ปรัชญา : Philosophy
Permanent URI for this community
บทความวิจัย วิทยานิพนธ์สาขาวิชาปรัชญาในหลักสูตรที่สังกัดสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย และงานวิจัยสาขาปรัชญาที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. หรือ สกสว.
Browse
Browsing ปรัชญา : Philosophy by browse.metadata.researchtheme2 "จริยศาสตร์ประยุกต์"
Now showing 1 - 19 of 19
Results Per Page
Sort Options
- Publicationการขัดกันแห่งผลประโยชน์จากการตัดสินใจของนักบริหารภาครัฐอิษฎาณิศ ตันติชุติ; Aissadanis Tantichuti (2021)ปัญหาทางจริยศาสตร์ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งเกิดจากการตัดสินใจของนักบริหารภาครัฐที่ตัดสินใจตามกรอบของกฎหมายและระเบียบของราชการ แต่ประโยชน์นั้นเอื้อต่อตนเองและพวกพ้องฝ่ายที่มีอํานาจตัดสินใจยืนยันว่า การทําเช่นนั้น ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่มีผู้แย้งว่า การตัดสินใจทําเช่นนั้นเป็นการกระทําที่ไม่สมควร เพราะเป็นการ เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง แต่ฝ่ายนักบริหารภาครัฐผู้ตัดสินใจให้เหตุผลว่า การตัดสินใจของเขานั้นถูกต้องแล้ว เพราะได้ตัดสินใจตามกรอบของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ส่วนตัวเขาและพวกพ้องจะได้รับประโยชน์จากการตัดสินใจนั้นไม่ใช่ประเด็น บทความนี้จะให้เหตุผลโดยอาศัยแนวคิดของพุทธจริยศาสตร์ว่า การตัดสินใจเช่นนั้นเป็นการกระทําที่ไม่ควรกระทํา เพราะ (1) เป็นกระทําที่ก่อให้เกิดโทษต่อจิตตนเองให้มัวหมองด้วยอกุศลยากที่จะดําเนินชีวิตมุ่งสู่ธรรม ตามอุดมคติแห่งพุทธจริยศาสตร์ได้ (2) เป็นกระทําที่เอาเปรียบสังคมจากหน้าที่ที่ตนได้รับมอบอํานาจจากสังคม ด้วยการมุ่งผลประโยชน์ส่วนตัวระยะสั้นจากความสุขที่เกิดจากการมีทรัพย์เพิ่มขึ้น มีบริวาร มียศหรือตําแหน่งสูงขึ้น พุทธจริยศาสตร์มองว่าความสุขเช่นนั้นไม่ยั่งยืนและยังเป็นโทษบั่นทอนความดีในตนเองซึ่งเป็นประโยชน์ระยะยาวจากการพัฒนาคุณธรรมในจิตใจให้ยิ่งขึ้นไป จนพบความสุขสงบอย่างแท้จริงชองชีวิต
- Publicationการทําอัตวินิบาตกรรมโดยได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์และแนวคิดพันธสัญญานิยมของสแคนลอนมณิสร โสนะมิตร์; Manisorn Sonamit (2021)บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เป็นไปได้หาก “การทําอัตวินิบาตกรรมโดยได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์” (physician-assisted suicide) ได้รับการยอมรับในฐานะบริการด้านสุขภาพ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับเหตุผลว่าการตัดสินใจภายใต้ความเจ็บปวดนั้นมาจาก การใช่เหตุผลหรือไม่ มีเจตจํานงเสรีหรือไม่ ปัญหาเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการเลือกที่ถูกกดดัน รวมไปถึงปัญหาว่าการยอมรับตัวเลือกน้ีอาจกระทบต่อคุณค่าในสังคม บทความนี้จะเสนอว่าแนวคิดพันธสัญญานิยมของสแคนลอนสามารถ นํามาสนับสนุนในการอธิบายปัญหาดังกล่าว โดยมีมโนทัศน์เรื่อง “คุณค่าของการเลือก” (the Value of Choice) การอธิบายเหตุผลที่มาจากความต้องการ (desire-based accounts) และมโนทัศน์เรื่องความรับผิดชอบสองความหมาย เป็นหลักสําคัญในการตอบปัญหา
- Publicationการธำรงอัตลักษณ์ในสังคมพหุวัฒนธรรมมองผ่านแนวคิดปรัชญาหลังนวยุคของมิเชล ฟูโกต์: กรณีศึกษาภิกษุ สยามรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซียสิทธิโชค ปาณะศรี; ฟื้น ดอกบัว; สวัสดิ์ อโณทัย (2017)
- Publicationการประยุกต์ใช้หลักธรรมในชีวิตประจำวันจากทศชาติชาดก:กรณีศึกษาจากเรียงความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครสุภัค มหาวรากร (2016)งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความรู้ ความเข้าใจ และการประยุกต์ใช้หลักธรรมจากทศชาติ ชาดกของเด็กวัยเด็กตอนกลาง รวมทั้งปัจจัยที่ทำให้เด็กเข้าใจหลักธรรมจากทศชาติชาดก เพื่อแสดงให้ เห็นว่าทศชาติชาดกมีความสำคัญในฐานะเครื่องมือปลูกฝังจริยธรรมของเด็กไทย ผู้วิจัยเก็บข้อมูลโดยจัด ประกวดเขียนเรียงความของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็น