Browsing by Author "พระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน (พุดชู)"
Now showing 1 - 4 of 4
Results Per Page
Sort Options
- Publicationแนวคิดเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน (พุดชู); Phramaha Surachai Jayabhivaddhano (Phutchu) (2018)บทความนี้เป็นการศึกษาเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนว่า โดยสภาวะดั้งเดิมของจิตเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์หรือไม่ ด้วยการวิเคราะห์หลักคำสอนที่ปรากฏในตัวบทหรือคัมภีร์ฝ่ายมหายานและเปรียบเทียบกับแนวคิดเรื่องจิตในพุทธปรัชญาเถรวาท คำว่า “จิตเดิมแท้” เป็นแนวคิดที่ปรากฏเฉพาะในปรัชญาเซนเท่านั้น คำนี้ปรากฏครั้งแรกในคำสอนของท่านเว่ยหล่าง สังฆปริณายกรูปที่ 6 ของเซน โดยแนวทางปฏิบัติของเซนที่เรียกว่า โกอาน ซาเซน และมอนโดนั้นล้วนเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อฝึกหัดให้บรรลุธรรมหรือซาโตริ คือการเข้าถึงโพธิจิตหรือจิตเดิมแท้ อันเป็นพุทธภาวะที่มีอยู่แล้วในทุกคน ดังนั้น คำว่า โพธิจิต พุทธภาวะ ซาโตริ จิตว่าง และจิตหนึ่ง จึงเป็นไวพจน์ที่บ่งถึงคำว่า จิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซน จากการศึกษาเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนพบว่า จิตเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์จริง แต่มีนัยการอธิบายที่แตกต่างจากพุทธปรัชญาเถรวาทที่ใช้คำว่า จิตประภัสสรหรือผ่องใส ซึ่งมีความหมายต่างกับคำว่าจิตบริสุทธิ์ในพุทธปรัชญาเซน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างพุทธปรัชญาเซนกับเถรวาทเป็นแต่เพียงการอธิบายความเท่านั้น เพราะเมื่อกล่าวถึงผลของการปฏิบัติแล้ว การเข้าถึงจิตเดิมแท้ของเซนก็คือการบรรลุธรรมที่มีรสเดียวกันกับการบรรลุธรรมในทัศนะของสำนักอื่นนั่นคือวิมุติรส
- Publicationพุทธศาสนานิกายเซนกับการจัดสวนญี่ปุ่นพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน (พุดชู); Phramaha Surachai Jayabhivaddhano (Phutchu) (2018)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายแนวคิดการจัดสวนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากพุทธศาสนาและผสมผสานกับความเชื่อดั้งเดิมในญี่ปุ่นเอง จึงกลายเป็นรูปแบบและแนวคิดการจัดสวนที่สอดแทรกคำสอนทางพุทธศาสนาในเชิงปรัชญาอย่างน่าขบคิด และสะท้อนภูมิปัญญาการจัดสวนของชาวญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร การจัดส่วนญี่ปุ่นทั่วไปมี 3 ประเภท คือ 1) สวนภูเขา 2) สวนในที่ราบ และ 3) สวนน้ำชา รูปแบบการจัดแต่ละประเภทมีลักษณะภูมิทัศน์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะไม้ประดับตกแต่ง รวมถึงสถานที่และการใช้ประโยชน์ภายในสวน สวนที่สะท้อนแนวคิดตามแบบเซนอย่างแท้จริงก็คือสวนในที่ราบ โดยเฉพาะสวนในพื้นที่แห้งที่มีทรายหรือก้อนกรวดแทนการปลูกหญ้าหรือมอส แล้วสมมติเป็นพื้นน้ำ ก้อนหินวางเรียงสมมติเป็นเกาะ สวนประเภทนี้มีนัยทางพุทธปรัชญาเป็นอย่างมาก เพราะเน้นการตกแต่งให้น้อยที่สุด มีความเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อให้อยู่ติดกับธรรมชาติ ขณะที่สวนน้ำชาเป็นการนำลักษณะเด่นของสวนภูเขาและสวนในที่ราบมาผสมผสานและเน้นพิธีชงชาหรือซาโด (Sado) เป็นพิเศษ ญี่ปุ่นได้รับพิธีนี้มาจากวัฒนธรรมจีนและประยุกต์ให้เข้ากับการจัดสวนที่มีกระท่อมชาไว้สำหรับชงชาโดยเฉพาะ พิธีชงชาแบบญี่ปุ่นจะเน้นความมีสติทุกอิริยาบถ ตั้งแต่การชง การริน กระทั่งการดื่มที่ให้รู้สึกถึงรสชาติของชา มีสติกำกับตลอดเวลา รวมจิตเป็นหนึ่งเดียวกับการดื่ม กระทั่งไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคำว่าชากับผู้ดื่มพิธีชงชาจึงเป็นการฝึกสติที่ประยุกต์เข้ากับวิถีชีวิต ดังที่ปรากฏในสวนน้ำชาโดยตรงหรือสวนแบบเซนที่นิยมจัดไว้มุมใดมุมหนึ่งภายในวัดเซนเอง
- Publicationพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมเเท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญาพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน (พุดชู); สวัสดิ์ อโณทัย; สมบูรณ์ บุญโท; Phramaha Surachai Jayabhivaddhano; Sawat Anothai; Somboon Boondo (2018)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 5 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาปัญญาในปรัชญาตะวันตกและพุทธปรัชญา 2) เพื่อศึกษาเรื่องจิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนและพุทธปรัชญาเถรวาท 3) เพื่อศึกษาอรรถปริวรรตศาสตร์ตะวันตกและพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์อันเป็นเครื่องมือในการวิจัย 4) เพื่อประยุกต์ใช้พุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมแท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญา และ 5) เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และรูปแบบในกระบวนการพัฒนาด้านอื่น และเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพตามกระบวนการศึกษาด้านมนุษยศาสตร์ โดยใช้วิธีวิภาษวิธีและวิธีหาเหตุผลด้วยวิจารณญาณ ภายใต้การวิเคราะห์ วิจักษ์และวิธาน ผลจากการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการพัฒนาปัญญาในปรัชญาตะวันตกและพุทธปรัชญามีความสอดคล้องกันในเรื่องญาณวิทยากับปัจจัยแห่งสัมมาทิฏฐิ 2) จิตเดิมแท้ในพุทธปรัชญาเซนมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า ภวังคจิตในพุทธปรัชญาเถรวาท 3) อรรถปริวรรตศาสตร์ตะวันตกเดิมทีเป็นการตีความคัมภีร์ทางศาสนา ต่อมาพัฒนาเป็นแนวคิดของญาณวิทยาในปรัชญาหลังนวยุค ส่วนพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์เป็นทฤษฎีบูรณาการ ทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัยนี้ คือ อุปายโกศลวิธี 4) การประยุกต์ใช้พุทธอรรถปริวรรตศาสตร์ว่าด้วยจิตเดิมแท้ในกระบวนการพัฒนาปัญญา แยกเป็น 2 ระดับ คือ 1) โลกิยปัญญาหรือความรู้เชิงจริยธรรม 2) โลกุตรปัญญาหรือความรู้เชิงสัจธรรม ปัญญาทั้งสองระดับอาศัยทฤษฎีอุปายโกศลวิธี คือ โกอาน ซาเซนและมอนโด เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงจิตเดิมแท้ 5) การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในกระบวนการพัฒนาปัญญา มี 3 ประการ คือ 1) วิภาษวิธีแห่งอไทฺวตะ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างอุดมคติกับปัญญาและธรรมะ 2 และ 3) ทฤษฎีพุทธอรรถปริวรรตศาสตร์เซน
- Publicationอุปายโกศลวิธี: ทฤษฎีการตีความในพุทธปรัชญาเซนพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน (พุดชู); Phramaha Surachai Jayabhivaddhano (Phutchu) (2019)ทฤษฎีการตีความเชิงพุทธปรัชญามหายานที่สำคัญ คือ อุปายโกศลวิธี ซึ่งเป็นตัวอย่างของทฤษฎีบูรณาการหรือสัมพัทธนิยมที่เน้นทั้งการอธิบายความและการตีความ โดยความหมายแล้ว อุปายโกศลวิธี หมายถึง ความฉลาดในการสอนที่มีขอบเขตไม่จำกัด ประยุกต์ได้อย่างหลากหลาย ในพุทธปรัชญาเซนมีเครื่องมือสำคัญที่จัดเป็นอุปายโกศลวิธีเรียกว่า โกอาน ซาเซนและมอนโด ทั้งสามเครื่องมือเป็นรูปแบบการสอนที่เป็นอัตลักษณ์ของเซน ผู้สอนต้องมีประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติหรือการบรรลุธรรม จีงสามารถถ่ายทอดธรรมะผ่านเครื่องมือทั้งสามให้ศิษย์ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ พุทธปรัชญาเซนจึงเน้นประสบการณ์ทางจิตของปัจเจกชน ซึ่งการเข้าถึงประสบการณ์ทางจิตไม่สามารถบันทึกไว้ได้ด้วยภาษาซึ่งมีขอบเขตที่จำกัด กระนั้น ตัวภาษาเองก็มีส่วนสำคัญในฐานะเป็นกระบวนการที่เรียกว่า กายวิญญัติและวจีวิญญัติให้ศิษย์เข้าถึงธรรมะที่มีอยู่แล้วในทุกคนผ่านเครื่องมือ คือการขบคิดปริศนาธรรม (โกอาน) รวมถึงการสนทนาถามตอบแบบฉับพลัน (มอนโด) และการปฏิบัติธรรม (ซาเซน) ที่จัดเป็นทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษาในการสื่อสาร เครื่องมือทั้งสามจึงเป็นตัวอย่างของทฤษฎีอุปายโกศลวิธีที่เน้นการสอนเชิงผลสัมฤทธิ์ คือการเข้าถึงพุทธภาวะในทัศนะของพุทธปรัชญาเซน