ภาษาจีน : Chinese
Permanent URI for this community
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านภาษาศาสตร์ภาษาจีน การเรียนการสอนภาษาจีน การแปลภาษาจีน วรรณกรรมจีน และวัฒนธรรมจีน
Browse
Browsing ภาษาจีน : Chinese by browse.metadata.researchtheme1 "จีนโพ้นทะเล"
Now showing 1 - 20 of 24
Results Per Page
Sort Options
- PublicationThe Chinese Hokkien People and the Orchard Development in Bang Kho Laem in the PastBualek, Punnee (2014)In this article the writer attempts to provide the answers to two questions. These are: 1) Why did the Chinese Hokkien people come to practice orchard gardening in Bang Kho Laem? 2) How were these Chinese Hokkien people able to create these praiseworthy orchards? The researcher surveyed the total number of orchards belonging to the Chinese Hokkien people in this area and conducted in-depth interviews with five households of Chinese Hokkien orchard gardeners. The results were: the Chinese Hokkien people, who came to practice orchard gardening in Bang Kho Laem from the beginning of the King RamaV period (1868) to 1967, had done it in China before migrating to Thailand. These groups of people, therefore, were good at fruit tree growing and enjoyed doing it. When they moved to Thailand, the relationships among them were both as Chinese Hokkien people and as members of the same Chinese clan. These relationships strengthened and facilitated the idea of undertaking gardening in this area. The majority of these orchard gardeners were from “Sae Tan or Sae Tang (chenshi) and Sae Sim (shenshi). When they moved to this area, they found out that it was fertile and suitable for fruit growing. Since these Chinese Hokkien people’s life skills were working as orchard gardeners, they excelled in looking after the fruit trees continuously all year round. The qualities that these Chinese Hokkien people possessed were their hard work and perseverance, working, in fact, as hard as other Chinese coolies. The fact that they were keen on saving money and establishing good relationships with their Thai neighbors, both land owners and those who lived there, enabled them to live happily until they were confronted by modern progress and development, which changed their way of living and, thus, their careers as orchard gardeners came to an end.
- Publicationการตั้งถิ่นฐานและการปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรม : กรณีศึกษาชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนในชุมชนบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการLAN, CHANGLONG (2011)การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยค้นพบว่า ชุมชนบางน้ำผึ้งนอกจากมีชาวไทย ชาวมอญ และชาวจีนแต้จิ๋วแล้ว ยังมีชาวฮกเกี้ยนซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในและภายนอกชุมชน กลุ่มคนฮกเกี้ยนที่เป็นแกนสำคัญเหล่านี้ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในชุมชนบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการมากกว่า 100 ปี มาแล้ว มูลเหตุในการอพยพประกอบไปด้วยปัจจัยหลักที่สำคัญ ๓ ส่วนคือ ๑) ความยากจนภายในประเทศจีน ๒) ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่บางน้ำผึ้ง ๓) ความสามารถในการปรับตัวของชาวจีนฮกเกี้ยน ซึ่งเหตุเบื้องต้นดังกล่าวก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกันภายในชุมชน ผลของการปรับตัวและผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนฮกเกี้ยนและวัฒนธรรมไทย ปรากฏให้เห็นร่องรอยทางวัฒนธรรมต่างๆ เช่น วัด ศาลเจ้า สุสานจีน ร้านค้า โชวห่วย เครือข่ายตระกูลแซ่ของคนรุ่นต่อมา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันลูกหลานชาวจีนฮกเกี้ยนกลายเป็นแกนสำคัญในการทำธุรกิจในพื้นที่ ทั้งนี้กลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนที่บางน้ำผึ้ง สามารถปรับตัวและเรียนรู้การสมานฉันท์กับคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของตนให้กับคนในบริเวณบางน้ำผึ้งด้วย การศึกษาครั้งนี้ช่วยเติมให้เป็นประวัติศาสตร์ความเป็นจีนถิ่นที่อยู่ในสังคมไทย และสะท้อนให้เห็นพื้นที่การบูรณาการของคนจีนฮกเกี้ยนในบางน้ำผึ้งซึ่งพัฒนาการท้องถิ่นดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ของความเป็นจีนถิ่นในสังคมไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
- Publicationการฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านจีนแคะ (ฮากกา) ห้วยกระบอก : สิ่งท้าทายในภาวการณ์ที่สวนกระแสศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร; Ungsitipoonporn, Siripen (2014)จากการประเมินความพร้อมเบื้องต้นของกลุ่มจีนแคะชุมชนห้วยกระบอก พบว่ามีต้นทุนความพร้อมในหลายๆ ด้านที่สามารถฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านได้ เช่น มีร้านขายอาหารจีนแคะในชุมชน คนส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นคนไทยเชื้อสายจีนแคะ คนรุ่นผู้ใหญ่บางคนมีความตระหนักในคุณค่าของอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีนแคะ คือผักกาดดองเค็มตากแห้ง (ช่อยก็อน) ซึ่งนับวันจะมีคนผลิตน้อยลง คนกลุ่มนี้ยังมีความตระหนักในอัตลักษณ์ของตน โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่ทำให้แตกต่างจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ จึงรวมตัวกันเป็นทีมวิจัยเพื่อนำร่องในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอาหารแก่คนรุ่นเด็กในการฟื้นฟูและสืบสานอาหารจีนแคะต่อไป บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการส่งเสริมการฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านเพื่อถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไปของชาวจีนแคะที่ ชุมชนห้วยกระบอก ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการร่วมกับชุมชน เพื่อศึกษาข้อจำกัดและปัจจัยเกื้อหนุนที่จะก่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ด้านอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ของคนจีนแคะไปสู่รุ่นเด็ก (young generation) หรือจากรุ่นสู่รุ่น ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาสำคัญของการสืบทอดความรู้เรื่องอาหารจีนแคะที่สำคัญคือ คนรุ่นใหม่ในชุมชนไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้อสายจีนแคะเนื่องจากพ่อแม่ไม่เคยบอก ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นไม่มีความซาบซึ้งกับอาหารที่เป็นภูมิปัญญา และเกี่ยวข้องในเชิงประวัติศาสตร์ของบรรพชนของตน ในขณะที่สภาพการณ์ปัจจุบันสามารถหาซื้ออาหารพร้อมรับประทานได้สะดวกทั้งในตลาดสดและซุปเปอร์มาเก็ต ความท้าทายกับภาวะการณ์ที่สวนกระแสกับความจริงที่ว่า อาหารสำเร็จรูปสมัยใหม่กำลังจะมาแทนที่อาหารท้องถิ่นที่มีคุณค่าและต้นทุนต่ำ ถึงแม้ว่าจะมีโครงการวิจัยสนับสนุนการฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านเพื่อการถ่ายทอดสู่รุ่นต่อไป แต่หากไม่มีผู้รับสืบทอด วงจรการผลิตซ้ำจะไม่เกิด ผลที่ตามมาคือ วัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านที่บ่งบอกความเป็นจีนแคะอาจจะหายไปในอนาคตอันใกล้
- Publicationความหมายและอัตลักษณ์ของจีนฮากกาศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร; Ungsitipoonporn, Siripen (2013)คนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยมีหลากหลาย เช่น จีนแต้จิ๋ว จีนฮกเกี้ยน จีนใหหนำ จีนแคะ จีนกวางตุ้ง เป็นต้น แต่หากพูดถึง “จีนฮากกา” คนส่วนใหญ่จะไม่รู้จัก ต้องบอกว่า “จีนแคะ” จะทราบทันที จากหนังสือของอาจารย์วรศักดิ์ “คือ ฮากกา คือ จีนแคะ” ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2546 เป็นต้นมา ได้ทำให้คนส่วนหนึ่งรู้จักคำว่า “ฮากกา” มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีเชื้อสายฮากกาหรือจีนแคะจำนวนหนึ่ง ได้ตื่นตัว สนใจค้นคว้าหาประวัติบรรพบุรุษของตนเอง ประกอบกับกระแสการส่งเสริมให้ดำรงรักษาความหลากหลายของภาษาและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในโลก แต่กระนั้นก็ตามยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่รู้จัก “จีนฮากกา” เนื่องจากไม่มีงานเขียนที่เกี่ยวกับจีนฮากกาอย่างต่อเนื่อง บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ “จีนฮากกา” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความหมายของคำว่า “ฮากกา” ภาษาและสำเนียงถิ่นต่างๆ ของฮากกา อัตลักษณ์ การกระจายตัวของชาวไทยเชื้อสายฮากกาในประเทศไทย การเคลื่อนไหวของลูกหลานในปัจจุบัน รวมถึงอนาคตของฮากกาในประเทศไทยด้วย