ตัวบทในการวิเคราะห์และสัมภาษณ์เพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการวิจัย ผลการวิจัยพบว่านักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 มีความรู้และความเข้าใจหลักธรรมในทศชาติ ชาดก โดยสามารถเล่าเนื้อเรื่อง บอกชื่อตัวละคร บอกพฤติกรรมของพระโพธิสัตว์ในทศชาติชาดก อธิบาย หลักธรรมและขยายความความหมายของหลักธรรม นักเรียนเลือกเขียนเรียงความเกี่ยวกับมหาชนกชาดก มากที่สุด รองลงมาคือเวสสันดรชาดก และสุวรรณสามชาดก ส่วนมโหสถชาดก วิธุรชาดก ภูริทัตชาดก จันทกุมารชาดก นารทพรหมชาดก เตมียชาดก และเนมิราชชาดก เลือกเขียนเรียงล าดับตามมา ปัจจัยที่ท าให้ เด็กมีความรู้และเข้าใจทศชาติชาดก มี 4 ประการ ได้แก่ อนุภาคเด่นจากนิทานชาดกทั้งอนุภาคเหตุการณ์ หรือพฤติกรรม และอนุภาคตัวละคร การจัดการเรียนการสอน สื่อ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช โดยการประยุกต์ใช้หลักธรรมสัมพันธ์กับความรู้และความเข้าใจ ดังจะเห็นได้ว่านักเรียน ประยุกต์ใช้หลักธรรม “วิริยะ” มากที่สุด รองลงมาคือ “ทาน” และ “เมตตา” ตามล าดับ ท าให้เห็นว่าทศ ชาติชาดกมีความส าคัญในฐานะเครื่องมือปลูกฝังจริยธรรมของเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ท าให้ เด็กมีความฉลาดท างอารมณ์ (EQ – Emotional Quotient) และความฉลาดในการท าความดี (MQ – Moral Quotient) โดยมีพระโพธิสัตว์เป็น “ต้นแบบ” ทศชาติชาดกในฐานะนิทานธรรมะจึงมีความส าคัญในการให้การศึกษาและเสริมสร้างจินตนาการ แก่เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 การอ่านทศชาติชาดกจึงเป็นการส่งเสริมและปลูกฝังให้เด็กมี ความรู้และคุณธรรม อันเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กไทย
- Publicationการพัฒนาจริยธรรมด้วยเรื่องเล่าทางศาสนา: การใช้ทศชาติชาดกในการจัดจริยศึกษาสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีธนีพร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม; Taneeporn Bhavabhutanonda Na Mahasaragama (2020)การวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความโน้มเอียงเชิงจริยธรรมในผู้เข้าร่วมกิจกรรมจัดจริยศึกษาตามแนวทางแบบเรื่องเล่า ในรูปแบบที่เน้นการพัฒนาทักษะด้านเรื่องเล่าผ่านเรื่องเล่าเชิงวรรณกรรม โดยอาศัยทศชาติชาดก เก็บข้อมูลด้วยการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมจากนิสิตระดับปริญญาตรีที่เข้าร่วมกิจกรรมจ านวน 35 คน โดยอาศัยแบบบันทึกตนเอง แบบไตร่ตรองตนเอง และแบบสังเกตการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลตามกรอบแนวคิดของเอลี โฮลเซอร์ (Elie Holzer) ผลการวิจัยพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมแสดงออกซึ่งทักษะและพัฒนาการด้านเรื่องเล่าไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งความตระหนักถึงความเป็นอื่น มีพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงเป็นล าดับแรก การรับฟังและการทุ่มเททั้งหัวใจ และความมีใจเปิดกว้างและความพร้อมรับการท้าทาย ตามล าดับ ผู้วิจัยพบว่าช่วงวัยและประสบการณ์การเรียนรู้ มีผลต่อการปฏิสัมพันธ์กับตัวบททำให้มีการพัฒนาการโน้มเอียงเชิงจริยธรรมแตกต่างกัน
- Publicationการวิเคราะห์ปัญหาสังคมออนไลน์ตามทัศนะของคานท์ภูษิต รัตนถาวรกิติ; ธีรัตม์ แสงแก้ว; Bhusit Rattanathawornkiti; Theerat Saengkaew (2021)บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาปัญหาทางจริยธรรมในการใช้งานสังคมออนไลน์ของประชาชน ยกตัวอย่างการใช้งานเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานบ่อยที่สุด จึงได้ทำการวิจัยเรื่องการวิเคราะห์ปัญหาสังคมออนไลน์ตามทัศนะของคานท์ โดยผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาจริยธรรมในสังคมออนไลน์ (2) เพื่อวิเคราะห์แนวคิดจริยศาสตร์ของคานท์กับปัญหาจริยธรรม (3) เพื่อวิเคราะห์ปัญหาสังคมออนไลน์ในทัศนะจริยศาสตร์ของคานท์ ผลการวิจัยพบว่า ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ โดยมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากเป็นอันดับหนึ่ง