ภาษาจีน : Chinese
Permanent URI for this community
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านภาษาศาสตร์ภาษาจีน การเรียนการสอนภาษาจีน การแปลภาษาจีน วรรณกรรมจีน และวัฒนธรรมจีน
Browse
Browsing ภาษาจีน : Chinese by browse.metadata.researchtheme2 "ภาษากับสังคม (Language and Society)"
Now showing 1 - 8 of 8
Results Per Page
Sort Options
- Publicationการใช้คำเรียกขานภาษาไทยและภาษาจีนในสมัยปัจจุบัน : การศึกษาเปรียบเทียบเมชฌ สอดส่องกฤษ (2007)งานวิจัยเปรียบเทียบการใช้คำเรียกขานภาษาไทยและภาษาจีนในสมัยปัจจุบันนี้มีเนื้อหาหลักประกอบด้วย คำเรียกญาติ คำเรียกขานทางสังคม การวิเคราะห์คำที่ใช้เป็นคำเรียกขาน และปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้คำเรียกขาน งานวิจัยครั้งนี้เป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ศึกษาภาษาไทยและภาษาจีน โดยเฉพาะผู้ทำงานเกี่ยวกับการแปลภาษาไทยและภาษาจีน เพราะการแปลจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่งมิใช่เพียงแค่หาคำที่มีความหมายอย่างเดียวกันเท่านั้น แต่เบื้องหลังทางวัฒนธรรมตลอดจนความเป็นเชื้อชาติของแต่ละชนชาติมีผลอย่างมากในการเลือกใช้ภาษาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเรียกขานมีความสัมพันธ์กับคนในสังคมโดยตรง การเลือกใช้หรือการแปลคำเรียกขานจึงไม่เพียงแต่เป็นการเลือกใช้คำที่มีความหมายอย่างเดียวกันเท่านั้น แต่จำเป็นต้องพิจารณาหรือคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ทางสังคม เช่น ภูมิหลังทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ความเชื่อ การเมืองการปกครอง ศาสนา เป็นต้น เพื่อจำสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง ผลการวิจัยพบว่าการเลือกใช้คำเรียกขานในภาษาไทย และภาษาจีนมีความคล้ายคลึงกับภาษาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เช่น ภาษาเวียดนาม ภาษาลาว ภาษาเขมร ภาษาพม่า เป็นต้น กล่าวคือ คำที่ใช้เป็นคำเรียกขานที่สำคัญ ได้แก่ ชื่อ คำเรียกญาติและคำสรรพนาม ส่วนปัจจัยกำหนดการเลือกใช้คำเรียกขานที่สำคัญคือ เพศ อายุ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ฐานะ และสถานภาพทางสังคม
- Publicationการใช้ภาษาในโลกไซเบอร์ของนักแชทชาวจีนชัญญพร ปริญญาวุฒิชัย; Parinyavottichai, Chanyaporn (2011)ในโลกของยุคข้อมูลข่าวสาร อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนเป็นอย่างมาก การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดภาษาที่ใช้เฉพาะกลุ่มคนที่เล่นอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า "ภาษาในโลกไซเบอร์" หรือ "ภาษาอินเทอร์เน็ต" ภาษาดังกล่าวเน้นความสนุกสนาน ความคิดสร้างสรรค์ และความมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีการสร้างคำศัพท์ ตัวเลข และสัญลักษณ์ต่างๆประกอบเพื่อถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ความรู้สึก งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะเด่นของภาษาเฉพาะกลุ่มดังกล่าว ผ่านมุมมองทางภาษาศาสตร์สังคมเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ทางภาษาอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลกระทบต่อสังคมจีน
