การแปลภาษาจีน
Permanent URI for this collection
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านประเด็นเชิงภาษาศาสตร์ในการแปล กลวิธีการแปล การแปลวรรณกรรมและตัวบทเฉพาะด้าน การล่าม ฯลฯ
Browse
Browsing การแปลภาษาจีน by browse.metadata.researchtheme1 "ภาษาศาสตร์ในการแปล"
Now showing 1 - 20 of 43
Results Per Page
Sort Options
- PublicationA Study on the Chinese Translation of Place Names in Chiang Rai Province, ThailandWang, Caijian; Sittivised, Sahattaya; Cheewinwilaiporn, Danuphong; ไฉเจี้ยน หวาง; สหัทยา สิทธิวิเศษ; ดนุพงศ์ ชีวินวิไลพร (2021)The purposes of the study are: 1) to examine the methods of the Chinese translation of Thai place names in Chiang Rai Province, 2) to analyze the problems in the Chinese translation of Thai place names in Chiang Rai Province, and 3) to make suggestions for teaching Chinese translation of place names in Thai-Chinese translation courses. The samples used in the research were 191 place names in Chiang Rai Province that appeared in various public signs. Data were analyzed by using frequency, percentage, and descriptive analysis. The results revealed that, the most frequently used Chinese translation method is the phonetic translation (54.79%), followed by literal translation (13.30%), free translation (12.77%), mixed phonetic and free translation (12.23%), and conventional translation (1.06%), as well as 5.85% of the unidentified translation methods. From the inductive analysis of problems in the Chinese translation of Thai place names in Chiang Rai, four main problems in the Chinese translation of place names in Chiang Rai Province, Thailand are found. The inconsistent Chinese translation is mostly found (54.81%), while the inappropriate application of Chinese translation methods (20.74%), the inconsistent translation of traditional and simplified Chinese characters (17.78%), and other Chinese translation errors (6.67%) are respectively found. Recommendations for the teaching Chinese translation of place names in Thai-Chinese translation courses are: 1) Incorporating Chinese translation of place names into Thai-Chinese translation textbooks, and 2) Place name translation teaching should give more emphasis to practice. In summary, the author intends to contribute a reference for the unification and standardization of Chinese translations of place names in Chiang Rai Province, Thailand.