โดยปัญหาที่พบนั้นเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการใช้งาน ใช้เพื่อแสดงความคิดเห็นแบบผิด ๆ ใช้เป็นช่องทางในการโจรกรรม หลอกลวง และการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสังคมออนไลน์ที่มีคนจำนวนมากใช้งานอยู่จึงทำให้ดูว่าในปัจจุบันนี้ความปลอดภัยในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ยิ่งลดน้อยลงไป แม้ว่าสังคมออนไลน์จะเปิดเป็นพื้นที่อิสระให้กับทุกเพศทุกวัยได้ใช้งาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อตอบสนองความต้องการความสะดวกในการติดต่อสื่อระหว่างกัน ซึ่งคานท์มองว่าการกระทำบางอย่างอาจถูกต้อง เช่น การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงที่ไม่ได้ปรารถนาสิ่งตอบแทนหรือการใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและส่งผลต่อไปยังผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ถือว่าเป็นการส่งกำลังใจให้กับเพื่อนมนุษย์สามารถนำไปปรับใช้และการพัฒนาชีวิตของตนเองได้
- Publicationการศึกษาเชิงวิเคราะห์การเมืองการปกครอง ที่ปรากฏในคัมภีร์ทศชาติชาดกพระอภิชาติ อภิชาโต (2015)วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเชิง วิเคราะห์การเมืองการปกครองที่ปรากฏในคัมภีร์ ทศชาติชาดก และนำผลของการศึกษาไปประยุกต์ ในเรื่องการเมืองการปกครองของไทย โดยนำข้อมูล จากพระไตรปิฎกและอรรถกถา เอกสารงานวิจัย ทางพระพุทธศาสนา และเอกสารทางรัฐศาสตร์ที่ เกี่ยวขอ้ ง ซึ่งเปน็ ผลงานของทา่ นผูรู้ทั้งหลายอันเปน็ ที่ยอมรับในวงการศึกษาทั่วไป นำมาศึกษาวิเคราะห์ แล้วสรุปผลการวิจัยและนำเสนอในเชิงพรรณนา ผลการศึกษาวิเคราะห์พบว่า การเมืองการ ปกครองมี แนวคิด ปรัชญา ลัทธิ จนกระทั่งพัฒนา ไปสู่ระบอบการปกครองนั้นเป็นการพัฒนามาอย่าง ยาวนาน ผ่านกระบวนการต่างๆ ในประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ จนกระทั่งเป็นการปกครองในปัจจุบัน ที่แบ่งออกเป็น 2 แบบแตกต่างกัน คือ การปกครอง ระบอบเผด็จการ/คอมมิวนิสต ์ที่ใหค้ วามสำคัญกับผูน้ ำ เป็นอย่างมาก และ ระบอบประชาธิปไตย ที่ให้ความ สำคัญกับความเป็นปัจเจกบุคคลเป็นอย่างมากเช่น กัน แม้ว่าจะมีการปกครองที่แยกย่อยออกไปอีก แต่ หลักการที่สำคัญอยู่ที่การปกครอง 2 ระบอบนี้ ในความเชื่อของนักปราชญ์สมัยโบราณ ใน คัมภีร์ทางศาสนา และคติทางวรรณกรรมพระพุทธ ศาสนา ได้ให้ความสำคัญแก่พระราชาและอภิชน เป็น อย่างมากว่าสามารถเป็น ผู้ปกครองที่ดี ด้วยการ ปกครองในแบบราชาธิปไตยและอภิชนาธิปไตย ที่ผู้ ปกครองมาจากชนชั้นสูง มีการศึกษาดี เป็นชนส่วน น้อยของสังคม แต่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ส่วนใหญ่ให้ปกครอง เพราะเชื่อว่าจะสามารถนำ ความสุขมาให้แก่ประชาชนได้มากกว่าการปกครอง ในแบบอื่น หลักการเมืองการปกครองที่ปรากฏในคัมภีร์ ทศชาดกพบว่า รูปแบบการปกครองในคัมภีร์นั้น ทั้งหมดเป็นแบบราชาธิปไตย ซึ่งมีพระราชาเป็น ผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐ ใน 3 รูปแบบที่สำคัญ คือ แบบสมบูรณาญาสิทธิราชยท์ ี่พระราชาทรงอยูเ่ หนือ กฎหมาย แบบสมมติเทพที่พระราชาเปรียบเสมอ เทพจากสวรรค์ลงมาเกิดในมนุษย์เพื่อปราบยุคเข็ญ และ แบบสมมติราชาที่พระราชาทรงได้อำนาจจาก ประชาชนยกขึ้นเป็นพระราชา แต่ประชาชนยังคง ถืออำนาจที่จะถอดจากความเป็นพระราชาได้ ถ้าไม่ ทรงประพฤติธรรมอันสมควร ทั้งนี้พระโพธิสัตว์ที่ทรงเกิดในแต่ละชาติของทศ ชาดกนั้นมี 4 ชาติที่มีส่วนในการปกครองบ้านเมือง ในฐานะพระราชาและราชโอรส และ อีก 2 ชาติที่ พระโพธิสัตว์เกิดเป็นปุโรหิตสำคัญ ที่มีส่วนอย่างยิ่ง ในการปกครองบ้านเมือง แม้ว่าที่เหลืออีก 4 ชาติ พระโพธิสัตว์จะไม่ได้มีส่วนในการปกครองโดยตรง แต่ก็ได้มีโอกาสในการแสดงธรรมสำคัญแก่พระราชา อันเกี่ยวกับการปกครอง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดต่อความผาสุกของประชาชน ในคัมภีร์ทศชาดกซึ่งเป็น 10 ชาติสุดท้ายก่อน ที่พระโพธิสัตว์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น พระ โพธิสัตว์ได้สั่งสมบารมีมาทั้ง 10 ประการ 30 ทัศ เกือบจะเต็มบริบูรณ์ โดยพระโพธิสัตว์ได้กระทำ บารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ หลังจากที่ได้เกิดเป็นพระ เวสสันดรที่ได้ทรงบำเพ็ญทานบารมี แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าและทำ สำเร็จนั้นมีอยู่จริง เมื่อนำผลของการวิเคราะห์มาเทียบเคียงกับ เหตุการณ์ปัจจุบัน จะพบว่าลักษณะที่แสดงออก อย่างประจักษ์ถึงเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ในทศ ชาดกอย่างชัดเจน ทั้งนี้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อสังคม ไทยที่จะได้นำเอาผลของการศึกษาวิเคราะห์และ เทียบเคียงเหตุการณ์นั้นๆ ไปใช้ ดังนั้น เมื่อได้นำการศึกษาเชิงวิเคราะห์การเมือง การปกครองที่ปรากฏในคัมภีร์ทศชาติชาดกไปใช้ให้ ถูกต้องเหมาะสมแล้ว จะทำให้สังคมเกิดสันติสุขและ ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นเป้าหมาย ที่สำคัญของการเมืองการปกครอง
- Publicationการศึกษาวิเคราะห์การุณยฆาตเชิงรับด้วยแนวคิดเคารพเอกสิทธิ์ในหลักชีวจริยธรรมทางการแพทย์และหลักโพธิจิตปวริศร์ โชติพงษ์วิวัฒิ; Pavaris Shotipongviwat (2021)บทความนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาการุณยฆาตเชิงรับด้วยแนวคิดเคารพเอกสิทธิ์ในหลักชีวจริยธรรมทางการแพทย์2) เพื่อศึกษาแนวคิดเคารพเอกสิทธิ์ในหลักโพธิจิตและ 3) เพื่อวิเคราะห์การุณยฆาตเชิงรับด้วยแนวคิดเคารพเอกสิทธิ์ในหลักชีวจริยธรรมทางการแพทย์และหลักโพธิจิตงานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงเอกสารผลการวิจัยพบว่า หลักปฏิบัติต่อผู้ป่วยเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงสุขภาวะ ตามหลักชีวจริยธรรมทางการแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพพึงเคารพการตัดสินใจยุติการยื้อชีวิตของผู้ป่วยเพราะความตายอย่างสงบเป็นเรื่องของสุขภาวะอันเกิดจากเหตุผลและตัดสินใจเลือกของผู้ป่วยแต่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ไม่พิจารณาสุขภาวะนั้นอย่างเหมาะสมเพราะเหตุผลและตัดสินใจเลือกของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพไม่ครอบคลุมสุขภาวะดังนั้น ความไว้ใจสําคัญต่อการเข้าถึงสุขภาวะจึงเกิดปัญหา ผู้ปฏิบัติวิชาชีพทางการแพทย์ควรปฏิบัติต่อผู้ป่วยตามความยินยอมของผู้ป่วย จึงจะกล่าวได้ว่าผู้ป่วยไม่ได้ถูกแทรกแซงโดยอาศัยจริยธรรมทางการแพทย์อันเนื่องมาจากการตัดสินใจโดยคํานึงถึงประโยชน์และหลักว่าด้วยการไม่ทําอันตรายให้แก่ผู้ป่วย ถ้ามองจากมุมมองนี้ การเลือกเอาประโยชน์และการไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยนั้นไม่ได้มีฐานมาจากเจตนาอย่างเดียว แต่อาจจะมาจากหลายปัจจัยดังที่พระพุทธศาสนามหายานอธิบายไว้ ในมุมมองของเซ็น มีข้อเสนอว่า หลักปฏิบัติต่อมนุษย์เพื่อช่วยให้มนุษย์เข้าถึงพุทธภาวะนั้น ผู้ให้ความช่วยเหลือพึงเคารพการตัดสินใจเลือกกระทําของมนุษย์ในสังคม เพราะพุทธภาวะเป็นภาวะหลอมความมีตัวตนรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธเจ้าอันเกิดจากความเห็นแจ้งธรรมชาติในชีวิตประจําวันของมนุษย์
- Publicationการศึกษาวิเคราะห์เรื่องผู้บริหารในแนวคิดและทฤษฎีของพุทธปรัชญาพระสุพัฒน์ ปุญญมโน; Phra Supat Punyamano (2018)บทความเรื่องนี้ มุ่งตอบคำถามเกี่ยวกับผู้บริหารตามแนวคิดและทฤษฎีของพุทธปรัชญา ซึ่งเมื่อสรุปแล้ว พบว่า แนวคิดและทฤษฎีของพุทธปรัชญาเป็นหลักคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อตรัสรู้แล้ว ก็ได้นำออกมาเผยแผ่แก่ประชาชน พร้อมกันนี้ พระองค์ได้ทรงใช้หลักพุทธปรัชญาในการบริหารจัดการคณะสงฆ์ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา จึงทำให้หลักคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่ยอมรับเรื่อยมา แต่จากสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน การพัฒนาด้านเทคโนโลยีได้รับการเน้นมากกว่าด้านอื่นๆ จนทำให้เกิดการมองข้ามศีลธรรมจริยธรรม และทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอย่างมากมาย ตลอดทั้งการบริหารองค์กรต่างๆ ก็ขาดประสิทธิภาพ ประสบความล้มเหลว ผู้บริหารและบุคลากรไร้คุณธรรมจริยธรรมด้วย ดังนั้น แนวคิดและทฤษฎีของพุทธปรัชญาจึงมีความจำเป็นที่ผู้บริหารองค์กรควรที่จะได้นำมาใช้ในองค์กร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรและส่วนรวมนั่นเอ