- PublicationการศึกษาเปรียบเทียบคำสแลงในภาษาไทยและภาษาจีนLi, Juncai (2013)บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบวิธีการสร้างลักษณะการใชคำสแลงและปัจจัยที่ทำให้เกิดคำสแลงในภาษาไทยและภาษาจีน โดยได้เก็บคำสแลงไทย 247 คำจากนิตยสารไทย a day และคำสแลงจีน 208 คำจากนิตยสารจีน “Youth Literary Digest - Kuaidian” ในเดือนมิถุนายน 2554 - พฤษภาคม 2555 ผลการวิจัยพบว่า 1. คำสแลงในภาษาไทยและภาษาจีนมี 6 ชนิด ได้แก คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำสรรพนาม คำอุทาน และวลี หรืออนุประโยค คำสแลงไทยส่วนมากเป็นคำกริยาและคำวิเศษณ์ ส่วนคำสแลงจีนส่วนมากเป็นคำนามและคำวิเศษณ์ 2.วิธีการสร้างคำสแลงในภาษาไทยและภาษาจีนต่างก็เน้นเปลี่ยนแปลงคำมีอยู่และมีวิธีการสร้างที่คล้ายคลึงกัน 9 วิธี ได้แก่ การขยายความหมายจากเดิม การย่อคำ การสร้างเป็นตัวเลข การพ้องเสียง การเกิดใหม่ การประสมคำใหม่ การยืมภาษาต่างประเทศ การยืมภาษาถิ่น การเลียนแบบ ส่วนวิธีการสร้างคำที่แตกต่างกันคือ วิธีการสร้างคำสแลงไทยจะหลากหลายกว่า ซึ่งยังมีอีก 5 วิธีในการสร้างคำสแลงไทย ได้แก่ การซ้ำคำ การตัดคำ การเติมสร้อย การผวนคำ การสร้างคำพังเพย และอีก 1 วิธีในการสร้างคำสแลงจีน คือ การสร้างคำเป็นภาษาอังกฤษ 3. ลักษณะการใช้คำสแลงในภาษาไทยและภาษาจีน ได้พบว่า คำสแลงในสองภาษาน้ันส่วนมากใช้สื่อความหมายโดยนัยและใช้สื่ออารมณ์ โดยเฉพาะใช้สื่ออารมณ์เชิงนิเสธเป็นหลัก แต่ก็มีบางส่วนที่สื่อความหมายโดยตรงและใช้เพื่อการสื่อสาร นอกจากนั้น คำสแลงไทยและคำสแลงจีนยังมีการใช้อุปมาโวหาร อติพจน์ นามนัย บุคคลวัต นัยเฉพาะ 4. ปัจจัยร่วมกันที่ทำให้เกิดคำสแลงได้แก่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ความต้องการของผู้ใช้ภาษา ผลกระทบจากกระแสโลกาภิวัตน์ และการเผยแพร่ของข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะการเผยแพร่ที่ผ่านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่วนปัจจัยที่แตกต่างกัน คือ ปัจจัยจากตัวภาษา ปัจจัยจากสภาพสังคมและการศึกษา ปัจจัยจากวัฒนธรรมและความเชื่อของผู้ใช้ภาษา
- Publicationการศึกษาและเปรียบเทียบคําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทยอาจารีย์ ศรีหล้า; Srila, Achari (2021)การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาและจําแนกหมวดหมู่คําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทย 2. เปรียบเทียบการใช้คําสุภาพในการสื่อสารระหว่างภาษาจีนกับภาษาไทย ดําเนินการวิจัยดังนี้ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษาสุภาพหรือคําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทยศึกษาทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวบรวมประเภทของคําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทย จําแนกและจัดหมวดหมู่คําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทย วิเคราะห์ความเหมือนและความต่างของคําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทยผลการวิจัยพบว่า การวิเคราะห์และจําแนกหมวดหมู่คําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทย มีจํานวน 9 ประเภท และสามารถจําแนกหมวดหมู่ได้ดังนี้ (1)คํากล่าวทักทาย จําแนกได้ 5 