Publication:
พัฒนาการธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป ทศวรรษที่ 2510-2530

Simple item page
dc.contributor.authorกวินวัฒน์ หิรัญบูรณะ
dc.contributor.authorKawinwat Hiranburanaen
dc.coverage.temporal1967-1987
dc.date.accessioned2023-12-16T09:16:38Z
dc.date.available2023-12-16T09:16:38Z
dc.date.issued2015
dc.date.issuedBE2558
dc.description.abstractธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีพ.ศ.2529-2535ที่เสื้อผ้าสำเร็จรูปกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้สูงสุดของไทย ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปถือเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ในระบบเศรษฐกิจของไทยที่แต่เดิมพึ่งพาการค้าสินค้าเกษตรมาตั้งแต่ช่วงสนธิสัญญาเบาว์ริง พ.ศ.2398 ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศไทยเกิดขึ้นปีพ.ศ.2509 เมื่อมีการตั้งโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปของบริษัทไทยเอ็กซ์พอร์ตการ์เมนท์ของนักลงทุนชาวฮ่องกงโดยมีพัฒนาการสามารถแบ่งได้2 ช่วงดังต่อไปนี้คือพ.ศ.2510-2525 และพ.ศ. 2526-2537 แม้ว่าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในไทยจะยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากเท่าใดนัก ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปพ.ศ.2510-2525กลับขยายตัวขึ้นได้โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่2และ3ซึ่งมีความต้องการให้เกิดการลงทุนและการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก จึงทำให้เกิดนโยบายสนับสนุนทางด้านการลงทุนและเพื่อการส่งออกจำนวนมากจากภาครัฐ ทั้งนโยบายจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและนโยบายช่วยเหลือทางด้านภาษีเป็นต้น ประกอบกับการเข้าร่วมในสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิ่งทอหรือข้อตกลงว่าด้วยการค้าสิ่งทอระหว่างประเทศ(Multi-fibre arrangement)ทำให้ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศผู้ส่งออกอื่นๆได้ ทิศทางของธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปในระยะนี้จึงเน้นเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ในขณะที่ตลาดในประเทศเริ่มพบการนำตราสินค้าวาโก้เข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัทในเครือบริษัทสหพัฒนพิบูล แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อยของธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งหมด ในช่วงที่2 แม้ว่าธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปยังคงผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก แต่ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยกลับได้รับผลกระทบจากสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิ่งทอ เมื่อประเทศผู้นำเข้าเริ่มมอบโควตาที่ไม่เพียงพอต่อผู้ประกอบการไทยส่งผลให้ประเทศไทยเริ่มส่งสินค้าเกินโควตาที่ได้รับจนเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ.2525-2526 และปีพ.ศ.2528ซึ่งสหรัฐประกาศห้ามนำเข้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากไทย ทำให้ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปเพื่อการส่งออกเริ่มประสบปัญหาในเรื่องตลาด ทำให้ผู้ประกอบการจึงต้องแก้ไขปัญหาไปใน2ทิศทางคือ 1.ส่งออกไปยังประเทศนอกสนธิสัญญาสิ่งทอระหว่างประเทศว่าด้วยสิ่งทอให้มากขึ้น 2.ปรับเปลี่ยนมาหาตลาดในประเทศมากขึ้น จึงทำให้พบผู้ประกอบการเสื้อผ้าสำเร็จรูปเดิมหันมาสร้างตราสินค้าของตนเองมากยิ่งขึ้น มีทั้งการนำเข้าลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศและการสร้างตราสินค้าขึ้นเอง ผู้ประกอบการที่นำเข้าตราสินค้ามาจากต่างประเทศมักมีความได้เปรียบกับผู้ประกอบการท้องถิ่นอื่นๆ อาทิ ทุน และการรวมตัวในแนวดิ่งและแนวนอนทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถผลิตวัตถุดิบที่เหมาะสม เป็นต้น ในขณะที่ผู้ประกอบการที่สร้างตราสินค้าขึ้นเองต้องประสบปัญหา โดยการพยายามนำเสนอสินค้าโดยเน้นเรื่องวัตถุดิบและราคาที่ถูกกว่าเพื่อแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่นๆแทน