- Publicationจริยธรรมการบริหารงานภาครัฐ: บทการทบทวนวรรณกรรมทวนธง ครุฑจ้อน; Thuanthong Krutchon (2022)จริยธรรมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ในทุกสถานภาพทางสังคมรวมถึงการบริหารงานภาครัฐ จริยธรรมถูกนำเข้าไปผสมผสานให้เข้ากับนโยบาย หลักการ และวิธีการบริหารงานขององค์การภาครัฐ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์เชิงสาธารณะ นวัตกรรม การปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงสิทธิมนุษยชน บทความวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานว่าด้วยจริยธรรม ภูมิหลังและทฤษฎีว่าด้วยจริยธรรม ปัจจัยที่ก่อให้เกิดพลวัตทางจริยธรรม เกณฑ์ตัดสินทางจริยธรรม จริยธรรมในการศึกษาทางรัฐศาสตร์ และจริยธรรมการบริหารงานภาครัฐในบริบทสังคมทั่วไปและบริบทสังคมไทย ทั้งนี้ จริยธรรมคือระบบของการตระหนักถึงคุณธรรมของมนุษย์ที่พึงมีสำหรับการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันเพื่อก่อให้เกิดความสงบหรือความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม ซึ่งทฤษฎีว่าด้วยจริยธรรมมีพัฒนาการมา 3 สมัยคือ สมัยดั้งเดิม สมัยกลาง และสมัยใหม่ โดยปัจจัยด้านสังคมและด้านจิตวิทยาเป็นแรงผลักให้เกิดพลวัตทางจริยธรรม ส่วนเกณฑ์ตัดสินทางจริยธรรมถูกกำหนดตามทัศนะที่แตกต่างกันของกลุ่มนักวิชาการ จุดมุ่งหมายของความเป็นศาสตร์ระหว่างจริยศาสตร์และรัฐศาสตร์ คือ จริยศาสตร์มุ่งความดีทางศีลธรรมของปัจเจกชนและรัฐศาสตร์มุ่งความสันติสุขความมั่นคงของสาธารณชน สำหรับจริยธรรมการบริหารงานภาครัฐในบริบทสังคมทั่วไปเน้นเรื่องการปฏิบัติงาน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้บริหาร ส่วนบริบทสังคมไทยเน้นเรื่องหลักธรรมทางศาสนาและหลักกฎหมาย
- Publicationจริยศาสตร์ว่าด้วยปฏิบัติการฆ่าตัวตายและชีวิตที่ดีของผู้มีโรคซึมเศร้าในพื้นที่สายหมอก จังหวัดยะลาปรมินทร์ ตั้งโอภาสวิไลสกุล; Poramin Tangopasvilaisakul (2022)ภายใต้ภววิทยาอัตวินิบาตวิทยากระแสหลัก ปรากฏการณ์การฆ่าตัวตายมักถูกอธิบายในฐานะพยาธิสภาพที่สะท้อนถึงความเจ็บป่วยของปัจเจกบุคคล หรือความเจ็บป่วยของสังคม ทว่าตัวปฎิบัติการฆ่าตัวตายโดยตัวมันเองกลับไม่ถูกทำความเข้าใจอย่างจริงจัง ซึ่งปิดกั้นชุดความเป็นไปได้อื่นๆ ในการทำความเข้าใจ ‘ภววิทยาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย’ ที่ดำรงอยู่อย่างหลากหลาย บทความชิ้นนี้ได้หยิบประยุกต์กรอบทัศน์เชิงภววิทยาและจริยศาสตร์การดูแล ที่ให้ความสำคัญกับปฏิบัติการสภาวะ (practicalities) และสัมพันธภาวะ (relationality) ของการฆ่าตัวตาย ในแง่ที่ว่าการฆ่าตัวตายนั้นก่อตัวและปรากฏขึ้น (enactment) อย่างไรภายในเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีโรคซึมเศร้ากับผู้ดูแล บทความชิ้นนี้ได้ศึกษาปฏิบัติการฆ่าตัวตายของผู้มีโรคซึมเศร้าในพื้นที่สายหมอก (นามสมมติ) จังหวัดยะลา โดยการลงภาคสนามและสัมภาษณ์เก็บรวบรวมเรื่องเล่าเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายจากผู้มีโรคซึมเศร้าจำนวน 5 ครอบครัว พบว่า ภายใต้ภววิทยาของผู้มีโรคซึมเศร้า การฆ่าตัวตายอาจมิได้เป็นจุดสิ้นสุดของชีวิต หรือการทำลายล้าง หากแต่การฆ่าตัวตายปรากฏขึ้น (enact) ในฐานะของการดิ้นรนทางศีลธรรมที่ช่วยเปิดพื้นที่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในสร้างจินตภาพเกี่ยวกับชีวิตที่ดี ท่ามกลางเงื่อนไขชีวิตที่ซับซ้อน และทรัพยากรที่พวกเขามี ส่งผลให้ปฏิบัติการฆ่าตัวตายเผยตัวออกมาขึ้นอย่างหลากหลาย อาทิ ในฐานะการสร้างจินตภาพเกี่ยวการเป็นลูกที่ดี การตอบแทนบุญคุณ การซ่อมสร้างความสัมพันธ์ การประนีประนอมต่อรองทางอำนาจ การธำรงรักษาอัตลักษณ์ตัวตน หรือแม้กระทั่งการถอนตัวออกจากโลกความสัมพันธ์ที่พวกเขารู้สึกแปลกแยกและเป็นปฏิปักษ์ เป็นต้น