หมวดหมู่ (2) คํากล่าวขอบคุณ จําแนกได้ 3 หมวดหมู่ (3) คํากล่าวขอโทษ จําแนกได้ 3 หมวดหมู่ (4) คํากล่าวชมเชย จําแนกได้ 2 หมวดหมู่ (5) คํากล่าวอวยพร จําแนกได้ 5 หมวดหมู่ (6) คําพูดอ้อมค้อม จําแนกได้ 3 หมวดหมู่ (7) คํากล่าวขอร้อง จําแนกได้ 4 หมวดหมู่ (8) คํากล่าวปฏิเสธ จําแนกได้ 3 หมวดหมู่ และ (9) คํากล่าวลา จําแนกได้ 2 หมวดหมู่ ซึ่งแต่ละหมวดหมู่มีทั้งความเหมือนและความแตกต่าง พบว่าความเหมือน คือ การใช้คําสุภาพภาษาจีนและภาษาไทยแต่ละหมวดหมู่นั้นล้วนแต่ต้องอาศัยกาลเทศะสถานการณ์สภาวะแวดล้อม และสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในการเลือกใช้คําและภาษาให้เหมาะสมกับบุคคล ด้านความแตกต่าง คือสังคมไทยมักจะแบ่งลักษณะการใช้ภาษาตามอายุ เพศ ลําดับชั้นทางสังคม เช่น ภาษาไทยใช้คําว่า ครับ (เพศชาย)/ค่ะ (เพศหญิง) ลงท้ายประโยคเพื่อเน้นถึงความสุภาพ ซึ่งภาษาจีนไม่มีคําเหล่านี้ นอกจากนี้ ความแตกต่างที่เกิดจากวัฒนธรรมความเชื่อความเคยชิน รวมถึงรูปแบบโครงสร้างของคําหรือประโยค มาจากการเรียนรู้ในบริบท สภาพแวดล้อมที่ชาวจีนและชาวไทยอาศัยอยู่ทั้งสิ้น
- Publicationการศึกษาวิเคราะห์คำสแลงภาษาจีนที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์สิทธิพงศ์ มีกุล; เนตรน้ำทิพย์ บุดดาวงศ์; Mikun, Sittiphong; Buddawong, Nednamthip (2020)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์วิธีการสร้างคำและลักษณะการสื่อความหมายของคำสแลงภาษาจีนที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้รวบรวมคำสแลงภาษาจีน จำนวน 85 คำ จากสื่อสังคมออนไลน์ เว่ยป๋อ (微博,Weibo) ในปี พ.ศ. 2562 ผลการศึกษาพบว่า 1) คำสแลงภาษาจีนมีวิธีการสร้างคำทั้งสิ้น 3 วิธี ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงคำที่มีอยู่ การสร้างคำใหม่ และการยืมคำ 2) ลักษณะการสื่อความหมายของคำสแลงในภาษาจีน พบว่าคำสแลงภาษาจีนมีการสื่อความหมายใน 3 รูปแบบ ได้แก่ การสื่อความหมายโดยนัย การสื่อความหมายโดยตรง และการสื่อความหมายเชิงอารมณ์
- Publicationการสร้างคำเรียกสีของชาวจีนที่มีช่วงอายุต่างกันเฉินตง เหมย; ธนานันท์ ตรงดี; ดุจฉัตร จิตบรรจง; Mei, Chentong; Trongdee, Thananan; Jitbunjong, Dutchat (2014)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจำนวนคำเรียกสีพื้นฐาน จำนวนคำเรียกสีไม่พื้นฐานและวิธีการสร้างคำเรียกสีของชาวจีนที่มีช่วงอายุต่างกันข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการเก็บข้อมูลจากเมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเก็บจากผู้บอกภาษา 3 ระดับอายุ คือ กลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-25 ปี กลุ่มวัยกลางคนอายุระหว่าง 30-40 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุอายุระหว่าง 45-55 ปี โดยกำหนด การเก็บข้อมูลกลุ่มละ 10 คน ผู้บอกภาษาเป็นเพศหญิง พบว่ากลุ่มวัยรุ่นมีคำเรียกสีพื้นฐานจำนวน 11 คำ ได้แก่ ขาว ดำ แดง เหลือง เขียว น้ำเงิน น้ำตาล เทา ม่วง ชมพูและส้ม กลุ่มวัยกลางคนกับ กลุ่มผู้สูงอายุมีคำเรียกสีพื้นฐาน 9 คำ ได้แก่ ขาว ดำ แดง เหลือง เขียว น้ำเงิน น้ำตาล เทา ม่วง กลุ่มวัยรุ่นมีคำเรียกสีไม่พื้นฐานจำนวน 354 คำ กลุ่มวัยกลางคนมีคำเรียกสีไม่พื้นฐานจำนวน 362 คำ กลุ่มผู้สูงอายุมีคำเรียกสีไม่พื้นฐานจำนวน 340 คำโดยคนทั้งสามระดับอายุมีวิธีการสร้างคำเรียกสีไม่พื้นฐาน 3 วิธี คือ 1) การประสมคำเรียกสีพื้นฐานเข้าด้วยกัน 2) การประสมคำขยายกับคำเรียกสีพื้นฐาน 3) การใช้คำเรียกสิ่งของจำเพาะ