- Publicationกลวิธีการดัดแปลงเพลงภาษาจีนเป็นเพลงภาษาไทย กรณีศึกษา “อัลบั้มเพลงรัก 2 ภาษาจีน-ไทย ชุดที่ 4” ของ สุวรรณา ชนากานต์เนตรน้ำทิพย์ บุดดาวงศ์; กนกพร นุ่มทอง; Buddawong, Nednamthip; Numtong, Kanokporn (2021)บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์กลวิธีการดัดแปลงเพลงภาษาจีนเป็นเพลงภาษาไทย โดยใช้เพลงในอัลบั้มเพลงรัก 2 ภาษาจีน-ไทย ชุดที่ 4 ของ สุวรรณา ชนากานต์ เป็นกรณีศึกษา โดยจัดประเภทเพลงเหล่านี้แยกเป็นการใช้กลวิธีการแปลกับการแต่งเนื้อร้องขึ้นใหม่ จากนั้นวิเคราะห์กลวิธีการแปลและวิเคราะห์กลวิธีที่ใช้ในการแต่งเนื้อร้องใหม่ ผลการศึกษาพบว่า อัลบั้มดังกล่าวปรากฏกลวิธีการแปล 3 เพลง และการแต่งเนื้อร้องใหม่ 5 เพลง กลวิธีการแปลแบบดัดแปลงเพลงมีทั้งหมด 4 กลวิธี คือ กลวิธีการเติมข้อมูลในบทแปล กลวิธีการใช้คำเทียบเท่ากัน กลวิธีการเปลี่ยนโครงสร้างประโยค และกลวิธีการแต่งเนื้อหาใหม่ ส่วนกลวิธีการแต่งเนื้อร้องขึ้นใหม่แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ เพลงที่มีเนื้อหาสัมพันธ์กับต้นฉบับและเพลงที่มีเนื้อหาไม่สัมพันธ์กับต้นฉบับ ผลการศึกษาดังกล่าวนำไปสู่ข้อสรุปว่า เพลงบางเพลงที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อนเกินไปอาจเป็นอุปสรรคของผู้แปลที่ไม่สามารถแปลให้สอดคล้องกับทำนองของเพลงต้นฉบับได้ ผู้แปลจึงเลือกถ่ายทอดเพียงทำนองดนตรีของเพลงต้นฉบับและใช้กลวิธีแต่งเนื้อร้องขึ้นใหม่ หรือเพลงบางเพลงมีเนื้อหาที่น้อยเกินไป หากแปลโดยที่ไม่ดัดแปลงอาจทำให้เนื้อเพลงฟังแล้วไม่รื่นหู ผู้แปลจึงเลือกใช้กลวิธีดัดแปลงโดยเติมเนื้อความเพื่อให้เพลงมีความไพเราะน่าฟังยิ่งขึ้น
- Publicationกลวิธีการตั้งชื่อภาพยนตร์ไทยเป็นภาษาจีนจินดาพร พินพงทรัพย์; Pinpongsub, Jindaporn (2018)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อภาพยนตร์ไทยเป็นภาษาจีน โดยวิเคราะห์ จากภายนตร์ไทย 86 เรื่อง ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไทยที่ฉายตั้งแต่ปี คศ. 2002-2018 โดยใช้ทฤษฎีสโคโปส ( Skopos Theroy ) และอ้างอิงเพิ่มเติมจากงานวิจัยกลวิธีการตั้งชื่อหนังตลกของชาวอเมริกันของศุภวรรณ ทองวัน ผลการวิจัยพบว่าผู้แปลใช้กลวิธีการแปลทั้งหมด 9 วิธี กลวิธีการแปลที่นิยมแปลมากที่สุด คือ การตั้งชื่อใหม่โดยอิงกับแก่นเรื่อง และไม่ยึดติดกับคำเดิม กลวิธีที่นิยมน้อยที่สุด คือ การตั้งชื่อใหม่ โดยใช้คำที่มีเค้าความเดิม และเสริมข้อความภาษาจีน การทับศัพท์ทั้งหมด มีการเสริมข้อความภาษาจีน และการทับศัพท์บางส่วน เปลี่ยนข้อความบางส่วน
- Publicationกลวิธีการแปลคำศัพท์ทางเทคนิคในเกมออนไลน์จากภาษาจีนเป็นภาษาไทยธวัชชัย ชัยชนะกิจพงษ์; จตุวิทย์ แก้วสุวรรณ์; Chaichanakijpong, Tawatchai; Keawsuwan, Chatuwit (2022)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีการแปลคำศัพท์และวลีทางเทคนิคบนหน้าจอของผู้เล่นในเกมออนไลน์ภาษาจีนจำนวน 5 เกม โดยใช้ทฤษฎีการแปลของ Baker เป็นเกณฑ์การวิจัย ผลการวิจัยพบว่า การแปลเกมออนไลน์แตกต่างจากการแปลบทความ นิยาย หนังสือ เพราะมีปัจจัยอื่นเข้ามาควบคุมการแปลอีกชั้นหนึ่ง อาทิ ตัวอักษร สัญลักษณ์คอมพิวเตอร์ ภาพกราฟฟิก รวมถึงการทำให้เหมาะกับวัฒนธรรมปลายทาง การแปลนี้จะเรียกว่า Game Localization ผู้วิจัยสรุปกลวิธีเป็น 4 แนวทางได้แก่ การแปลตรงตัวภาษาไทย การแปลเอาความภาษาไทย การแปลถอดความเป็นภาษาอังกฤษแล้วทับศัพท์เป็นภาษาไทย และการแปลตรงตัวโดยใช้คำเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งกลวิธีการแปลคำศัพท์เทคนิคในเกมออนไลน์ ต้องคำนึงถึงผู้รับสารและทำให้ได้อรรถรสเทียบเท่ากับต้นฉบับ เพราะเกมรุ่นแรก ๆ ที่เข้ามาในประเทศ เป็นฉบับภาษาอังกฤษไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย ส่งผลให้ผู้เล่นไทยยอมรับคำศัพท์เทคนิคภาษาอังกฤษไปโดยปริยายจนถึงปัจจุบัน และพบอีกว่าต้องคงไว้ซึ่งสัญลักษณ์ทางคอมพิวเตอร์ที่มากับต้นฉบับ ดังนั้นคำศัพท์ที่ศึกษาในงานวิจัยฉบับนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำไปใช้เพื่อแปลเกมภาษาจีนเข้าสู่ภาษาไทย
- Publicationกลวิธีการแปลชื่อซีรีส์จีนในแอพพลิเคชั่น WeTV เป็นภาษาไทยจิราพร เนตรสมบัติผล; เยาวลักษณ์ ศรีวิเชียร; Netsombutphol, Jiraporn; Srivichien, Yaowalak (2021)งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีการแปลชื่อซีรีส์จีน โดยรวบรวมรายชื่อซีรีส์จีนทั้งหมดจากแอปพลิเคชัน WeTV จำนวน 80 เรื่อง (สิงหาคม - กันยายน พ.ศ. 2563) มาแบ่งแยกตามประเภทของซีรีส์ รวมถึงวิเคราะห์กลวิธีการแปลที่ใช้ในการแปลชื่อซีรีส์จีนเป็นภาษาไทย ผลจากการวิจัยพบว่ากลวิธีการแปลชื่อซีรีส์จีนที่ผู้แปลเลือกใช้ในการแปลมีจำนวนทั้งหมด 4 กลวิธี โดยกลวิธีการแปลที่ผู้แปลนิยมใช้มากที่สุดในทุกประเภทของซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ประเภทรักโรแมนติก ซีรีส์ประเภท Yaoi (ชายรักชาย) ซีรีส์ประเภทแอ็คชั่น ซีรีส์ประเภทรักวัยรุ่น ซีรีส์ประเภทย้อนยุค ซีรีส์ประเภทรักซับซ้อนและซีรีส์ประเภทลึกลับ สืบสวนสอบสวน คือกลวิธีการแปลแบบตั้งชื่อใหม่จำนวน 45 เรื่อง ซึ่งการแปลด้วยกลวิธีการตั้งชื่อใหม่นั้น ผู้แปลสามารถคิดชื่อเรื่องใหม่ได้อย่างอิสระ รองลงมาคือ กลวิธีการแปลแบบขยายความจำนวน 19 เรื่อง กลวิธีนี้ผู้แปลใช้การแปลแบบอิงชื่อเดิม แต่อาจมีการเพิ่มคำ หรือคำขยายเข้าไปเพื่อทำให้ชื่อเรื่องน่าสนใจ ส่วนกลวิธีการแปลแบบผสมผสานจำนวน 9 เรื่อง ผู้แปลใช้การแปลโดยการแปลแบบเอาความหมายเดิมของเรื่องผสมการตั้งชื่อใหม่เพื่อให้ชื่อเรื่องสมบูรณ์ และสื่อความหมายออกมาได้ดี และสุดท้ายคือกลวิธีการแปลแบบเอาความหมายจำนวน 7 เรื่อง ซึ่งกลวิธีนี้ผู้แปลใช้การแปลแบบตรงตัวตามความหมายเดิมของภาษาจีนต้นฉบับ แต่อาจแตกต่างกันทางโครงสร้างของภาษาเท่านั้น