- Publicationแนวคิดเรื่องความเป็นเจ้าของตัวเองในทรรศนะของพุทธปรัชญาเถรวาทพระมหาวิเชียรสุธีโร; Phramaha Wichian Sudhĩro (2020)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าใจแนวคิดเรื่องการเป็นเจ้าของตัวเองและปัญหาเรื่องสิทธิต่อปัญหาจริยศาสตร์โดยใช้การศึกษาจากเอกสารหนังสือและบทความที่เกี่ยวข้องผลการศึกษาพบว่าพุทธศาสนาเถรวาทถือว่าในแง่ปรมัตถสัจจะหรือความจริงสูงสุดเราไม่ได้เป็นเจ้าของตัวเองเพราะสิ่งที่เรียกว่า“ตัวเอง” “ตัวฉัน” หรือ“ตัวกู” ไม่มีอยู่จริงพุทธศาสนาเถรวาทถือว่าเราเป็นเจ้าของตัวเองเพราะชีวิตในปัจจุบันชาติของเราเป็นสิ่งที่สืบเนื่องมาจากชีวิตในอดีตชาติของเราเราทุกคนมีเจตนาหรือเสรีภาพในการเลือกทํากรรมดีหรือกรรมชั่วได้ด้วยตัวเองและเป็นผู้รับผลของกรรมดีหรือกรรมชั่วที่ตัวเองได้ทําไว้และปัญหาเรื่องสิทธินั้นพุทธศาสนาเถรวาทแบ่งสิทธิตามธรรมชาติออกเป็น2ส่วนคือ(1) สิทธิตามธรรมชาติปฐมภูมิได้แก่สิทธิในร่างกายและชีวิต(2) สิทธิตามธรรมชาติทุติยภูมิได้แก่สิทธิในทรัพย์สินในจํานวนสิทธิตามธรรมชาติสองอย่างนี้สิทธิตามธรรมชาติทุติยภูมิสามารถถ่ายโอนได้ในขณะที่สิทธิตามธรรมชาติปฐมภูมิไม่สามารถถ่ายโอนต่อปัญหาจริยศาสตร์เรื่องการฆ่าตัวตายไม่ถือว่าเป็นปาณาติบาตเพราะเป็นการใช้สิทธิที่ตนเองมีอยู่ส่วนการช่วยให้ผู้อื่นตายที่เรียกว่าการุณยฆาตเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมเพราะเป็นการละเมิดสิทธิในร่างกายและชีวิตของบุคคลผู้ถูกฆ่าในเรื่องการซื้อขายอวัยวะมนุษย์พุทธศาสนาเถรวาทถือว่าการซื้อขายอวัยวะมนุษย์เป็นการละเมิดสิทธิในร่างกายของผู้ขายเพราะสิทธิในร่างกายเป็นสิทธิที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้อวัยวะจึงไม่สามารถซื้อขายกันได้แม้ว่าคนขายจะสมัครใจก็ตาม
- Publicationปัญหาทางจริยศาสตร์จากใช้เสต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือในการรักษาโรค ในทัศนะของจอห์น สจ๊วจ มิลล์ปัทมาวดี แสนเขื่อนแก้ว; pattamawadee sankheangaew (2021)บทความวิชาการเรื่องปัญหาทางจริยศาสตร์จากใช้เสต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือในการรักษาโรคในทัศนะของจอห์น สจ๊วจ มิลล์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางใหม่ในการรักษาโรคโดยใช้เสต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือในการรักษาโรคในทัศนะของจอห์น สจ๊วจ มิลล์ และเพื่อวิเคราะห์ปัญหาทางจริยศาสตร์จากการใช้เสต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือในการรักษาโรคในทัศนะของจอห์น สจ๊วจ มิลล์ ศตวรรษที่ 21 วงการแพทย์ได้ให้ความสำคัญเรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะจากเซลล์ต้นกำเนิดหรือเสต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือเพื่อรักษาโรคที่มีอวัยวะพิการเรื้อรังและเสื่อมสลาย ทำให้การปลูกถ่ายอวัยวะประสบผลสำเร็จและแพร่หลายไปทั่วโลก ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางเม็ดเลือด โดยเฉพาะโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย โดยทั่วไปแล้ว โรคมะเร็งสามารถรักษาได้หลายวิธี แต่ถ้าผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้นมีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดี หรือมีโรคมะเร็งกำเริบเป็นซ้ำ ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกหรือสเต็มเซลล์จึงจะมีโอกาสหายขาด นอกจากนี้ การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ยังมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของไขกระดูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย
- Publicationปาณาติบาตในเบญจศีล: วิเคราะห์การใช้เครื่องจักรและโปรแกรมฆ่าสัตว์อํานาจ ยอดทอง; Amnat Yodthong (2022)บทความวิชาการฉบับนี้ มุ่งวิเคราะห์ประเด็นการใช้เครื่องจักรและโปรแกรมฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ตามหลักเบญจศีลข้อปาณาติบาต โดยมี 2 กรณี คือ กรณีแรก การใช้เครื่องจักรฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ มีบุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องจักร 2) ผู้ซื้อหรือเจ้าของโรงงาน และ 3) คนงานที่ใช้เครื่องจักร และกรณีที่สอง การใช้โปรแกรมฆ่าหรือควบคุมเครื่องจักรฆ่าสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงในกระบวนการนี้ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้ออกแบบและผลิตโปรแกรมฆ่า 