- Publicationเครือข่ายวัฒนธรรมหวู่หยวนแบบจีนกับการสร้างชุมชนของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทยพรภวิษย์ หล้าพีระกุล; Lhapeerakul, Pornpawis (2019)วัฒนธรรมหวู่หยวน (五缘文化 Wuyuan Wenhua) หรือ "ความผูกพันห้าประการ" ได้เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมจีนอย่างหนึ่งที่ยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมหวู่หยวนได้อธิบายลักษณะการมีอยู่ของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งซึ่งพันผูกชาวจีนโพ้นทะเลให้มีความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของชาวจีนโพ้นทะเลในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนประชากรชาวจีนโพ้นทะเลมากกว่าร้อยละ 15ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นวัฒนธรรมหวู่หยวนจึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากต่อการสร้างชุมชนของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย งานวิจัยนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับความเป็นมาและนิยามของวัฒนธรรมหวู่หยวน อิทธิพลของวัฒนธรรมหวู่หยวนที่มีต่อชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทยทั้งในด้านชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อทางศาสนา สังคมและการประกอบธุรกิจในประเทศไทย รวมไปจนถึงการนำเอาวัฒนธรรมหวู่หยวนมาเป็นหลักในการสร้างเครือข่ายชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย
- Publicationจารึกอักษรจีนบนระฆังของศาสนสถานจีนในไทย : บันทึกหน้าหนึ่ง ทางประวัติศาสตร์สุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; 黃, 漢坤; Amornwanitsak, Surasit (2015)บทความนี้มุ่งศึกษาจารึกอักษรจีนที่ปรากฏบนระฆังในศาสนสถานของชาวจีนทั่วไทย ทั้งสิ้น 42 ใบ จาก 39 ศาสนสถาน โดยจำแนกประเภทของหัวข้อที่ศึกษาไว้ 6 ด้าน คือ ชื่อสถานที่ พระนามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชื่อผู้ถวาย วัน-เวลาที่จัดสร้าง แหล่งผลิตตัวระฆัง รวมทั้งคำ อวยพรที่ได้ระบุจารึกไว้บนระฆัง จากการศึกษาพบว่าจารึกบนระฆังเหล่านี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีถ้อยความบันทึกอันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวจีนโพ้นทะเลในสยามเมื่อครั้งอดีต ทั้งเรื่อง ความเชื่อ ถิ่นกำเนิด อีกทั้งจารึกที่ปรากฎบนระฆังเหล่านื้ ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลในการ ตรวจสอบข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
- Publicationจีนย่านตลาดน้อย: ศรัทธาและเศรษฐกิจการค้าแห่งจีนสยามภูมิ ภูติมหาตมะ; Putimahtama, Poom (2015)บทความนี้มุ่งศึกษา สำรวจ รวบรวมองค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมในชุมชนชาวจีนย่านตลาดน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเสนอว่า จีนย่านตลาดน้อยเป็นจีนที่มีความหลากหลายในมิติต่างๆ ทั้งตามภาษาจีนถิ่น กลุ่มอาชีพ และโดยเฉพาะความเชื่อทางศาสนา พัฒนาการของจีนย่าน ตลาดน้อยเริ่มต้นจากกลุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนและกลุ่มชาวจีนฮากกาที่เข้ามาสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ตามมาด้วยกลุ่มชาวจีนไหหลำที่เข้ามาสร้างความคึกคักให้กับการค้าในย่านตลาดน้อยภายหลังการเปิดประเทศของสยาม กลุ่มชาวจีนเหล่านี้มีความเชื่อในเทพเจ้าและตั้งศาลเจ้าเฉพาะกลุ่มจีนถิ่นของตนขึ้นในชุมชน ในขณะที่เครือข่ายชาวจีนแต้จิ๋วส่วนใหญ่ในย่านตลาดน้อยเกิดขึ้นที่วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) อย่างเด่นชัด ชาวจีนแต้จิ๋วกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้คือคริสตังจีน ดังนั้นบทบาทของกลุ่มชาวจีนแต้จิ๋วในย่านนี้จึงดำเนินไปควบคู่กับบทบาทของกลุ่มคริสตังจีนอย่างแยกไม่ออก จีนย่านตลาดน้อยจึงเป็นจีนที่ไม่ได้มีบทบาทแต่เพียงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการค้าของกรุงเทพฯ เท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันงานเผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้กว้างขวางออกไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังสามารถจัดตั้งสถานศึกษาของลูกหลานชาวจีนและองค์กรสังคมสงเคราะห์ขึ้นอย่างโดดเด่นในย่าน อันเป็นรากฐานในการก้าวไปสู่ระบบสังคมเมืองสมัยใหม่