- Publicationกลวิธีการแปลชื่อละครโทรทัศน์จีนแนวย้อนยุค (古装) เป็นภาษาไทยกัญญาณัฐ จันทะพันธ์; ชัญญพร จาวะลา; Jantapan, Kanyanut; Chawla, Chanyaporn (2022)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อละครโทรทัศน์จีน แนวย้อนยุคที่ออกอากาศในประเทศไทยระหว่างปี ค.ศ. 1990-2019 และเปรียบเทียบความหมายระหว่างชื่อต้นฉบับกับชื่อออกอากาศ ตลอดจนศึกษาการเปลี่ยนแปลงของกลวิธีการแปลต่างช่วงเวลา ผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อรวบรวมข้อมูล จากนั้นนำผลการศึกษามาประมวลผลและวิเคราะห์โดยอาศัยทฤษฎีอนุวาทศาสตร์ (Skopos Theory) และแนวคิดการแปลชื่อเรื่องของคริสติอาเน นอร์ด (Chistiane Nord) เป็นแนวทางสรุปผล จากการศึกษาชื่อละครโทรทัศน์จีนแนวย้อนยุคจำนวน 379 เรื่อง ผู้วิจัยพบว่าผู้แปลใช้กลวิธีการแปลที่หลากหลายแปลชื่อละครจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย และกลวิธีการแปลที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ การแปลตรงตัวบางส่วน และเสริมความภาษาไทย การตั้งชื่อใหม่โดยไม่ยึดติดกับคำเดิม และการตั้งชื่อใหม่โดยใช้คำเค้าโครงเดิมตามลำดับ อย่างไรก็ดี ความนิยมในกลวิธีการแปลเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา กล่าวคือ ช่วงปี ค.ศ. 1990-1999 การแปลตรงตัวบางส่วน และเสริมความในภาษาไทยได้รับความนิยมสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 41.94 ต่อมา ในปี ค.ศ. 2000-2009 กลวิธีการแปลที่นิยมใช้สูงสุดคือ การตั้งชื่อใหม่โดยไม่ยึดติดกับคำเดิม คิดเป็นร้อยละ 32.18 แต่ในช่วงปี ค.ศ. 2010-2019 กลวิธีการแปลตรงตัวบางส่วน และการเสริมความกลับมาได้รับความนิยมสูงสุดอีกครั้ง คิดเป็นร้อยละ 36.02 กลวิธีการแปลหลากหลายรูปแบบนี้ส่งผลให้ชื่อต้นฉบับกับชื่อออกอากาศมีความสัมพันธ์ทางความหมายทั้งแบบที่ตรงกัน คล้ายคลึงกัน เชื่อมโยงกัน และแตกต่างกัน จากการศึกษาพบว่าความสัมพันธ์ด้านความหมายแบบคล้ายคลึงกันมีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 59.1
- Publicationกลวิธีการแปลชื่อละครและซีรีส์ไทยเป็นภาษาจีนเอกชัย แสงจันทร์ทะนุ; SAENGJANTANU, EKACHAI (2020)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อละครหรือซีรีส์หลังข่าวของไทยเป็นภาษาจีน ซึ่งทั้งหมดเป็นละครหรือซีรีส์ที่ได้รับการจัดทำคำบรรยายใต้ภาพ ถูกตั้งชื่อเป็นภาษาจีนและได้รับการเผยแพร่บนเว็บไซต์ที่ให้บริการวีดีโอออนไลน์ในประเทศจีนจำนวน 7 แห่ง รวม 90 ชื่อเรื่อง(ภาษาจีน) โดยนำชื่อละครหรือซีรีส์ดังกล่าวมาทำการวิเคราะห์แยกประเภท โดยอาศัยแนวคิดของ Newmark (2001) ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลและมีการศึกษาเพิ่มเติมจากงานวิจัยกลวิธีการตั้งชื่อภาพยนตร์ไทยเป็นภาษาจีน ของ Pinpongsab (2018) โดยผลการวิเคราะห์พบว่าสามารถแบ่งรูปแบบการแปลได้เป็นสองกลุ่มหลัก กลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การแปลแบบเน้นที่ความเข้าใจของผู้ชมละครหรือซีรีส์ ไม่เน้นการรักษาคำตามต้นฉบับ ร้อยละ 55.56 และกลุ่มที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือการแปลแบบเน้นที่การรักษาชื่อเรื่องเดิมตามต้นฉบับ ร้อยละ 44.44 และสามารถแบ่งกลวิธีในการแปลออกเป็น 10 กลวิธี กลวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ กลวิธีตั้งชื่อเรื่องใหม่ โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องเดิม กลวิธีที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดพบว่ามีสองกลวิธีคือ 1.