Search Results
แนวคิดทางสุนทรียศาสตร์ในนาฏกรรมโขน: กรณีศึกษาสถาบันนาฏศิลป์บ้านรักษ์ไทย จังหวัดเชียงใหม่
อรอุษา สุขจันทร์ (2015)
บทความนี้มุ่งศึกษา แนวคิดทางสุนทรียศาสตร์เรื่องความงามใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1) ความงามของตัวละคร 2) ความงามของเครื่องแต่งกาย 3) ความงามของท่วงท่าในการรำ 4) ความงามของบทพากย์ และ 5) ความงามของดนตรีประกอบ และวิเคราะห์ความงามในภาพรวมของนาฏกรรมโขน จากการศึกษาพบว่า แนวคิดทางสุนทรียศาสตร์เรื่องความงามในแต่ละประเด็น ดังนี้ 1) ความงามของตัวละครนั้น มีรูปแบบตายตัวแน่นอน นักแสดงที่จะสวมบทบาทการแสดงของแต่ละตัวละคร ต้องมีลักษณะตรงตามที่ตำรากล่าวไว้ตามบุคลิกภาพของแต่ละตัว 2) ความงามของเครื่องแต่งกาย องค์ประกอบต่างๆ จำเป็นต้องมีความสมบูรณ์ครบครัน ตามแบบแผนของการแสดงโขน เพื่อบ่งบอกถึงยศตำแหน่งของตัวละครนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน 3) ความงามของท่วงท่าในการรำ ผู้รำจะต้องเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละฉาก ผ่านการแสดงออกทางการรำ กล่าวคือ ท่าทางที่แสดงออกมาจะต้องบ่งบอกได้ว่าตัวละครนั้นๆ รู้สึกเช่นไร กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน 4) ความงามของบทพากย์ เนื่องจากตัวละครต้องสวมหัวโขน ดังนั้นการดำเนินเรื่องจึงเป็นหน้าที่ของผู้พากย์ บทพากย์ที่สวยงามนั้น ต้องมีความสละสลวยของภาษา รวมถึงน้ำสียงของผู้ภาคต้องสอดคล้องรับกับเครื่องดนตรี เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจเหตุการณ์ของฉากนั้นๆ และ 5) ความงามของดนตรีประกอบ ต้องเป็นดนตรีที่มีท่วงทำนองสอดรับกับผู้พากย์บทและนักแสดง เพื่อให้คนดูเข้าถึงอรรถรสในการรับชม สอดคล้องกับทฤษฎีอัตวิสัย ที่เห็นว่า จิตเป็นแหล่งกำเนิดของความงาม ความงามจึงไม่ได้มีอยู่ภายนอกจิตใจของเรา เนื่องจากแต่ละคนมีมุมมอง ประสบการณ์ชีวิต อารมณ์และความรู้สึกต่างกัน จึงอาจจะมีการตัดสินและให้คุณค่าความงามแก่วัตถุนั้นๆ ต่างกันออกไป ความเป็นอัตนัยของบุคคลจึงเป็นแหล่งกำเนิดของคุณค่าสุนทรียะ และเมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของนาฏกรรมโขนพบว่า นาฏกรรมโขนอยู่ในฐานะอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทำให้เกิดประสบการณ์สุนทรียะ กล่าวคือ การแสดงโขนที่ดีนั้น ต้องให้อรรถรสในการรับชมแก่คนดู ต้องสร้างความประทับใจและความซาบซึ้งกินใจแก่ผู้รับชม จึงจะกล่าวได้ว่า การแสดงโขนนั้นมีคุณค่าทางสุนทรียะ
การเชื่อมโยงสุนทรียศาสตร์ทางนาฏยศิลป์ตะวันตกกับผู้บริโภค
ธนกร สรรย์วราภิภู, Tanakorn Sunvaraphiphu (2017)
to the gods, to plead for farming, healing and celebration. In Medieval Europe, dramatic had been changed as a tool to designate social classes. The flourishing of arts came back in the Renaissance period and continued to the period that artists had to find a
ภาษาไทย การสังเคราะห์ความแตกต่างทางแนวคิดในเรื่องความจริงสูงสุดทางศาสนาระหว่างคริสต์และพุทธให้เป็นหนึ่งเดียว: บทสนทนาระหว่าง “โพธิจิต” กับ “พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” ของพระผู้เป็นเจ้า
นิพนธ์ ศศิภานุเดช, Nipon Sasipanudej (2021)
This research has three primary aims: (1) to construct a short dialogue in dramatic form in the first part, and the rest of the entire article is to elaborate the ideas represented through the dramatized conversation in order
Apostle paul on homosexuality: a critical analysis
Apirak Detwinya (2020)
The number of same sex attraction (SSA) or homosexual people has dramatically increased in the past few decades. Christian communities around the globe have sharedthe same concern and interest on this topic. It is an issue that affects millions
จากสมัยใหม่ (Modernism) สู่หลังสมัยใหม่ (Postmodernism): การขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมสู่ศิลปะกับธรรมชาติ
ทักษิณา พิพิธกุล (2015)
creativity dramatically. This is to meet with human needs for mass production in modern world. Until the arrival of the Postmodernity in the 20th century with the returning to the valueof the past, cultural heritage and nature, a postmodern conception
แนวคิดทางสุนทรียศาสตร์ในนาฏกรรมโขน : กรณีศึกษาสถาบันนาฏศิลป์บ้านรักษ์ไทย จังหวัดเชียงใหม่
อรอุษา สุขจันทร์, Aornusa Sukchan (2015)
to bring the aesthetic experience to the audience and make them feel impress and appreciate with the performance. Summarily, Khon is the dramatic works that has to punctiliously created and produced for the splendid of all elements.