บาลีและสันสกฤต : Pali and Sanskrit
Permanent URI for this community
Browse
Browsing บาลีและสันสกฤต : Pali and Sanskrit by Language "pi"
Now showing 1 - 9 of 9
Results Per Page
Sort Options
- Publicationปฐมสมโพธิกถา ปริจเฉทที่ 16-23 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาดุสิตศักย์ สุวรรณอาสน์ (2004)คัมภีร์ปฐมสมโพธิเป็นคัมภีร์ที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา ฉบับในล้านนาเป็นสำนวนที่เก่าที่สุด มี 9 ปริจเฉท ต่อมาสมัยอยุธยา และรัตนโกสินทร์ ได้แต่งตั้งขึ้นอีกหลายสำนวนเพราะยุคสมัยนั้นการฟังเทศน์ชอบฟังพุทธประวัติเป็นเทศน์ทำนองในวันสำคัญ ทั้งภาษษบาลีและภาษาไทย
- Publicationปัญญาสชาดก เรื่องที่ 1-7 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหามานะ กลมกลาง (2004)การศึกษาปัญญาสชาดก ฉบับตัวเขียน ที่ผู้วิจัยค้นพบมีอยู่มากมายในหอสมุดแห่งชาติ และวัดต่างๆ ทำให้ได้ทราบต้นฉบับ การจาร เนื้อหา ความนิยมที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งตัวเขียนฉบับใบลานเดิมสันนิษฐานว่าได้สูญหายไป คงอยู่แต่ฉบับตัวเขียน ๒ ประเภท คือ ฉบับตัวเขียนที่ไม่มีประวัติการจาร และฉบับตัวเขียนที่มีประวัติการจารในสมัยต่อมาจากชาดกเรื่องที่ ๑-๗ คือสมุทรโฆษชาดก สุธนกุมารชาดก สุธนุชาดก รตนปัชโชตชาดก สิริวิปุลกิตติชาดก วิปุลราชชาดก และสิริจุฑามณีชาดก ผู้วิจัยพบว่า ๓ เรื่องแรก มีสาเหตุมาจากมาตุคาม ลักษณะเรื่องเป็นเรื่องประโลมโลก ที่ก่อให้เกิดทุกข์ ที่เหลือแสดงถึงการบำเพ็ญทานบารมีเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้นทานในระดับอุปบารมีและปรมัตถบารมี ที่ยวดยิ่งของพระโพธิสัตว์ผู้มุ่งโพธิญาณ ผู้แต่งได้นำเสนอมุ่งเน้นให้เกิดศรัทธามากกว่าการปฏิบัติตามได้จริง แต่ถือเป็นทิฏฐานุคติได้ ปัญญาสชาดกเป็นชาดกนอกนิบาต ในส่วนที่เป็นฉบับตัวเขียนใบลาน ภาษาบาลี อักษรขอมที่จารต่อกันมาในประเทศไทย ยังไม่มีใครปริวรรตตรวจสอบชำระเป็นภาษาบาลี อักษรไทย มีแต่ฉบับแปลไทยของหอสมุดแห่งชาติซึ่งเป็นฉบับหลักในการศึกษา และมีวรรณคดีไทยที่นำเรื่องชาดกบางเรื่องมาดัดแปลงนำเสนอ เช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ (สมุทรโฆสชาดก) สุธนมโนห์รา (สุธนกุมารชาดก) กลับเป็นที่รู้จักนิยมชมชอบซึมซาบในจิตใจของคนไทยอย่างยิ่ง เนื้อหาของวิทยานิพนธ์นี้แบ่งออกเป็น ๕ บท คือ : บทที่ ๑ ว่าด้วยบทนำ พรรณนาถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาวิธีดำเนินการวิจัยและตรวจสอบชำระ บทที่ ๒ ว่าด้วยการศึกษาวิเคราะห์ปัญญาสชาดก ในประเด็นต่างๆ คือ ประวัติความเป็นมา อรรถกถาชาดกกับปัญญาสชาดก ต้นฉบับตัวเขียนที่ใช้ในการวิจัยตรวจสอบชำระ วิวัฒนาการความเป็นมาของการจารและคัดลอก ข้อผิดพลาดในการจารแต่ละฉบับ บทที่ ๓ ว่าด้วยการศึกษาเปรียบเทียบปัญญาสชาดกฉบับอักษรขอม อักษรมอญ ในด้านเนื้อหา สำนวนภาษา คาถา หลักธรรมในพระพุทธศาสนา คติความเชื่อ บทที่ ๔ ว่าด้วยปัญญาสชาดกที่ปริวรรตชำระตรวจสอบแล้ว บทที่ ๕ ว่าด้วยบทสรุปและข้อเสนอแนะ ภาคผนวก ผู้วิจัยได้สรุปชาดกแต่ละเรื่องไว้ประกอบการศึกษาสำหรับผู้สนใจ ผลของการวิจัยพบว่า ปัญญาสชาดกไม่มีประวัติความเป็นมาชัดเจนแน่นอนแต่ยอมรับกันว่าแต่งประมาณปี พ.