2) ผู้ซื้อโปรแกรมไปใช้หรือเจ้าของโรงงาน และ 3) คนงานที่ควบคุมหรือใช้โปรแกรมฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ โดยพบว่า บุคคลกลุ่มที่ 1 ของทั้ง 2 กรณี อาจเข้าข่ายเป็นปาณาติบาตได้ ถ้ามีการโฆษณาคุณสมบัติของเครื่องจักรหรือโปรแกรมฆ่าด้วยหวังจูงใจให้เจ้าของโรงงานซื้อ ส่วนบุคคลกลุ่มที่ 2 ของทั้ง 2 กรณี อาจเข้าข่ายเป็นปาณาติบาตได้ใน 3 สถานะ คือ ผู้สั่งบังคับ (อาณัตติกประโยค) ผู้แสวงหาเครื่องมือฆ่าให้แก่คนงาน และผู้กล่าวพรรณนาคุณความตายหรือชักชวนเพื่อนให้ตั้งใจทำงาน และบุคคลกลุ่มที่ 3 ของทั้ง 2 กรณี อาจเข้าข่ายเป็นปาณาติบาตใน 2 สถานะ คือ ผู้ใช้เครื่องจักรหรือโปรแกรมฆ่า (ถาวรประโยค) และผู้กล่าวพรรณนาคุณความตายหรือชักชวนเพื่อนให้ตั้งใจทำงาน ส่วนพระพุทธศาสนามีมุมมองและท่าทีต่ออาชีพหรือการงานนี้ 5 ประการ คือ 1) การงดเว้นหรือไม่ประกอบอาชีพที่ผิดศีลธรรมแบบนี้ 2) ถ้าไม่มีทางเลือก ผู้กระทำจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า มันเป็นอาชีพที่ผิดศีลธรรม 3) ไม่ปฏิบัติด้วยมิจฉาทิฏฐิ คือ หลงเข้าใจผิดว่า เป็นอาชีพหรือการงานที่เป็นกุศล 4) ไม่พึงมีความรู้สึกยินดีในขณะปฏิบัติหน้าที่ของตน และ 5) หากมีทางเลือกอื่น ก็ควรเดินออกจากการประกอบอาชีพนี้ และหันไปประกอบอาชีพที่ดีถูกต้องตามหลักศีลธรรม
- Publicationพระพุทธศาสนากับการปกครองระบอบประชาธิปไตยไทยชวลิต ไหลรินทร์ (2016)สังคมมนุษย์ ประกอบด้วยกลุ่ม บุคคลต่างๆ ที่มี ความเชื่อ ความคิด อุปนิสัย ทัศนคติและวัฒนธรรม ที่แตกต่างกัน การที่มนุษย์มารวมกันอยู่ภายใน อาณาเขตเดียวกัน จึงทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องหา การปกครองที่เหมาะสมมาใช้ในสังคม เพื่อ ให้สังคมนั้นๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี คือมีความสงบ เรียบร้อย มีความยุติธรรม มีความสามัคคี ปฏิบัติ ตนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม หากสังคมที่มีความ แตกต่างกันอย่างหลากหลาย ไม่มีการนำการ ปกครองที่เหมาะสมมาใช้แล้ว ก็อาจทำให้สังคมนั้น ประสบกับความสับสนยุ่งเหยิง เกิดความแตกแยก แย่งชิงผลประโยชน์ตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังที่ ปรากฏในสังคมต่างๆ การปกครองที่เหมาะสมจึง เป็นที่ต้องการของทุกๆ สังคมในปัจจุบัน เพราะถือว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ได้มาซึ่งการมีเสถียรภาพ ทางสังคมและการนำสังคมไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ความผาสุก การบริหารและการปกครองของสังคม ในอดีตมีความสัมพันธ์กับศาสนาอย่างใกล้ชิด มีการพึ่งพิงอาศัยซึ่งกันและกัน ศาสนาจึงเป็นที่มา ของอุดมการณ์และรูปแบบเดียวกัน เป็นเครื่องมือ ที่สำคัญในการธำรงรักษาความชอบธรรมของการ ปกครองและการยอมรับของประชาชนที่มีต่อผู้ปกครอง
- Publicationพระพุทธศาสนากับการพัฒนาจริยธรรมครอบครัวจิระศักดิ์ สังเมฆ; Jirasak Sungmek (2018)วัฒนธรรมของสังคมไทย มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่อิงอยู่กับคติธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่ มีหลักธรรมที่ส่งเสริมการพัฒนามิติด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริบทการดำเนินชีวิตของมนุษย์อย่างยั่งยืน แม้อาจจะมีความขัดแย้งอยู่กับหลักการทางทุนนิยมที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตให้เอื้อต่อความต้องการอุปโภคบริโภคของประชาชนให้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจที่นำไปสู่การบ่อนทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างถาวร จริยธรรมสำหรับการเลือกคู่ครองที่เหมาะสม จริยธรรมสำหรับส่งเสริมพัฒนาสามีภรรยาให้ปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ จริยธรรมสำหรับส่งเสริมพัฒนาบิดามารดาให้ปฏิบัติต่อบุตรธิดาอย่างเหมาะสม จริยธรรมสำหรับส่งเสริมพัฒนาให้บุตรธิดาปฏิบัติตอบแทนคุณบิดามารดาของตนอย่างเคารพ จริยธรรมสำหรับการส่งเสริมพัฒนาหลักการศักยภาพทางเศรษฐกิจของบุคคลภายในครอบครัวให้มีความเจริญมั่นคง มีความเข้มแข็ง และมีเสถียรภาพ
