Book
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2018
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
en
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
1686-445X, 2672-9547 (online)
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
Journal of Humanities, Naresuan University
วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
Volume
15
Issue
3
Edition
Start Page
27
End Page
38
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
The Moral Ambiguity in Neil Gaiman’s The Graveyard Book
Alternative Title(s)
ความคลุมเครือทางศีลธรรมในนิยายของนีล เกแมน เรื่อง ผจญภัยในสุสาน
Author(s)
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
This article aims to study Bod, the protagonist in Neil Gaiman’s The Graveyard Book, in terms of his moral ambiguity, development, and relationships with friends and enemies. His moral ambiguity is analyzed through a case of school bully and an abuse of authority. The study shows Bod’s moral ambiguity when he and his guardian are victimized. To understand his emotional development and friendship with Scarlett, David Elkind’s child development theories, Deborah Tannen’s, and Carol Gilligan’s adolescent development theories are used to examine the cause and how their conflicts are resolved. Examining Bod’s and Scarlett’s emotional development shows that Bod has higher degree of emotional development even though he is younger than Scarlett. Their problems occurring when they are young adolescents are caused by their different gender which eventually results in the end of their friendship. It can be said that the novel’s uniqueness is the presentation of the increasing moral ambiguity and the loss of friendship when entering adolescence. Implicitly, the author does not only encourages the young reader to prepare themselves for changes when entering adolescence, but also relieves the young adult reader’s tension caused by the same sufferings like the ones Bod experiences.
บทความชิ้นนี้มุ่งศึกษาประเด็นความคลุมเครือเชิงศีลธรรม พัฒนาการและความสัมพันธ์ของบ็อดกับตัวละครอื่นในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ผจญภัยในสุสาน โดย นีล เกแมน โดยวิเคราะห์ความคลุมเครือเชิงศีลธรรมของบ็อดผ่านสถานการณ์ที่ตัวละครดังกล่าวเผชิญปัญหาอันธพาลในโรงเรียน และปัญหาการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยพบว่าบ็อดกลายเป็นตัวละครที่มีความคลุมเครือเชิงศีลธรรมเมื่อผู้ปกครองและตนเองตกเป็นเหยื่อ ส่วนพัฒนาการเชิงอารมณ์และความสัมพันธ์แบบมิตรภาพระหว่างเพื่อนของบ็อดกับสการ์เล็ตนั้น การศึกษานี้ใช้ทฤษฎีจิตวิทยาเด็กของเดวิด เอลไคน์ และทฤษฎีจิตวิทยาวัยรุ่นของเดบอราห์ แทนเนน และแครอล กิลลิแกน ในการทำความเข้าใจปมและการคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จากการศึกษาพบว่าในสถานการณ์คับขัน บ็อดแสดงพัฒนาการทางอารมณ์สูงกว่าแม้ว่าจะมีอายุน้อยกว่าสการ์เล็ต ส่วนปัญหาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่เป็นวัยรุ่นตอนต้นนั้นเกิดจากเพศสภาพที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ทั้งคู่มีความคาดหวังต่อมิตรภาพที่แตกต่างกันและไม่อาจรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ อาจกล่าวได้ว่าลักษณะเด่นของนิยายเรื่องนี้คือความคลุมเครือทางศีลธรรมที่เพิ่มขึ้นตามช่วงวัย และการสูญเสียความสัมพันธ์ฉันเพื่อนเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น ผู้เขียนไม่เพียงช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้อ่านที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น แต่ยังช่วยลดความตึงเครียดของผู้อ่านที่เผชิญความสูญเสียลักษณะเดียวกับตัวเอกของเรื่อง
บทความชิ้นนี้มุ่งศึกษาประเด็นความคลุมเครือเชิงศีลธรรม พัฒนาการและความสัมพันธ์ของบ็อดกับตัวละครอื่นในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ผจญภัยในสุสาน โดย นีล เกแมน โดยวิเคราะห์ความคลุมเครือเชิงศีลธรรมของบ็อดผ่านสถานการณ์ที่ตัวละครดังกล่าวเผชิญปัญหาอันธพาลในโรงเรียน และปัญหาการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยพบว่าบ็อดกลายเป็นตัวละครที่มีความคลุมเครือเชิงศีลธรรมเมื่อผู้ปกครองและตนเองตกเป็นเหยื่อ ส่วนพัฒนาการเชิงอารมณ์และความสัมพันธ์แบบมิตรภาพระหว่างเพื่อนของบ็อดกับสการ์เล็ตนั้น การศึกษานี้ใช้ทฤษฎีจิตวิทยาเด็กของเดวิด เอลไคน์ และทฤษฎีจิตวิทยาวัยรุ่นของเดบอราห์ แทนเนน และแครอล กิลลิแกน ในการทำความเข้าใจปมและการคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จากการศึกษาพบว่าในสถานการณ์คับขัน บ็อดแสดงพัฒนาการทางอารมณ์สูงกว่าแม้ว่าจะมีอายุน้อยกว่าสการ์เล็ต ส่วนปัญหาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่เป็นวัยรุ่นตอนต้นนั้นเกิดจากเพศสภาพที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ทั้งคู่มีความคาดหวังต่อมิตรภาพที่แตกต่างกันและไม่อาจรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ อาจกล่าวได้ว่าลักษณะเด่นของนิยายเรื่องนี้คือความคลุมเครือทางศีลธรรมที่เพิ่มขึ้นตามช่วงวัย และการสูญเสียความสัมพันธ์ฉันเพื่อนเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น ผู้เขียนไม่เพียงช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้อ่านที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น แต่ยังช่วยลดความตึงเครียดของผู้อ่านที่เผชิญความสูญเสียลักษณะเดียวกับตัวเอกของเรื่อง