ศ. ๒๐๐๐ ผู้แต่งได้ดัดแปลงนิทาน คติความเชื่อที่มีอยู่ในท้องถิ่นผสมกับอรรถกถาชาดก หลักธรรมในพระพุทธศาสนา ใช้ภาษาบาลีถ่ายทอด ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ผู้แต่งใช้ภาษาบาลีเรียบเรียงผูกประโยคได้ไม่ดีนัก ประกอบกับการจารต่อกันมามีข้อผิดพลาดตกหล่นมาก แม้จะมีปรากฏอยู่หลายฉบับ แต่เป็นภาษาบาลีฉบับตัวเขียน อักษรขอม ซึ่งยากต่อการศึกษาของผู้สนใจ ส่วนใหญ่มุ่งศึกษาฉบับแปลไทยเท่านั้น และได้รับความนิยมสนใจดัดแปลงเนื้อหาสาระของเรื่องเป็นโคลงฉันท์ กาพย์ กลอน เพลง แหล่ จนวิวัฒนาการมาเป็นละคร ภาพยนต์โทรทัศน์จนถึงปัจจุจัน
- Publicationปัญญาสชาดก เรื่องที่ 8-27 : การตรวจขำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาธานินทร์ คำกมล (2003)วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเชิงวิเคราะห์ตรวจชำระคัมภีร์ปัญญาสชาดกบุรพภาคตั้งแต่เรื่องที่ ๘-๒๗ จำนวน ๒๐ เรื่อง เพื่อให้ได้คัมภีร์ปัญญาสชาดกฉบับบาลีอักษรไทยที่สมบูรณ์ถูกต้องตามหลักภาษาแต่ก็พยายามรักษาตามต้นฉบับของผู้แต่งมากที่สุดเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้ถึงลีลาการแต่งของท่าน ผู้วิจัยได้แบ่งเนื้อหาของงานวิจัยออกเป็น ๔ บท ซึ่งแต่ละบทจะอธิบายถึงจุดประสงค์ที่ต้องการศึกษา ดังนี้ บทที่ ๑ ว่าด้วยความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา วิธีดำเนินการวิจัยและตรวจสอบชำระ บทที่ ๒ ว่าด้วยการศึกษาเชิงวิเคราะห์คัมภีร์ปัญญาสชาดก ในประเด็นต่างๆ คือ (๑) ต้นฉบับตัวเขียนที่ใช้ในการวิจัยและตรวจชำระ (๒) วิวัฒนาการความเป็นมาของการคัดลอกและการจารต้นฉบับ (๓) ข้อผิดพลาดในการจาร (๔) การเปรียบเทียบปัญญาสชาดกฉบับอักษรขอมทั้ง ๘ ฉบับ เกี่ยวกับ เนื้อหาที่ต่างกัน และสำนวนภาษา (๕) หลักธรรมในพระพุทธศาสนา และคติความเชื่อ บทที่ ๓ ว่าด้วยคัมภีร์ปัญญาสชาดกที่ตรวจชำระแล้ว บทที่ ๔ ว่าด้วยบทสรุปและข้อเสนอแนะ ส่วนภาคผนวกเป็นการแปลสรุปชาดกแต่ละเรื่องเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาสำหรับผู้สนใจ ผู้วิจัยได้ศึกษาเปรียบเทียบปัญญาสชาดกฉบับอักษรขอมทั้ง ๘ ฉบับ ในหัวข้อต่อไปนี้ (๑) เนื้อหาที่ต่างกัน แบ่งเป็น ๓ กรณี คือ กรณีที่ ๑ เนื้อความในฉบับใดฉบับหนึ่งขาดหายไปเพียงฉบับเดียว กรณีที่ ๒ เนื้อความขาดหายไปในที่เดียวกันหลายฉบับ กรณีที่ ๓ เนื้อความฉบับปริวรรตกับฉบับตรวจสอบมีเนื้อความต่างกัน (๒) สำนวนภาษา พบว่าผู้แต่งใช้ประโยคกัตตุวาจกเป็นส่วนมาก ใช้คำศัพท์และสำนวนธรรมดา ไม่ยากเกินไป ซึ่งผู้มีความรู้ภาษาบาลีขั้นพื้นฐานก็สามารถอ่านเข้าใจได้ ผู้วิจัยได้แบ่งกลุ่มการเปรียบเทียบลักษณะของสำนวนภาษา โดยอาศัยหลักไวยากรณ์ ซึ่งมีข้อแตกต่างที่นำมาแสดงไว้ ๒ ประเด็น