- Publicationพุทธจริยศาสตร์ ว่าด้วยปาณาติบาตพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน/พุดชู (2017)บทความนี้ประกอบด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา3ประการคือ1)เพื่อศึกษาแนวคิดด้านจริยศาสตร์ในทางพุทธปรัชญาเถรวาท2)เพื่อศึกษากรณีตัวอย่างปัญหาและวิธีการวินิจฉัยด้านจริยศาสตร์ในทางพุทธปรัชญาเถรวาท3)เพื่อการนาไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางแก้ปัญหาสังคมปัจจุบันการศึกษานี้เป็นลักษณะการวิจัยเชิงคุณภาพตามกระบวนการศึกษาด้านมนุษยศาสตร์โดยใช้วิธีวิภาษวิธีและวิธีหาเหตุผลด้วยวิจารณญาณ ภายใต้การวิเคราะห์ วิจักษ์และวิธาน ปัญหาทางจริยธรรมเป็นประเด็นทางการศึกษาอย่างหนึ่งของจริยศาสตร์ปัจจุบันการล่วงละเมิดจริยธรรมมีมากในบทความนี้ได้นาเสนอปัญหาจริยศาสตร์เชิงพุทธในระดับเบื้องต้นคือเบญจศีลเฉพาะข้อว่าด้วยปาณาติบาตประเด็นทางจริยธรรมในศีลข้อนี้ก็คือเรื่องของอัตวินิบาตการุณยฆาตและนายเพชฌฆาตกับนักโทษประหารจากการศึกษาพบว่าการวินิจฉัยปัญหาทางจริยธรรมในทางพุทธจริยศาสตร์จะมีเกณฑ์วินิจฉัยที่ชัดเจนนั่นคือหลักพระธรรมวินัยในที่นี้คือหลักวินิจฉัยศีลข้อที่1 หากปัญหาใดเข้าข่ายหลักที่ว่านี้ถือว่าผิดศีลอย่างไรก็ตามการวินิจฉัยปัญหาทางพุทธจริยศาสตร์ไม่ได้ยึดตัวบทของคัมภีร์อย่างเดียวแต่ขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมด้วยเช่นประโยชน์หรือโทษที่สังคมจะพึงได้รับจากการกระทานั้นดังนั้นการแก้ปัญหาทางพุทธจริยศาสตร์จึงอยู่บนทางสายกลางคือความพอดีไม่สุดโต่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งและเป็นการประยุกต์เข้าหาสังคมโดยมีหลักการวินิจฉัยที่แน่นอนว่าถูกหรือผิดในความถูกหรือผิดก็มีข้อพิจารณาคุณหรือโทษมากน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่นามาวิเคราะห์ร่วม
- Publicationพุทธจริยศาสตร์กับแนวความคิดที่เน้นความเป็นปัจเจกบุคคลและสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลนันทพล โรจนโกศล; Nunthapol Rodjanagoson (2019)แนวความคิดที่เน้นความเป็นความเป็นปัจเจกบุคคลและสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เป็นประเด็นโต้แย้งทางจริยธรรมที่บทความนี้สนใจ พุทธจริยศาสตร์มีหลักการและแนวทางพิจารณาที่จะทำให้แนวคิดของบุคคลอันเน้นความเป็นปัจเจกบุคคลสูงดำเนินอยู่โดยไม่ไปลดข้อดีในแนวคิดนี้ และในขณะเดียวกันจะไม่ทำให้เกิดผลในด้านตรงกันข้าม เพียงแต่แนวคิดนี้ควรปรับเปลี่ยนแนวคิดเพียงเล็กน้อย และพุทธจริยศาสตร์ยังเน้นให้บุคคลมีสิทธิเสรีภาพสูงสุดที่เรียกว่า “นิพพาน” และมีแนวทางสำหรับบุคคลที่ต้องการจะทำตามความต้องการของตน แต่อยู่ภายใต้กรอบที่ไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ตลอดจนหลักคำสอนที่ทำให้การใช้สิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคลเป็นไปด้วยดีในสังคม โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกัน และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
- Publicationวิเคราะห์พันธุวิศวกรรมโคลนนิ่งกับความเป็นมนุษย์ ตามมุมมองพระพุทธศาสนาพระวิมาน คมฺภีรปญฺโญ; พระวิมาน คมฺภีรปญฺโญ; Phra Vimarn Khambhirapanno; Phra Vimarn Khambhirapanno (2018)การโคลนนิ่งเป็นกระบวนการสืบพันธุ์อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาศัยการเลียนแบบชีวพันธุกรรมตามธรรมชาติ เพื่อสร้างตัวอ่อนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนมนุษย์ต้นแบบ ทำให้ได้มนุษย์ที่มีลักษณะทางกายภาพเหมือนต้นแบบ โดยประกอบด้วยขันธ์ 5 เหมือนมนุษย์ทั่วไป ซึ่งเป็นเพียงกระบวนการเกิด แต่พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับกระบวนการดำเนินชีวิต เพราะเห็นว่ามนุษย์ไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดก็สามารถพัฒนาทางด้านกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมได้ แม้ว่าการโคลนนิ่งจะสามารถกำหนดพันธุกรรมได้ แต่ก็ไม่สามารถกำหนดพฤติกรรมล่วงหน้าได้ ซึ่งพระพุทธศาสนาเห็นว่าความเป็นมนุษย์วัดกันที่การมีจิตใจสูง มีคุณธรรม และมีพื้นฐานทางจริยธรรมด้วยศีล 5