Publication: ทักษะการฟังและแยกแยะเสียงสุงต่ำในคำภาษาญี่ปุ่น ของผู้เรียนชาวไทย : เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีประสบการณ์เรียนรู้และฝึกฝนเสียงสูงต่ำกับผู้ที่ไม่มี
Submitted Date
Received Date
Accepted Date
Issued Date
2017
Copyright Date
Announcement No.
Application No.
Patent No.
Valid Date
Resource Type
Edition
Resource Version
Language
th
File Type
No. of Pages/File Size
ISBN
ISSN
eISSN
DOI
Scopus ID
WOS ID
Pubmed ID
arXiv ID
item.page.harrt.identifier.callno
Other identifier(s)
Journal Title
วารสารญี่ปุ่นศึกษา
Japanese Journal Studies
Japanese Journal Studies
Volume
34
Issue
2
Edition
Start Page
55
End Page
74
Access Rights
Access Status
Rights
Rights Holder(s)
Physical Location
Bibliographic Citation
Research Projects
Organizational Units
Authors
Journal Issue
Title
ทักษะการฟังและแยกแยะเสียงสุงต่ำในคำภาษาญี่ปุ่น ของผู้เรียนชาวไทย : เปรียบเทียบระหว่างผู้ที่มีประสบการณ์เรียนรู้และฝึกฝนเสียงสูงต่ำกับผู้ที่ไม่มี
Alternative Title(s)
Thai Learners Listening skils in the Accent Discrimination of Japanese Words : A Comparison of Those That Have Had Accent Learning and Practice Experience with Those That have Not
Author(s)
Author’s Affiliation
Author's E-mail
Editor(s)
Editor’s Affiliation
Corresponding person(s)
Creator(s)
Compiler
Advisor(s)
Illustrator(s)
Applicant(s)
Inventor(s)
Issuer
Assignee
Other Contributor(s)
Series
Has Part
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ข้อ คือ 1. เพื่อวิเคราะห์ปัญหาการฟังเสียงสูงตํา่าภาษาญี่ปุ่นของผู้เรียนชาวไทย และ 2. เพื่อวิเคราะห์ว่าความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์การฝึกฝนเสียงสูงตํา่าช่วยกระตุ้นการเรียนรู้เสียงสูงตํา่ามากน้อยเพียงใด โดยใช้แบบทดสอบการฟังเสียงสูงตํา่าที่ดัดแปลงจาก “แบบทดสอบการฟังเสียงสูงตํา่าภาษาโตเกียว” ซึ่งพัฒนาโดย 河津他(2003) กลุ่มเป้าหมายได้แก่นิสิตสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จําานวน 74 คน โดยมุ่งศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผู้ที่มีประสบการณ์เรียนรู้และฝึกฝนเสียงสูงตํา่ากับผู้ที่ไม่มี ผลการศึกษาสามารถสรุปได้ดังนี้1. ผู้เรียนชาวไทยมีแนวโน้มที่จะฟังเสียงสูงตํา่าค ําาศัพท์ที่จบด้วยทําานองเสียงบอกเล่าได้ดีกว่าคําาศัพท์ที่จบด้วยทําานองเสียงคําาถาม2. อัตราความถูกต้องของการฟังรูปแบบเสียงสูงตํา่ามีแนวโน้มลดลงผกผันกับจําานวนพยางค์ที่เพิ่มขึ้น3. รูปแบบเสียงสูงตํา่าที่มีอัตราความถูกต้องของการฟังตํา่าสุดคือแบบลบสอง (ค ําาที่มีต ําาแหน่งเสียงสูงตํา่าอยู่พยางค์ที่สองนับจากท้ายคําา) ในคําา 4-5 พยางค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลงท้ายด้วยทําานองเสียงคําาถาม 4. ความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์การฝึกฝนเสียงสูงตํา่า ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการฟัง และสามารถแยกแยะเสียงสูงตํา่าภาษาญี่ปุ่นได้ถูกต้องมากขึ้น โดยเฉพาะแบบราบ แบบสูงที่พยางค์ต้น และแบบสูงที่พยางค์กลาง (ยกเว้นแบบลบสอง) ของคําาศัพท์ที่จบด้วยทําานองเสียงบอกเล่า ซึ่งมีอัตราความถูกต้องของการฟังโดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 80