dc.description.abstractThe ready to wear clothing business was one of the products that made incomes for Thailand, especially in B.E. 2529-2535. Those years were the years that the ready to wear clothing became the highest export values in Thailand. The ready to wear clothing business was the new born business in Thai economic system. Because in the past few decades Thai economic system depended on the agriculture and raw materials products, such as rice, sugarcane, tin. Since the Bowring treaty in B.E. 2398. The ready to wear clothing business emerge in B.E. 2509 when Hong Kong investors started Thai garment export co,ltd in Thailand. We can divide these developments into 2 stages. 1. B.E. 2510-2525 and 2. B.E. 2526-2537 Even the ready to wear clothing weren’t popular among Thai society but the ready to wear clothing business in B.E. 2510-2525 can expand by these factors.First by the National Economic and Social development plan (NESD plan) especially the second and the third plans that encouraged the domestic investments and to support their business to export their products to other countries. So in this period, we have seen many of the government’s policies such as, the supported policiesfrom the Board of investment (BOI) and the tax refund from the Ministry of finance. And another factor is to join the Multi-Fibre arrangement (MFA) that helped Thai ready to wear clothing business can compete with other exporters countries. These factors pushed the ready to wear clothing business in Thailand to focus mainly for export market. The only domestic group that starts to focus on domestic market was “Sahapat Group” when they started to manufacture and sell the women underwear named “Wacoal” in Thailand. In the second period, the ready to wear clothing business was still mainly on export market. But in this period the foreign markets especially in MFA countries started to be difficulties though the lack of quota extension. The entrepreneurs didn’t receive the quota enough for them to expand their business. So Thailand started to export the textile products more than the quota that they had. This situation became conflict between Thailand and U.S.A. in B.E. 2525-2526 and B.E. 2528 when U.S.A. forbid the textile and ready to wear clothing from Thailand. The ready to wear clothing business had to adapt into 2 directions. First to export to Non MFA countries or to focus in domestic market instead. These groups of entrepreneurs tried to make their own trademarks by importing the foreign license or starting their new one by their own. The entrepreneurs that choose the import solution always had their advantage than other local entrepreneurs such as capital, vertical and horizontal integration that make these entrepreneurs were able to control their raw materials. While the group that starting their trademark on their own had to present their product with their good material and cheaper price than other importing one to compete with them.en
dc.identifier.urihttps://harrt.in.th/handle/123456789/7937
dc.language.isoth
dc.subjectเสื้อผ้าสำเร็จรูป
dc.subjectธุรกิจสิ่งทอ
dc.subjectการสร้างตราสินค้า
dc.subjectสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิ่งทอ
dc.subjectการขยายตัวจากธุรกิจสิ่งทอสู่ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จ
dc.subjectReady To Wear Clothing
dc.subjectMulti-Fibre Arrangement
dc.subjectTrademark
dc.subject.isced0222 ประวัติศาสตร์และโบราณคดี
dc.subject.oecd6.1 ประวัติศาสตร์และโบราณคดี
dc.titleพัฒนาการธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป ทศวรรษที่ 2510-2530
dc.title.alternativeThe development of ready to wear clothing business in 2510-2530 decadesen
dc.typeวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท (Master Thesis)
dspace.entity.typePublication
harrt.itemID44
harrt.researchAreaประวัติศาสตร์
harrt.researchGroupประวัติศาสตร์
harrt.researchTheme.1ประวัติศาสตร์ไทย
harrt.researchTheme.2ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ
mods.location.urlhttp://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:91758
thesis.degree.departmentคณะศิลปศาสตร์
thesis.degree.grantorมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
thesis.degree.levelปริญญาโท
thesis.degree.nameศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Files
Collections
ประวัติศาสตร์ไทย