คือ (๑) การใช้กิริยาในประโยค (๒) การใช้ศัพท์ในประโยค ส่วนหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ผู้วิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นหลักธรรมขั้นจริยธรรม ศีลธรรม สำหรับผู้อยู่ครองเรือน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อความสงบสุขและความสามัคคีของสังคมที่อยู่ร่วมกัน พอสรุปได้ดังนี้ (๑) วิริยะ ความเพียร, ความบากบั่น (๒) ทาน ทั้งพาหิรทาน และอัชฌัตติกทาน (๓) ความกตัญญูกตเวที (๔) เมตตา ความรัก, ความปรารถนาให้เขามีความสุข (๕) ศีล มี ทั้งศิล ๕ ศิล ๘ หรืออุโบสถศีล (๖) กัลยาณธรรม ๕ ประการสำหรับสตรี (๗) ปติวัตร ความซื่อสัตย์ต่อสามี (๘) ทศพิธราชธรรม คติความเชื่อ ความเชื่อของผู้แต่งหรือของคนในสมัยนั้นเท่าที่พบในชาดกทั้ง ๒๐ เรื่องที่ผู้วิจัยได้ศึกษามีดังนี้ (๑) ผลแห่งกรรมที่เคยทำไว้ในกาลก่อน (๒) การเสี่ยงปุสสรถหรือบุษยรถ (๓) เรื่องพระอินทร์ (๔) เรื่องปาฏิหาริย์ (๕) เรื่องบุคคลที่ไม่ควรคบ ๓ ประเภท (๖) เรื่องการทำบุญปล่อยสัตว์ (๗) เรื่องการสร้างพระไตรปิฎก (๘) เรื่องการสร้างและการปิดทองพระพุทธรูป (๙) เรื่องการสร้างศาลาพักริมทาง
- Publicationปัญญาสชาดกปฐมภาค เรื่องที่ 28- 44 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาประสิทธ์ ทองปาน (2004)ชาดกเป็นคำสอนส่วนหนึ่ง ในวังคสัตถุศาสน์ อันเป็นคำสอบสวนที่แสดงพระจริยวัตร ของพระโพธิสัตว์ที่ได้เคยประพฤติมาแล้วในอดีตชาติ มีจำนวน 550 ชาดก เป็นพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงตามเหตุที่เกิดขึ้น คล้ายกับพระสูตรทั้งหลาย ซึ่งจัดเป็นคัมภีร์หนึ่งเรียกว่าชาดกบาลี ที่พระสังคีติกาจารย์ทั้งหลายได้รวบรวมสังคายนาจัดเป็นหมวดหมู่เรียกว่านิบาดชาดก ส่วนปัญญาสชาดก คือชาดก 50 เรื่องนั้น เป็นชากดกนอกนิบาด เป็นวรรณกรรมที่พระภิกษุสงฆ์ในยุคหลัง ซึ่งเป็นชาวล้านนาที่มีความรู้ภาษาบาลีแต่งเลียนแบบชาดกอรรถกถา แสดงเหตุเกิดในปัจจุบันของเรื่อง และเล่าเรื่องในอดีตชาติของบุคคลในชาติปัจจุบันที่เป็นเหตุให้ทรงแสดงชาดก จบลงด้วยพระพุทธเจ้าทรงแสดงคาถาเป็นคติธรรมให้ผู้ฟังนำไปประพฤติปฏิบัติ การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยปัญญาสชาดก เรื่องที่ 28- 44 เป็นการตรวจสอบชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์ปัญญาสชาดกอักษรขอม เป็นบาลีอักษรไทย พร้อมทั้งวิเคราะหืหลักธรรมและคติธรรม ผลการวิจัยพบว่า สำนวนภาษาบาลี มีรูปประโยคและคำศัพท์ แตกต่างจากภาษาบาลีที่ปรากฏในปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการแต่ง หรือจากการจารผิด คัดลอกผิด สืบต่อมา ส่วนหลักธรรมมีอยู่ 2ระดับ คือ โลกิยธรรมและโลกุตตรธรรม นอกจากนั้นยังปรากฏคติความเชื่อตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนากับความเชื่อดั้งเดิมที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ
- Publicationปัญญาสชาดกปฐมภาค เรื่องที่ 45-50 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาประสานชัย ตรีพงษ์ศิลป์ (2004)การวิจัยคัมภีร์ปัญญาสชาดกปฐมภาค ผู้วิจัยได้วิจัยชาดก ๖ เรื่อง คือ วรวังสชาดก อรินทมชาดก รถเสนชาดก สุวัณณสิรสาชาดก วนาวนชาดก และพากุลชาดก ปัญญาสชาดกแต่ละชาดก กล่าวถึงการเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ของพระพุทธเจ้ามีการบำเพ็ญบารมีในลักษณะต่างๆ เช่น บริจาคทาน รักษาศีล โดยที่ท่านผู้แต่งมีความประสงค์จะประกาศศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า ผ่านตัวละครในชาดกเป็นสำคัญ สิ่งที่ท่านเน้นเป็นพิเศษก็คือ การทำความดี กับทำความชั่ว และผลที่ได้รับ วิทยานิพนธ์นี้มี ๔ บท คือ บทที่ ๑ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ บทที่ ๒ ศึกษาวิเคราะห์ และเปรียบเทียบคัมภีร์ปัญญาสชาดก บทที่ ๓ คัมภีร์ปัญญาสชาดกที่ตรวจชำระแล้ว บทที่ ๔ สรุปและข้อเสนอแนะ ในภาคผนวก ผู้วิจัยได้สรุปเนื้อหาของวรวังสชาดก อรินทมชาดก รถเสนชาดก สุวัณณสิรสาชาดก วนาวนชาดก และพากุลชาดกไว้เป็นภาษาไทย เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่มีความชำนาญในภาษาบาลี จะได้ศึกษาปัญญาสชาดกทั้ง ๖ ชาดก ได้ ข้าพเจ้าทำการวิเคราะห์คัมภีร์ปัญญาสชาดกเป็นต้นแล้วจึงรู้ว่า ท่านผู้เขียนคัมภีร์ปรารถนาให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้นานและมั่นคง จึงเขียนคัมภีร์ปัญญาสชาดกไว้ ขนทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมเรียกบุคคลผู้รู้ในประโยชน์ของตนแล้วขวายในประดยชน์ของตนและไม่ทำประโยชน์ของผู้อื่นให้เสื่อมไปว่า เป็นบัณฑิต ปัญญาสชาดกก็ได้อาศัยบัณฑิตนั้นจึงเกิดขึ้นในโลกนี้ได้ ผู้ใดปรารถนาความเจริญงอกงามไพบูลย์แก่ชีวิตของตนๆ ผู้นั้นศึกษาพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา ทำสาระประโยชน์ให้เกิดในตน ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว ย่อมประสบความเจริญงอกงามไพบูลย์แน่นอน พุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมากจึงนิยมศึกษาเรื่องราวในคัมภีร์ปัญญาสชาดกเป็นต้น โดยนัยที่กล่าวแล้วตั้งแต่ต้นนั่นแล
- Publicationปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค เรื่องที่ 1-4 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาอาคม แก้วใส (2005)ชาดกเป็นคำสอนส่วนหนึ่ง ในนวังคสัตถุศาสน์ อันเป็นคำสอนส่วนที่แสดงพระจริยวัตรของพระโพธิสัตว์ที่ได้เคยประพฤติมาแล้วในอดีตชาติ มีจำนวน ๕๕๐ ชาดกเป็นพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงตามเหตุที่เกิดขึ้น คล้ายกับพระสูตรทั้งหลายซึ่งจัดเป็นคัมภีร์หนึ่งเรียกว่า ชาดกบาลี ที่พระสังคีติกาจารย์ทั้งหลายได้รวบรวมสังคายนาจัดเป็นหมวดหมู่เรียกว่า นิบาตชาดกส่วนปัญญาสชาดก คือชาดก ๕๐ เรื่องนั้น เป็นชาดกนอกนิบาต เป็นวรรณกรรมที่พระภิกษุสงฆ์ในยุคหลัง ซึ่งเป็นชาวล้านนาที่มีความรู้ภาษาบาลีแต่งเลียนแบบชาดกอรรถกถาแสดงเหตุเกิดในปัจจุบันของเรื่อง และเล่าเรื่องในอดีตชาติของบุคคลในชาติปัจจุบันที่เป็นเหตุให้ทรงแสดงชาดก