การทับศัพท์ชื่อเรื่องทั้งหมด ทุกพยางค์ 2.การแปลชื่อเรื่องบางส่วน ทับศัพท์บางส่วน ละข้อความบางส่วน
- Publicationกลวิธีการแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยในภาษาจีน: กรณีศึกษาหนังสือ《畅游泰国》Guide To Thailandสุพรรษา โต๊ะดอนทอง; จิราพร เนตรสมบัติผล; Todongtong, Supansa; Netsombutphol, Jiraporn (2019)งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีการแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยในภาษาจีน โดยศึกษาผ่านหนังสือ《畅游泰国》หรือ Guide To Thailand รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด 142 รายชื่อ เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์โดยใช้ค่าร้อยละ ผลการศึกษาพบว่า ผู้แปลใช้กลวิธีการแปลชื่อเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวภาษาจีนเป็นภาษาไทยทั้งหมด 6 กลวิธี ได้แก่ 1) แบบถอดเสียง 2) เอาความหมาย 3) แบบผสม 4) ขยายความ5) ตั้งชื่อใหม่ 6) กลวิธีแบบอื่น ๆจากการศึกษา พบว่า กลวิธีการแปลที่พบมากที่สุด คือ กลวิธีการแปลแบบผสม มีจำนวน82 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 57.74 อันดับที่ 2กลวิธีการแปลแบบตั้งชื่อใหม่ จำนวน 18 รายชื่อคิดเป็นร้อยละ 12.67 อันดับที่ 3 กลวิธีการแปลแบบขยายความ จำนวน 14 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 9.85 อันดับที่ 4 กลวิธีการแปลเอาความหมาย จำนวน 14 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 9.85อันดับที่ 5 กลแบบวิธีอื่น ๆ จำนวน 9 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 6.33 และอันดับที่ 6 กลวิธีการแปลแบบถอดเสียง จำนวน 5 รายชื่อ คิดเป็นร้อยละ 3.52 ตามลำดับ
- Publicationกลวิธีและปัญหาการแปลชื่อพิมพ์ของพระสมเด็จเป็นภาษาจีนในหนังสือจักรพรรดิแห่งพระเครื่องเฟื่องฟ้า เขาวงค์; KHAOWONG, FUEANGFA (2021)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์รูปแบบและกลวิธีการแปลชื่อพิมพ์พระภาษาไทยเป็นภาษาจีน ข้อมูลที่ใช้การศึกษามาจาก หนังสือประกอบการเรียนการสอนจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง (ฉบับภาษาจีน) หลักสูตรการศึกษาพระเครื่องพระสมเด็จ (โต พรหมรังสี)《佛牌之王阿赞多崇迪佛研究课程教课用书》เป็นหนังสือสำหรับชาวต่างชาติที่มีความเสื่อมใสในพระพุทธศาสนาและสนใจพระเครื่อง ผู้เขียนคือฌานสมเด็จ โดยผู้วิจัยได้รวบรวมชื่อพิมพ์ของพระสมเด็จทั้ง 3 วัด และทำการศึกษาทั้งหมด 18 ชื่อพิมพ์ โดยอ้างอิงเกณฑ์การแปล 3 ข้อ คือ ถูกต้อง สื่อความของเหยียนฟู่ และหลักห้าหลักไม่แปลของพระเสวี้ยนจั้งมาใช้ในการวิเคราะห์ พบว่ามีบทแปลที่สอดคล้องกับมาตรฐานการแปล 11 พิมพ์ (61.11%) ภาพรวมกลวิธีการแปลที่พบว่ามีการใช้งานมากที่สุดคือ กลวิธีถ่ายความหมาย (36.37%) รองลงมาคือ กลวิธีตัดคำ (18.18%) กลวิธีถ่ายเสียง (18.18%) กลวิธีกลวิธีแปลตามขนบ (9.09%) กลวิธีแทนที่คำ (9.09%) และกลวิธีเปลี่ยนโครงสร้างไวยากรณ์ (9.09%) ตามลำดับ ส่วนปัญหาในการแปล โดยอ้างอิงจากเกณฑ์การแปล 3 ข้อ พบว่ามีบทแปลที่ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ดังกล่าว 7 พิมพ์ (38.89%) ลำดับความถี่ปัญหาที่ประสบจากมากไปน้อยพบว่า ผู้แปลเลือกใช้คำภาษาจีนที่ไม่สามารถถ่ายทอดชื่อเรื่องภาษาไทยมาไว้ในชื่อเรื่องแปลเป็นจีนได้ทั้งหมด (50.00%) ผู้แปลมีแนวโน้มยึดติดกับคำแปลตรงตัวของคำที่ปรากฏในต้นฉบับ จนทำให้บทแปลเข้าใจคาดเคลื่อนจากต้นฉบับ (25.00%) ทั้งยังการขาดความรู้ทางด้านวัฒนธรรมหรือความรู้เฉพาะทาง ส่งผลให้ไม่สามารถตีความได้ (16.67%) และขาดความรู้ทางด้านโครงสร้างและไวยากรณ์ภาษาจีน (8.33%) ดังนั้นจากประเด็นปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยได้เสนอแนวทางในการแปลที่ถูกต้องและเหมาะสม
- Publicationการก้าว “ไม่” ข้ามความเป็นอื่นด้านภาษาในคำบรรยายใต้ภาพภาษาจีนซีรีส์เรื่อง “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น”บุรินทร์ ศรีสมถวิล; 徐, 武林; Srisomthawin, Burin (2020)งานวิจัยฉบับนี้มุ่งศึกษาการ“ก้าว ‘ไม่’ ข้าม”ความเป็นอื่นด้านการใช้ภาษาในคำบรรยายใต้ภาพภาษาจีนซีรีส์เรื่อง “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น” ผลการศึกษาพบว่า ประเด็นที่ผู้แปล“ก้าว‘ไม่’ข้าม”ความเป็นอื่นด้านการใช้ภาษานั้น ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ การแปลคำเฉพาะกลุ่มเกย์ การแปลคำเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และการแปลคำสบถ สันนิษฐานว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้แปลแปลคลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับหรือไม่สามารถเลือกใช้บทแปลที่ตรงกับเจตนารมณ์ของผู้ประพันธ์นั้น คือ 1) ผู้แปลไม่ได้ศึกษากลวิธีการใช้ภาษาของผู้ประพันธ์บทละครก่อนที่จะลงมือแปล และในระหว่างที่เกิดอุปสรรคระหว่างแปลไม่ได้สื่อสารโดยตรงไปยังผู้ประพันธ์บทละครหรือผู้กำกับเพื่อไขความกระจ่าง 2) คำบรรยายใต้ภาพภาษาจีนซีรีส์เรื่อง “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น”ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจแก้ไขจากบรรณาธิการซึ่งเป็นบุคคลที่สามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางภาษาและวัฒนธรรมไทย-จีนก่อนตีพิมพ์เผยแพร่