- Publicationคำยืมภาษาไทยในภาษาจีนแต้จิ๋วกรุงเทพ: ประเภทของคำยืมและการแปรของคำศัพท์ตามรุ่นอายุชัญญพร จาวะลา; Chawla, Chanyaporn (2015)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคำยืมภาษาไทยในภาษาจีนแต้จิ๋วกรุงเทพ โดยมุ่งจำแนกประเภทของคำยืมและวิเคราะห์การแปรในการใช้คำของผู้พูดภาษาจีนแต้จิ๋วตามรุ่นอายุข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยนี้เก็บรวบรวมจากวรรณกรรม เรื่องสั้น หนังสือพิมพ์จีนที่ตีพิมพ์ในประเทศไทยเและจากผู้วิจัยเองในฐานะที่เป็นผู้พูดทวิภาษาไทยและจีนแต้จิ๋ว ผลการวิจัยพบว่าคำยืมภาษาไทยในภาษาจีนแต้จิ๋วส่วนใหญ่เป็นการยืมทับศัพท์ ไม่ใช่การยืมแปลหรือการยืมปน ส่วนใหญ่เป็นคำนาม รองลงมาเป็นคำกริยาและคำลักษณนาม ความหมายของคำยืมส่วนใหญ่เกี่ยวกับอาหาร อาชีพ และคำเรียกขาน สำหรับการแปรในการใช้คำศัพท์ตามรุ่นอายุของผู้พูดภายาจีนแต้จิ๋ว พบว่าอายุของผู้พูดเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเลือกใช้คำที่แตกต่างกัน โดยกลุ่มผู้บอกภาษารุ่นที่ 1 มีแนวโน้มจะใช้คำจีน การยืมแปล และการยืมปนมากกว่ากลุ่มผู้บอกภาษารุ่นที่ 2 หรือรุ่นลูกที่มีวงศัพท์ภาษาจีนแต้จิ๋วที่ค่อนข้างจำกัดและได้รับอิทธิพลของภาษาไทย นอกจากนี้ ผู้บอกภาษารุ่นที่ 1 รายงานว่าคำบางคำสามารถใช้คำจีนและคำทับศัพท์ภายาไทยแทนได้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าในอนาคตคำเหล่านี้น่าจะสูญไปและถูกแทนที่ด้วยคำทับศัพท์
- Publicationวลีภาษาจีนที่นิยมใช้บนอินเทอร์เน็ตในปี ค.ศ. 2017 กับการสะท้อนสังคมกฤษฎี สงไข่; Songkhai, Kritsadee (2018)เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกโซเชียลหรือโลกออนไลน์ มีอิทธิต่อสังคมในปัจจุบันค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านการซื้อขายสินค้า การสื่อสาร ความบันเทิง หรือข่าวสารข้อมูลต่างๆ โลกออนไลน์สามารถเชื่อมต่อทุกการสื่อสารให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย การสื่อสารที่รวดเร็วและง่ายดายนี้ เป็นที่มาของคำศัพท์ใหม่ๆ อีกหลายคำ ในประเทศจีนก็มีโลกออนไลน์เช่นกัน และโลกออนไลน์เหล่านี้ได้มาพร้อมกับคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนเล็งเห็นความน่าสนใจของคำเหล่านี้ พร้อมทั้งมีคำอีกหลายคำที่ยังไม่มีการบัญญัติในพจนานุกรมจีน-ไทย และยังไม่มีผู้ศึกษาหรือเป็นที่รู้จักมากนักในไทย ผู้เขียนจึงได้ตัดสินใจศึกษาวิจัยในหัวข้อ “ภาษาจีนที่นิยมใช้บนอินเทอร์เน็ตในปี ค.ศ. 2017 กับการสะท้อนสังคม” เนื่องด้วยภาษาและวัฒนธรรมเป็นสิ่งคู่กัน ภาษาในแต่ละยุคสมัยจะสะท้อนถึงวัฒนธรรม และความเป็นอยู่ในยุคนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเนื้อหาจะมีการศึกษาประเภทภาษาจีนที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต และวลีภาษาจีน 5 วลี อันเป็นที่นิยมในปี ค.ศ. 2017 พร้อมกับการแปลความหมาย บอกเล่าความเป็นมา ยกประโยคตัวอย่าง รวมถึงการวิเคราะห์วลีที่สะท้อนถึงสังคมจีนในปัจจุบัน