จบลงด้วยพระพุทธเจ้าทรงแสดงคาถาเป็นคติธรรมให้ผู้ฟังนำไปประพฤติปฏิบัติการวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยปัญญาสชาดก เรื่องที่ ๑-๔ เป็นการตรวจสอบชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์ปัญญาสชาดกอักษรขอม เป็นบาลีอักษรไทย พร้อมทั้งวิเคราะห์หลักธรรมและคติธรรมผลการวิจัย พบว่า สำนวนภาษาบาลี มีรูปประโยคและคำศัพท์แตกต่างจากภาษาบาลีฉบับมาตรฐาน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการแต่ง หรือจากการจารผิดคัดลอกผิดสืบต่อกันมา ส่วนหลักธรรมมี ๒ ระดับ คือ โลกิยธรรมและโลกุตตรธรรม นอกจากนั้นยังปรากฏคติความเชื่อตามหลักธรรม ในพระพุทธศาสนากับความเชื่อดั้งเดิมที่ถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ
- Publicationปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค เรื่องที่ 9-11 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระมหาจรัญ บัวชูก้าน (2003)การวิจัยคัมภีร์ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ผู้วิจัยได้วิจัยชาดก ๓ เรื่อง คือ วรนุชชาดก สิรสาชาดก และ จันทฆาธชาดก พร้อมกันนี้ก็ได้วิจัยเรื่องนอกชาดก ๓ เรื่อง คือ ปุญจพุทธพยากรณ์ ปัญจพุทธศักราชวรรณนา และอานิสงส์ผ้าบังสุกุล ปัญญาสชาดก แต่ละชาดก กล่าวถึงการเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ของพระพุทธเจ้า มีการบำเพ็ญบารมีในลักษณะต่างๆ เช่น บริจาคทาน รักษาศีล เป็นต้น โดยที่ท่านผู้แต่งมีความประสงค์จะประกาศศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า ผ่านตัวละครในชาดกเป็นสำคัญ สิ่งที่ท่านเน้นเป็นพิเศษก็คือ การทำความดี กับความชั่ว และผลที่ได้รับ เรื่องนอกชาดก คือ ปัญจพุทธพยากรณ์ กล่าวถึงการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ ๕ พระองค์ มีพระกกุสันธโพธิสัตว์เป็นต้น ปัญจพุทธศักราชวรรณนา กล่าวถึงพระโคดมสัมนาสัมพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ความเป็นไปในศาสนาของพระองค์ในช่วงระยะ ๕๐๐๐ ปีอานิสงส์ผ้าบังสุกุลกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของบุคคลผู้ถวายผ้าบังสุกุล และอานิสงส์ที่จะพึงได้รับ วิทยานิพนธ์นี้มี ๔ บท คือ บทที่ ๑ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ของการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ บทที่ ๒ ศึกษาวิเคราะห์ และเปรียบเทียบคัมภีร์ปัญญาสชาดก บทที่ ๓ คัมภีร์ปัญญาสชาดกที่ตรวจชำระแล้ว บทที่ ๔ สรุปและข้อเสนอแนะ ในภาคผนวก ผู้วิจัยได้สรุปเนื้อหา วรนุชชชาดก สิรสาชาดก จันทฆาธชาดก ปัญจพุทธพยากรณ์ ปัญจพุทธศักราชวรรณนา และอานิสงส์ผ้าบังสุกุลไว้เป็นภาษาไทย เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่มีความชำนาญในภาษาบาลี ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ๓ ชาดก และเรื่องนอกชาดก ๓ เรื่อง มีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ การศึกษาเรื่องราวในพระพุทธศาสนาที่มีเนื้อหาเป็นธรรมะล้วน บางครังเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ แต่เมื่อได้ทำการวิจัยปัญญาสชาดก และเรื่องนอกชาดก ผู้วิจัยเห็นว่าสาระสำคัญอยู่ที่การนำเสนอ แระโยชน์ที่แท้จริงคือสิ่งที่ได้รับจากการศึกษา ธรรมะในพระพุทธศาสนาเอื้อประโยชน์สำหรับผู้ปฏิบัติ ผู้ที่มีธรรมะเป็นเครื่องดำเนินชีวิต ย่อมประสบแต่ความสุขและความเจริญ ปัญญาสชาดกมีหลักธรรมที่เป็นประโชนย์สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
- Publicationปัญญาสชาดกปัจฉิมภาคเรื่องที่ 5-8 : การตรวจชำระและศึกษาเชิงวิเคราะห์พระเมธีสุตาภรณ์ (เฉลา ต๊ะทองด้วง) (2004)การวิจัยคัมภีร์ปัญญาสชาดกปัจฉิมภาค ผู้วิจัยได้วิจัยชาดก 4เรื่อง คือ สุวรรณกัจฉปชาดก เทวันทชาดก สุบินชาดก และสุวรรณวงศ์ชาดก ปัญญาสชาดกแต่ละชาดก กล่าวถึงการเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ของพระพุทธเจ้า มีการบำเพ็ญบารมีในลักษณะต่างๆ เช่น บริจาคทาน รักษาศีล เป็นต้น
- Publicationโยชนามูลกัจจายนะปริเฉทที่ 7-8(กิพพิธาน-อุณาทิ) : การตรวจชำระและศึกษาพระมหาชัยศรี แพงตา (2005)โยชนามูลกัจจายนะ แต่งโดยพระญาณกิตติ แต่งสมัยล้านนา เป็นคัมภีร์ที่แต่งอธิบายคัมภีร์มูลกัจจายนะ จารลงในใบลานด้วยอักษรขอม เป็นคัมภีร์เรียนเฉพาะในประเทศไทยโดยทั่วไปเรียกว่ากัจจายนไวยากรณ์ จัดเป็นคัมภีร์ประเภทวรรณคดี สายสัททาวิเสส เนื้อหาของวิทยานิพนธ์นี้ แบ่งออกเป็น ๕ บท คือ : บทแรก เป็นบทนำ กล่าวถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา และวิธีดำเนินการวิจัย, บทที่ ๒ ศึกษาโยชนามูลกัจจายนะ คือ ต้นฉบับคัมภีร์ที่ใช้ในการตรวจชำระ วิธีการและหลักเกณฑ์การตรวจชำระ วิวัฒนาการความเป็นมาของการคัดลอกและการจารต้นฉบับ ข้อผิดพลาดที่พบในการจาร ในด้านเนื้อหา และวิธีการเขียนคัมภีร์โยชนามูลกัจจายนะ ลักษณะภาษา คุณค่าของคัมภีร์โยชนามูลกัจจายนะ และนิคมนคาถา, บทที่ ๓ โยชนามูลกัจจายนะที่ตรวจชำระแล้ว พร้อมทั้งข้อผิดพลาด, บทที่ ๔ โยชนามูลกัจจายนะแปล, บทที่ ๕ ว่าด้วยบทสรุปและข้อเสนอแนะ ผลของการวิจัยพบว่า คัมภีร์โยชนามูลกัจจายะ ปริเฉทที่ ๗-๘ (กิพพิธาน และอุณาทิ) มีการจารลงในใบลานอักษรขอม ภาษามคธ ฉบับสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นฉบับที่มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ที่สุด และมีการแต่งคัดลอกต่อ ๆ กันมาหลายฉบับ ลักษณะการนำเสนอเนื้อหาในคัมภีร์มูลกัจจายะมีวิวัฒนาการมาจากคัมภีร์พระไตรปิฎก และสัททาวิเสสอื่น ๆ คือ คัมภีร์สัททนีติ, คัมภีร์รูปสิทธิ, คัมภีร์นยาสะ, และคัมภีร์โมคคัลลานะ ด้วยการนำเนื้อหามาจากคัมภีร์สัททาวิเสสต่าง ๆ แสดงอ้าง ปรับปรุง และแต่งเสริมเข้าไป บางส่วนพระญาณกิตติแต่งขึ้นเอง คือแต่งอธิบายศัพท์ที่ประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ โดยอ้างสูตร วุตติ และอุทาหรณ์จากคัมภีร์อื่น ๆ มาประกอบการอธิบายศัพท์เพื่อเป็นการรองรับความสมบูรณ์ของคัมภีร์ที่ท่านแต่ง