- Publicationชาวจีนโพ้นทะเล : ภาพสะท้อนจากสารคดี "เรื่องราวไชน่าทาวน์"ดุษฎี ศิริชัยเทวินทร์ (2010)หนังสือ เรื่องราวในไชน่าทาวน์ (唐人街故事) (พ.ศ. 2548) เรียบเรียงขึ้นจากรายการโทรทัศน์ “เรื่องราวในไชน่าทาวน์” (唐人街故事) ซึ่งเป็นสารคดีเกี่ยวกับการต่อสู้ชีวิตของชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก รวม 31 เรื่อง คุณค่าของสารคดีชุดนี้ คือเป็นแหล่งข้อมูลร่วมสมัยเกี่ยวกับชาวจีนโพ้นทะเล ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชาวจีน อันเกิดจาก 3 คุณลักษณะสำคัญ คือ 1) คุณลักษณะประจำชนชาติจีน 2) การยึดหลักปรัชญาขงจื๊อ และ 3) การรักษาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมจีน ชาวจีนโพ้นทะเลไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือวัฒนธรรมใด จะสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้โดยไม่ยาก ขณะเดียวกันก็ยังรักษาอัตลักษณ์เฉพาะตนไว้ได้ ทั้งในด้านคุณสมบัติประจำตัวคือ ความขยัน อดทน มุมานะ และประหยัด ด้านแนวคิดตามหลักปรัชญาขงจื๊อ ที่เน้นศีลธรรมส่วนบุคคล ศีลธรรมในการปกครอง และความถูกต้องสอดคล้องกับสังคม และด้านวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สัมพันธ์กับการดำเนินชีวิตทั้งด้านร่างกาย (การกระทำ) และจิตใจของชาวจีนในสิ่งแวดล้อมที่ต่างภาษาและวัฒนธรรม การรักษาและปฏิบัติตามประเพณีดั้งเดิม ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความคิดความเชื่อ แต่ยังเป็นสื่อเชื่อมโยงให้ชาวจีนที่อยู่ต่างแดนได้ติดต่อสัมพันธ์กัน ซึ่งส่งผลถึงการทำงานประกอบอาชีพต่อไปด้วย การศึกษาหนังสือสารคดี เรื่องราวในไชน่าทาวน์ นี้ นอกจากจะได้ข้อมูลร่วมสมัยเกี่ยวกับชีวิตของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศต่าง ๆ แล้ว ยังทำให้ตระหนังถึงคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นศูนย์กลางหล่อหลอมและยึดโยงชาวจีนไว้ ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดน สิ่งแวดล้อม หรือวัฒนธรรมใด ก็ยังสามารถคงอัตลักษณ์ความเป็นชนชาติจีนไว้ได้อย่างภาคภูมิ
- Publicationชาวจีนยูนนานหมู่บ้านห้วยผึ้ง ดอยแม่สลอง อําเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายอิสรียา ดวงคํา; ณภัคกัญญา ตรารุ่งเรือง; Daungkam, Issareeya; Trarungruang, Napakkanya (2021)การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการศึกษาประวัติความเป็นมาพลวัตประชากรชาวจีนยูนนานในจังหวัดเชียงราย โดยศึกษาจากเอกสารรวมถึงการเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เจาะประเด็น โดยการเลือกหมู่บ้าน มีการสัมภาษณ์จากผู้ให้ข้อมูลหลัก ที่มีบทบาทสำคัญต่อชาวจีนในหมู่บ้าน คือผู้นำของชุมชน ผู้นำที่ร่วมก่อตั้งชุมชน อาจารย์ ประชากรที่อาศัยในหมู่บ้านห้วยผึ้ง โดยวิธีการสำรวจเก็บข้อมูลจากการทำแบบสอบถาม รวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสถิติ และนำเสนอบทความโดยวิธีการพรรณนา จากผลการวิจัยพบว่า จังหวัดเชียงรายและมณฑลยูนนานของสาธารณรัฐประชาชนจีนมีตำแหน่งที่ตั้งที่ใกล้เคียงกันทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากภูมิประเทศของทั้งสองเป็นเขตภูเขาและมีแม่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นแหล่งรวมกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อให้เกิดเส้นทางเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกับทางมณฑลยูนนานมาอย่างยาวนาน ภาคเหนือของประเทศไทยมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับมณฑลยูนนานเป็นอย่างมาก โดยจังหวัดเชียงรายเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีชาวจีนยูนนานอพยพจากผลกระทบทางการเมืองภายในประเทศเข้ามาพร้อมๆ กับกลุ่มก๊กมินตั๋งหรือที่เราเรียกว่าจีนคณะชาติ ถึงแม้กลุ่มชาวจีนยูนนานจะได้รับผลกระทบจากกระแสโลก สภาพสังคมและกลุ่มคนชาติพันธุ์อื่นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่ชาวจีนยูนนานก็ยังคงยึดถือวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์แบบจีนยูนนานดั้งเดิมจากการเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่มีความเป็นไทยผสมผสานความเป็นจีน และยังเห็นถึงความสามารถในการใช้ภาษาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาเหนือ ภาษาชนเผ่าต่างๆ โดยอาศัยอยู่รวมกันเหมือนกับชื่อสถานที่ตั้งที่ชื่อว่า เหม่ยซื่อเล้อ ที่แปลว่าสันติ
- Publicationทฤษฏีการย้ายถิ่นกับชาวจีนอพยพใหม่ศิริเพ็ชร ทฤษณาวดี; 黄, 瑞真; Trissanavadee, Siripetch (2020)ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนประชากรชาวจีนอาศัยอยู่มากที่สุดประเทศหนึ่งนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีชุมชนชาวจีน (China Town) ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทยนั้นคิดเป็นจ านวนถึงร้อยละ 11 จากจำนวนประชากรทั้งหมด และเนื่องด้วยผลของการกลืนกลาย (assimilation) ที่เป็นไปอย่างราบรื่นในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายรัชสมัยของราชวงศ์ชิง จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยที่ประเทศจีนและไทยจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะในเรื่องของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจผ่านการแลกเปลี่ยนทางการค้าและวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นผ่านชุมชนของชาวไทยและชาวจีน