Search Results
หม่อมเจ้าหญิงพิไลยเลขา ดิศกุล กับศิลปะสมัยใหม่ในประเทศไทย
สิทธิธรรม โรหิตะสุข (2016)
วัดติวงศ์ และ นายคอร์ราโด เฟโรจี (Corrado Feroci) หรือศิลป พีระศรี ส่งผลให้ทรงสนใจในศิลปะหลักวิชาทั้งของศิลปะไทยแบบประเพณีและศิลปะตามแบบตะวันตก รวมถึงศิลปะสมัยใหม่ของตะวันตกด้วย ทรงนำความรู้จากศิลปะทั้งสองแนวทางนี้มาผสานกันเพื่อสร้างผลงานจิตรกรรมที่
เจดีย์ช้างล้อมวัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รูปแบบและความสัมพันธ์กับสถูปที่มีหัตถีปราการในศิลปะลังกา
ฉัตตริน เพียรธรรม (2013)
หมายทางด้านประติมานวิทยา จากนั้นนำมาเทียบเคียงกับหลักฐานทางเอกสารประวัติศาสตร์ร่วมสมัยหรือใกล้เคียงกับการสร้างเจดีย์ช้างล้อมองค์นี้เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับแคว้นอื่น ๆ รอบข้างว่ามีความสอดคล้องกับผลการศึกษาเปรียบเทียบทางด้านประวัติศาสตร์...ลังกาและเจาะจงทำพระพุทธรูปปางสมาธิแบบที่นิยมทำในลังการวมทั้งการทำซุ้มครอบช้างที่ล้อมเจดีย์ที่เป็นซุ้มกรอบหน้านางแบบลังกาแต่ก็เป็นการดัดแปลงลดรูปจากรูปแบบศิลปะอยุธยาท้องถิ่นจนเกิดเป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง หลักฐานเอกสารทางประวัติศาสตร์ทั้งศิลาจารึกหลายหลัก
ประวัติศาสตร์ของความซึมเศร้า จาก Melancholia สู่ Depression
ชนกพร ชูติกมลธรรม (2019)
เชิงประวัติของอาการซึมเศร้าในสังคมตะวันตกตั้งแต่สมัยยุคคลาสสิก ยุคกลาง ยุคเรเนสซองส์ ยุคภูมิธรรม ยุควิคตอเรียน ยุคศตวรรษที่ 20 จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งแสดงพัฒนาการของความรับรู้เรื่องโรคซึมเศร้า ที่แปรเปลี่ยน ไปตามความเชื่อและหลักคิดที่มีอิทธิพลต่อสังคมใน
ความเปลี่ยนแปลงของคณะสงฆ์มหานิกายภายใต้อิทธิพลของธรรมยุติกนิกายในช่วงการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 (พ.ศ. 2445 – 2484)
สุปรีดิ์ ณ นคร, SUPREE NANAGARA (2021)
ราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2435 ทำให้รัฐมีนโยบายในการจัดการศึกษาเล่าเรียนในหัวเมือง พ.ศ. 2441 โดยมีคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายเป็นแกนหลักในการเข้ามาจัดการศึกษาฯ จากการสำรวจในท้องถิ่นพบว่าคณะสงฆ์ไทยฝ่ายมหานิกายมีวัตรปฏิบัติและธรรมเนียมแบบแผนทางศาสนาแตกต่างจากคณะสงฆ์ใน...ปริญญานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของคณะสงฆ์มหานิกายที่เกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของธรรมยุติกนิกายในช่วงของการประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 (พ.ศ. 2445 – 2484) เป็นผลต่อเนื่องจากการปฏิรูปการบริหาร
การจัดการเขตเพลิงไหม้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยหลักการบูรณะฟื้นฟูเมืองอย่างเป็นธรรม
พนิต ภู่จินดา, Panit Pujinda, พินัย สิริเกียรติกุล, Pinai Sirikiatikul (2021)
วัสดุที่ไม่ทนไฟและลามไฟได้ง่ายในการก่อสร้างอาคาร และมีการตัดถนนเพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึง ซึ่งเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเฉพาะจุด และมิได้คำนึงถึงความเป็นธรรมต่อผู้ถูกรอนสิทธิมากนัก ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีการนำหลักการบูรณะฟื้นฟูเขตเพลิงไหม้อย่าง...เป็นธรรมมาใช้งาน โดยมีการตราเป็น พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างในเขตเพลิงไหม้ และ พระราชกฤษฎีกาเพื่อเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับเจ้าของที่ดินและผู้เช่าโดยชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังมีการใช้ทั้งสองมาตรการพร้อมกันใน
พราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราช สมัยพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมโศกราช-พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (พ.ศ. 1802-2352)
ดาหวัน สะเม๊าะ, Dawan Samoh (2014)
การศึกษาค้รั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่องพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชสมัยพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมโศกราชจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งพบว่า พราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชมีบทบาทและอิทธิพลมากที่สืบเนื่องมาตลอด โดยมีหลักฐานยืนยันว่า...มีการตั้งหลักแหล่งที่อยู่อาศัยที่เมืองนครศรีธรรมราชมาเป็นเวลานานแล้ว สันนิษฐานว่าช่วงแรกที่พราหมณ์ได้เดินทางเข้ามากับพ่อค้าอินเดียและจัดพิธีกรรมให้กับพ่อค้าอินเดียที่เข้ามาอาศัยและทำการค้ายังสถานที่ต่างบ้านต่างเมือง ต่อมาได้แทรกซึมโดยมีบทบาทและอิทธิพล
การเคลื่อนไหวทางความคิดของพุทธทาสภิกขุกับการเมืองไทย พ.ศ. 2516-2536
วิศรุต บวงสรวง, Witsaroot Buangsuang (2013)
ก่อนหน้า พุทธทาสภิกขุชี้ว่า สำหรับสังคมไทยแล้ว การปกครองตามหลักพระพุทธศาสนา ด้วยแนวทางของ "ธัมมิกสังคมนิยมแบบเผด็จการ" คือแนวทางที่ถูกต้อง ในแนวคิดดังกล่าว พุทธทาสภิกขุเสนอว่า การปกครองที่ดี คือ แสวงหาคนดี/ธรรมราชามาปกครองแบบเผด็จการโดยธรรม ความสัมพันธ์...ของผู้คนในสังคมควรสัมพันธ์ลดหลั่นกันตามลำดับชั้นแห่งหน้าที่ ในระบอบดังกล่าวจะมุ่งไปสู่ความสุขทางจิตใจ/นิพพานเป็นสำคัญ ช่วงสุดท้ายระหว่างกลางทศวรรษ 2520-ถึงพ.ศ. 2536 พุทธทาสภิกขุได้ให้ความสำคัญกับพระมหากษัตริย์และหลักทศพิธราชธรรมเป็นอย่างมาก และชี้ว่าระ
“คนดี สำคัญกว่าทุกสิ่ง”: ญาติธรรมกับการสร้างการยอมรับพุทธทาสภิกขุในสังคมไทย พ.ศ. 2475 -2529
ทิวาพร อภัยพัฒน์, Thiwaporn Apaipat (2017)
เจตนารมณ์ที่จะเผยแพร่องค์ความรู้ พุทธศาสนารูปแบบใหม่ที่เกิดจากการศึกษาหลักพุทธธรรมด้วยตนเอง ผลงานการประพันธ์ของพุทธทาสภิกขุ ได้รับการยอมรับจากกลุ่มข้าราชการไทยและปัญญาชนไทยในทศวรรษ 2470 จากบริบทของสังคมไทยที่เกิดการตื่นตัวในการศึกษาพุทธศาสนาไทย ปัญญาชนไทย...จำนวนหนึ่งได้หันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนาที่มีคำอธิบายสอดคล้องกับหลักเหตุผล พวกเขาปวารณาตัวเป็นญาติธรรมของพุทธทาสภิกขุ วิทยานิพนธ์นี้ศึกษาบทบาทของกลุ่มญาติธรรมที่สนับสนุนพุทธทาสภิกขุให้ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่พุทธศาสนา กลุ่มญาติธรรมของพุทธทาสภิกขุมีความแตก
การศึกษางานแปลปรัชญานิพนธ์จีน สมัยต้นรัตนโกสินทร์ : กรณีศึกษาการแปลสุภาษิตขงจู๊ โดยพระอมรโมลี (จี่)
ศิริวรรณ ลิขิตเจริญธรรม (2020)
ต้นฉบับภาษาจีนอยู่มาก สำหรับการถอดเสียงภาษาจีนเป็นภาษาไทย พบว่าคำทับศัพท์ภาษาจีนในบทแปล เช่น ชื่อบุคคล ใช้ตามเสียงภาษาจีนฮกเกี้ยน(闽南话)สำเนียงจางโจว[2] อนึ่ง ผู้วิจัยคาดว่าวัตถุประสงค์หลักในการแปลปรัชญานิพนธ์เรื่องนี้ คือ ผู้แปลหมายจะเผยแพร่หลักปรัชญาและ
สหายธรรม ญาติธรรมกับการสร้างการยอมรับพุทธทาสภิกขุในทศวรรษ 2490
ทิวาพร อภัยพัฒน์, Thiwaporn Apaipat, สัญญา ชีวะประเสริฐ, Sanya Chevaprasert (2017)
ไทยขณะนั้นก่อให้เกิดการตื่นตัวต่อการศึกษาพุทธศาสนาไทย ปัญญาชนไทยจำนวนหนึ่งหันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนาที่มีคำอธิบายสอดคล้องกับหลักเหตุผล พุทธทาสภิกขุคือพระสงฆ์รูปแรกที่สร้างสรรค์ผลงานประพันธ์ทางพุทธศาสนาที่สอดคล้องกับความต้องการของปัญญาชนไทยในทศวรรษที่ 2470