บทบาทและสถานะของชาวจีนโพ้นทะเลได้เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงสมัย ในปัจจุบันผู้อพยพชาวจีนมิได้เป็นผู้อพยพที่เป็นแรงงานไร้ฝีมือดังในอดีตอีกต่อไปเหมือนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น การส ารวจของสถาบันเอเชียศึกษา ศูนย์วิจัยการย้ายถิ่นแห่งเอเชียจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พบว่า ผู้อพยพชาวจีนระลอกใหม่ (ซึ่งในที่นี้จะเรียกว่าชาวจีนอพยพใหม่) ได้มาพร้อมกับทุนเพื่อการลงทุนในธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ (Start-up) ในกรุงเทพฯโดยจากการสำรวจชาวจีนทั้ง 119 คนที่อพยพมาอาศัยอยู่ในย่านห้วยขวางเป็นเวลากว่าหนึ่งปี พบว่าร้อยละ 68.9 ของพวกเขาเป็นผู้ที่จบปริญญาตรีแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาเรื่องการอพยพหรือการย้ายถิ่นของชาวจีนอพยพใหม่มายังประเทศไทยนั้น จะไม่สามารถทำได้สมบูรณ์หากขาดความเข้าใจของกรอบของทฤษฎีที่จะช่วยทำให้เราเข้าใจในการวิเคราะห์สถานการณ์ของการย้ายถิ่นของชาวจีนอพยพใหม่เหล่านี้ได้ ปรากฏการณ์การย้ายถิ่นของกลุ่มชาวจีนนี้ มิได้เกิดขึ้นแค่เพียงในประเทศไทยเท่านั้นแต่ยังเกิดขึ้นไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การปรากฏตัวของชาวจีนภูมิภาคดังกล่าวมักจะถูกจับตามองไปยังเรื่องของการค้า การลงทุน การเมืองและความมั่นคงทั้งนี้ผู้เขียนมีความประสงค์ที่จะน าทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการอพยพและการย้ายถิ่นมารวบรวมและอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการวิจัยเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น
- Publicationบทบาทของคนจีนในการพัฒนาลุ่มน้ำท่าจีนสุภาพร คชารัตน์; Kacharat, Supaporn (2019)คนจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทยเป็นเวลาช้านาน ด้วยความขยันหมั่นเพียรและความชำนาญทางการค้าจึงทำให้คนจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในชีวิต บทความนี้ต้องการนำเสนอถึงบทบาทของคนจีนในการพัฒนาลุ่มน้ำท่าจีน โดยศึกษาเรื่องราวของคนจีนและบทบาทของคนจีนที่อพยพเข้ามาอาศัยในเขตลุ่มน้ำท่าจีน ผ่านการศึกษาในโครงการยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จังหวัดนครปฐม และการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคนจีนในประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า คนจีนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความเจริญสู่ลุ่มน้ำท่าจีนทั้งในฐานะที่เป็นแรงงานขุดคลอง สร้างทางรถไฟ ปลูกสิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นผู้ริเริ่มกิจการอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายในนครชัยศรี เป็นพ่อค้าคนกลางในอุตสาหกรรมค้าข้าว ถ่ายทอดภูมิปัญญาการทำสวนยกร่องให้แก่คนไทย ริเริ่มอาชีพการเลี้ยงหมู การทอผ้าดำ และอาชีพทำโต๊ะจีน เป็นต้น นอกจากนี้บทบาทสำคัญของคนจีนในลุ่มน้ำท่าจีน ก็คือบทบาทการเป็น "พ่อค้า" ที่เป็นผู้บุกเบิกการค้าขายในตลาดริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ด้วยลักษณะนิสัยที่ขยันหมั่นเพียร ประกอบกับความชำนาญในการค้าขายซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนจีน จึงทำให้คนจีนประสบความสำเร็จในการค้า ยิ่งไปกว่านั้น คนจีนในลุ่มน้ำท่าจีนยังมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มตามความเชื่อโดยมีศาลเจ้าและสมาคมจีนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และให้ความช่วยเหลือกันในหมู่สมาชิก ตลอดจนเสริมสร้างการธำรงเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ไว้อย่างเหนียวแน่นจนถึงปัจจุบัน
- Publicationประวัติชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนจากย่านสลัมคนจีน สู่การใช้กีฬาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมแสงอรุณ กนกพงศ์ชัย (2013)ประวัติชีวิตจากตำบอกเล่าของบุคคลตัวอย่างซึ่งวัยเด็กเติบโตในย่านที่เป็นสลัมคนจีนของกรุงเทพฯ ในท่ามกลางวิกฤติชีวิตยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อเนื่องยาวนานมาถึงการถูกไล่รื้อสลัมคนจีน เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์การค้าสยามในปี พ.ศ.2507 เขาและบรรดาผองเพื่อนพี่น้องมีวิธีการจัดการกับตัวเองอย่างไรโดยอาศัยการเล่นกีฬา จนได้รับการยอมรับในสังคมและสามารถต่อยอดไปถึงอาชีพการงานที่มั่นคงและหวนกลับมาพัฒนากีฬาที่เขารักเพื่อเยาวชนปัจจุบัน
- Publicationปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนตำบลปากน้ำโพLi, Man; ธีรโชติ เกิดแก้ว; KerdKaew, Teerachoot (2021)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนในตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้วิธีการวิจัยเอกสารการเก็บข้อมูลภาคสนามด้วย วิธีการสังเกตทั้งมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม และใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) กับคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ตำบลปากน้ำโพ จำนวน 35 คน ผลการวิจัยพบว่า การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยในตำบลปากน้ำโพเกิดจากปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ ปัจจัยภายในตัวบุคคลที่พบ ได้แก่ ความกลัวภัย ทัศนคติ ความต้องการที่ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมในสังคมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ในสังคมไทย ฐานะทางการเงิน และการมีการศึกษาที่สูงขึ้น และปัจจัยแวดล้อมที่พบ ได้แก่ การมีปฏิสัมพันธ์ด้านต่าง ๆ กับคนไทย การแต่งงานกับคู่สมรสที่เป็นชาวไทย ค่านิยมของคนในสังคมไทย ระบบการศึกษาของไทย สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
- Publicationโพธาราม: ประเพณีจีนที่อาจเลือนหายไปตามกาลเวลาพรพรรณ จันทโรนานนท์ (2013)โพธารามเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ประกอบด้วยหลายชาติพันธุ์ มีทั้งที่อาศัยอยู่เฉพาะกลุ่มของตนและอาศัยอยู่รวมกับชาติพันธุ์อื่น ชาวจีนเป็นชาติพันธุ์กลุ่มแรก ๆ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในอำเภอโพธาราม ประกอบอาชีพค้าขายอย่างกว้างขวางจนพัฒนามาเป็นตลาด ปัจจุบัน ชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอโพธารามยังมีการปฏิบัติสืบสานประเพณีวัฒนธรรมจีน แต่การปฏิบัติดังกล่าวได้จางไปมากจากแบบอย่างบรรพบุรุษ จนกล่าวได้ว่าประเพณีวัฒนธรรมจีนกำลังเลือนหายไป
- Publicationระบบความเชื่อที่เกี่ยวกับการค้าขายของคนไทยเชื้อสายจีนในตลาดบ้านใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทราXiong, Shengpu (2013)การศึกษาระบบความเชื่อที่เกี่ยวกับการค้าขายของคนไทยเชื้อสายจีนในตลาดบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าคนจีนที่อพยพมาสู่ประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้า หลังจากที่ได้สะสมเงินทุนจากการเป็นแรงงานในระยะแรก ๆ และลงทุนค้าขายจนสร้างฐานะมั่นคงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากคุณลักษณะอดทน ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู ซึ่งได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่แล้ว การปฏิบัติตามจารีตประเพณีดั้งเดิมผ่านการเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์พิธีกรรมยังส่งผลให้การประกอบอาชีพประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังพบว่า อาชีพค้าขายมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก รุ่นแรก ๆ เสี่ยงเพราะเป็นคนต่างถิ่นและต้องพยายามธำรงอัตลักษณ์ของตนด้วย แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปตลาดบ้านใหม่ จากการที่เคยเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญต้องซบเซาลงไป เพราะการพัฒนาเส้นทางคมนาคม จนในปัจจุบันตลาดบ้านใหม่กลับได้รับความนิยมขึ้นมาอีก ด้วยกระแสการท่องเที่ยวย่านตลาดเก่า แม้กระนั้นการค้าขายก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่มาก เพราะการรื้อฟื้นตลาดเก่าต่าง ๆ ที่เพิ่มจำนวนขึ้นทำให้เกิดคู่แข่งมากขึ้น งานวิจัยนี้จึงพบว่า ความเชื่อที่เกี่ยวกับการค้าขายของคนในตลาดบ้านใหม่แม้ยังรักษาจารีตดั้งเดิม หรือมีการผสมผสานกับความเชื่อตามคติไทยก็ยังมีความเชื่อรูปแบบต่าง ๆ ตามกระแสใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างสนใจ
- Publicationวัฒนธรรมกวนซี่กับการสร้างเครือข่ายทางสังคมของชาวไทยเชื้อสายจีนฮากกา ในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างประเทศไทยMa, GuiTong; ศุภการ สิริไพศาล; อดิศร ศักดิ์สูง; Siripaisan, Supakan; Saksoong, Adisorn (2018)การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) พัฒนาการของวัฒนธรรมกวนซี่ (Guanxi)ในกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีนฮากกา (Hakka) ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย2) ความสัมพันธ์ทางสังคมของชาวไทยเชื้อสายจีนฮากกากับกลุ่มชาวไทยอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพจากเอกสารและการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามจากการสัมภาษณ์ การสังเกตแบบเจาะลึกการสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม และนำมาวิเคราะห์ ตีความและนำเสนอข้อมูลด้วยการพรรณนาเชิงวิเคราะห์ ผลการศึกษา พบว่า วัฒนธรรมกวนซี่มีต้นกำเนิดจากกลุ่มชาวจีนในประเทศจีนและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เมื่อชาวจีนฮากกาได้อพยพพร้อมกับชาวจีนกลุ่มอื่นเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ได้นำวัฒนธรรมกวนซี่เข้ามาด้วย และสืบสานดำรงอยู่ในการรวมกลุ่มชาวจีนฮากกาทุกด้าน โดยมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางสังคมในภาคใต้ของประเทศไทยในแต่ละยุคสมัย มีวิธีการสร้างเครือข่ายทางสังคมผ่านวัฒนธรรมกวนซี่ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมโดยใช้ทุนทางสังคมในการรวมกลุ่ม การรวมกลุ่มตระกูลแซ่ การจัดตั้งสมาคม ชมรมและมูลนิธเิ พื่อรวมกลุ่มสบื สานประเพณีและวัฒนธรรม การรวมกลุม่ สรา้ งวดั ศาลเจ้าและศาสนสถาน ในทางเศรษฐกิจ มีการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจ มีการระดมทุนและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ความช่วยเหลือทางการเงินในกลุ่มเชื้อสายจีนฮากกาการเล่นโต๊ะแชร์ ในด้านความสัมพันธ์กับคนกลุ่มอื่น ชาวไทยเชื้อสายจีน ฮากกามีความสัมพันธ์กับชาวไทยเชื้อสายจีนและคนไทยกลุ่มอื่น ๆ ครอบคลุมด้านสังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ มีความช่วยเหลือเกื้อกูลและประสานประโยชน์ร่วมกันอย่างลงตัว ผ่านกิจกรรมทางสังคม สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน สร้างบ้านให้คนชราอยู่อาศัย สร้างสุสาน และอื่น ๆ ผ่านสมาคม ชมรมและมูลนิธิต่าง ๆ สำหรับความสัมพันธ์กับชาวไทยท้องถิ่นนั้น มีการแต่งงานกับชาวไทยท้องถิ่นเพื่อรักษาสถานภาพหรือเลื่อนชนชั้นทางสังคม มีการผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมเข้าในวิถีชีวิตของตนเอง ถวายชวนพระสงฆ์ไทยสวดมนต์ในพิธีกรรมต่าง ๆ เทศกาลกินเจแต่ละปี มีการจัดงานเลี้ยงฟรีเพื่อให้ชาวไทยท้องถิ่นได้มีส่วนร่วม มีการก่อตั้งหอการค้าโดยผ่านภาครัฐเพื่อให้ชาวไทยท้องถิ่นได้เข้ามีส่วนร่วมและให้ความช่วยเหลือกันและกัน อีกทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนฮากกาในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังได้สืบสานวัฒนธรรมกวนซี่ และมีการปรับเปลี่ยนในการสร้างเครือข่ายต่าง ๆ ตามยุคสมัยเพื่อสร้างความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับทุกกลุ่ม กระทั่งสามารถดำรงอยู่ร่วมเป็นสังคมเดียวกันกับชาวไทยกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
- Publication"วัฒนธรรมจีนแต้จิ๋ว" ตัวแทนวัฒนธรรมจีนในสังคมไทยธันฐกรณ์ สังขพิพัฒธนกุล; Sangkapipattanakul, Thantakron (2021)วัฒนธรรมแต้จิ๋วเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีนที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตน ชาวจีนแต้จิ๋วเป็นกลุ่มชาวจีนอพยพที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในประเทศไทย ทำให้วัฒนธรรมของชาวจีนแต้จิ๋วกลายเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมจีนทั้งหมดในการรับรู้ของคนไทยโดยทั่วไป ทั้งยังเกิดการผ สมกลมกลืนของวัฒนธรรมไทย-จีนแต้จิ๋วจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน บทความนี้นำเสนอที่มา มูลเหตุ ตลอดจนปัจจัยของการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานของชาวจีนแต้จิ๋ว ภาพรวมของวัฒนธรรมชาวจีนแต้จิ๋วโพ้นทะเลและคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว อีกทั้งการรับและการแลกเปลี่ยนของสองวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน ในด้านภาษา อาหาร ดนตรีและศิลปะ ค่านิยมทางสังคม จารีตประเพณี และการผสมกลมกลืนของวัฒนธรรมไทย-จีนผ่านพิธีกรรมความเชื่อตามช่วงวัยที่สอดแทรกอยู่ในวิถีชีวิต ในบทความนี้ได้ยกตัวอย่างประเพณีแต้จิ๋วในวงจรชีวิตของคนไทยเชื้อสาย จีนแต้จิ๋วที่ยังมีการปฏิบัติ
- Publicationวัดเทพพุทธาราม: ภาพสะท้อน วิถีชีวิต ความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน จังหวัดชลบุรีสุเทพ โซวเจริญ; บุญเลิศ ยองเพ็ชร; Sowcharean, Sutep; Yongphet, Boonlert (2016)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาประวัติและพัฒนาการของวัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่) อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (2) ศึกษาวิถีชีวิตวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน บริเวณวัดเทพพุทธาราม อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ที่มีอิทธิพลต่อศิลปกรรมของวัดเทพพุทธาราม โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitativeapproach) ผลการศึกษาพบว่า วัดเทพพุทธาราม หรือ “วัดเซียนฮุดยี่” เป็นวัดฝ่ายมหายานสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทยแห่งแรกของจังหวัดชลบุรี คำสอนมาจากนิกายเสียมจง หรือ นิกายฌาน หรือ เซน สาขาหลินฉี (วิปัสสนากรรมฐาน) เป็นศาสนสถานที่สร้างโดยพระเถระจีนนิกาย ฉายาว่า “พระอาจารย์ตั๊กฮี้” ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ศิลปกรรมและพิธีกรรมของวัด สะท้อนภาพวิถีชีวิตความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่รอบวัด ใน 3 ลักษณะ ได้แก่ (1) ความเชื่อในเรื่องบุญกรรมตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา (2) วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจและความเชื่อของคนในชุมชน (3) ประเพณีและพิธีกรรมเป็นแบบแผนการรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมงามของชุมชน
- Publicationสมาคมลับอั้งยี่ในประเทศไทย : กรณีอั้งยี่ภาคใต้อุมา สินธุเศรษฐ; Sinthuset, Uma (2018)บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประวัติความเป็นมาในการก่อตั้ง สมาคมลับอั้งยี่จีนภาคใต้ 2) ศึกษาบทบาทและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของสมาคมลับอั้งยี่ภาคใต้ 3) ศึกษาผลกระทบของการก่อตั้งสมาคมลับอั้งยี่ที่มีต่อพื้นที่ภาคใต้ในบริบทต่าง ๆ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยทางเอกสาร (Documentary Research) จากนั้นนำเสนอแบบพรรณนาเชิงวิเคราะห์ (Analytical Description) ดำเนินการศึกษาวิจัยโดยการเก็บข้อมูลเอกสารทางประวัติศาสตร์ ทั้งเอกสารขั้นต้นและเอกสารขั้นรอง ผลการศึกษาพบว่า สมาคมลับอั้งยี่ในภาคใต้ก่อตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 จากอิทธิพลของสมาคมลับอั้งยี่ในมลายู อีกทั้งยังมีการไปมาหาสู่ภายใต้กลุ่มอั้งยี่สาขาเดียวกัน กลุ่มสมาคมลับอั้งยี่ภาคใต้ที่สำคัญมีสามกลุ่ม ได้แก่ สมาคมอั้งยี่ยี่หิน สมาคมอั้งยี่บุนเท่าก๋ง และสมาคมอั้งยี่โฮเซง สิ่งที่สมาคมลับอั้งยี่ภาคใต้แตกต่างไปจากสมาคมลับอั้งยี่จีนในภูมิภาคอื่น ๆ เริ่มจากการเป็นโจรสลัดจีน ไปจนถึงการเป็นอั้งยี่แรงงานจีนใน ภาคธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกบนแผ่นดิน การเคลื่อนไหวของสมาคมลับอั้งยี่สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ในหลายบริบท แต่ส่วนใหญ่เป็นไปในแง่ลบ งานวิจัยชิ้นนี้ทำให้เห็นภาพ การรวมกลุ่มของชาวจีนโพ้นทะเลในอีกมิติหนึ่งที่คนทั่วไปมักมองข้าม โดยสามารถใช้ ผลการวิจัยเป็นข้อมูลพื้นฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อการค้นคว้าต่อยอดงานวิจัยด้าน จีนศึกษาได้ต่อไป
- Publicationอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองหาดใหญ่วงค์เดือน ภานุวัฒนากูล; สุรพงษ์ ยิ้มละมัย; Panuwattanakul, Wongduan; Yimlamai, Surapong (2010)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนในเมืองหาดใหญ่ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แนวคิดหลัก 3 แนวคิด คือ แนวคิดอัตลักษณ์ แนวคิดความสัมพันธ์เชิงอำนาจและแนวคิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยมีพื้นที่ศึกษาคือ พื้นที่เมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ผลการวิจัยพบว่า อัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนมีหลายลักษณะ มีความยืดหยุ่นและเป็นไปตามความสัมพันธ์ที่คนไทยเชื้อสายจีนมีกับกลุ่มคนต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งอัตลักษณ์ดังกล่าวเป็น อัตลักษณ์ที่สร้างผ่านโครงสร้างทางสังคม ความเชื่อ และพิธีกรรมที่อิงกับบริบทในสังคมทั้งบริบททางวัฒนธรรม บริบททางการค้า บริบททางการเมือง หรือบริบทของการใช้ชีวิต ทั้งนี้การสร้างอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนมีลักษณะเป็น “พหุอัตลักษณ์” กล่าวคือ มีทั้งอัตลักษณ์ที่เกิดจากการนิยามจากตนเอง อัตลักษณ์ที่เกิดขึ้นจากการนิยามโดยคนกลุ่มต่างๆ และอัตลักษณ์ที่ถูกคาดหวังจากสังคม โดยบางช่วงบางตอนคนไทยเชื้อสายจีนเลือกบอกว่าตนคือ “คนจีน” ด้วยการใช้ภาษาจีน การเข้าร่วมเทศกาลวันตรุษจีน การไหว้เจ้า การถือศีลกินเจ หรือ การเป็น “คนไทย” ด้วยการใช้ภาษาไทยพื้นถิ่น เช่น ภาษาไทยกลาง ไทย-อีสาน ไทย-เหนือ หรือ การเป็น “คนไทยเชื้อสายจีน” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมพิธีกรรมวัฒนธรรมบรรพบุรุษจีน ทั้งหมดนี้มักจะได้รับการพินิจพิเคราะห์ถึงผลและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น คนไทยเชื้อสายจีนจึงมีการเลือกสรร ต่อการแสดงท่าที คำพูด และการเจรจาต่อเรื่องราวที่ตนกำลังเผชิญ