- Publicationการประยุกต์ใช้หลักการแปลกับการแปลงานวิศวกรรมเรือจากภาษาจีนเป็นภาษาไทยพงษ์ศักดิ์ อันประเสริฐ; กนกพร นุ่มทอง; 黄, 伟强; 吴, 琼; Anprasert, Phongsak; Numtong, Kanokporn (2016)การเรียนรู้วิทยาการเทคโนโลยีด้วยการแปลภาษาเป็นเรื่องที่มีความสาคัญยิ่ง เพราะการแปลงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย มีบทบาทสาคัญต่อการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดวิทยาการเทคโนโลยีของประเทศจีน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการแปลในระดับคาศัพท์เทคนิคหรือคาศัพท์เฉพาะทางกับวลีหรือกลุ่มคาที่ใช้เฉพาะในกลุ่มวิศวกรรมเรือ โดยเลือกศึกษาจากเอกสารสาคัญสองชุดคือ “คู่มือการออกแบบเรือ”(船舶设计实用手册)และบทความวิชาการเรื่อง “การใช้วิธีการประเมินความล้าโครงสร้างโดยสังเขป”(实用船舶结构疲劳评估方法概要) ผู้วิจัยศึกษาทฤษฎีศาสตร์การแปล หลักการแปลและปรับบท หลักและข้อควรระวังในการแปล รวมถึงการตรวจสอบการแปล จากนั้นลงมือปฏิบัติการแปลด้วยตัวเองโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการแปล เก็บรวบรวมข้อมูลจากการแปลเอกสารทั้งสองชุด สุดท้ายทาการวิเคราะห์ปัญหาการแปลในระดับคาศัพท์เทคนิคกับวลี ผลการศึกษาพบว่ามีปัญหาและแนวทางแก้ไขการแปลในระดับคาศัพท์เทคนิคและระดับวลี ปัญหาระดับคาศัพท์เทคนิคประกอบด้วย 1) การแปลคาศัพท์เทคนิค รวมถึงชื่อย่อ คาทับศัพท์และศัพท์ที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศ 2) การตีความหรือจับใจความและการเลือกใช้ภาษาฉบับแปล 3) การขาดแคลนพจนานุกรมศัพท์เฉพาะทาง แนวทางการแก้ไขปัญหาในระดับคาศัพท์เทคนิคมี 1) การเลือกรูปแบบการแปล 2) การอ่านทาความเข้าใจเอกสารที่เกี่ยวข้อง 3) การเพิ่มคาอธิบาย 4) การใช้พจนานุกรมศัพท์เฉพาะทาง ในส่วนปัญหาระดับวลีประกอบด้วย 1) การตีความหรือจับใจความ จะต้องเข้าใจความสัมพันธ์ของคากับเนื้อหา 2) การเลือกใช้ภาษาฉบับแปล แนวทางการแก้ไขปัญหาในระดับวลีมี 1) การเลือกรูปแบบการแปล 2) การทาความเข้าใจในภาษาฉบับแปล โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาในแต่ละระดับ ผู้วิจัยจะอธิบายแทรกอยู่ในกระบวนการการแปล ในการแปลของระดับศัพท์เทคนิคและวลีจะอยู่ที่ศัพท์เทคนิค(术语)เป็นสาคัญ ผู้วิจัยเห็นว่าการศึกษาหลักการแปลที่เอื้อต่อการแปล การรู้จักตัดสินใจที่จะแปลอย่างเป็นระบบ การรู้จักค้นคว้าศัพท์เทคนิคจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง การมีคู่มือและเครื่องมือช่วยการแปล จึงจะช่วยให้งานแปลเฉพาะด้านมีคุณภาพ
- Publicationการแปลคำเชื่อมในภาษาจีนโบราณเป็นไทยอภิวัฒน์ คุ้มภัย; Kumpai, Apiwat (2008)งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาการแปลคำเชื่อมที่ใช้บ่อยในภาษาจีนโบราณจำนวน ๒๐ คำ เป็นภาษาไทย ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้มาจากวรรณกรรมจีนโบราณยุคก่อนราชวงศ์ฉินและราชวงศ์ฮั่น ผลการวิจัยพบว่าคำเชื่อมในภาษาจีนโบราณแสดงความสัมพันธ์ทางอรรถศาสตร์ได้หลายประเภทจึงสามารถแปลเป็นภาษาไทยได้หลากหลาย อย่างไรก็ตาม คำเชื่อมบางคำไม่มีคำที่มีความหมายเทียบเท่ากันเนื่องจากความแตกต่างด้านลักษณะทางวากยสัมพันธ์และอรรถศาสตร์ของภาษาจีนโบราณกับภาษาไทย ในกระบวนการถ่ายทอดความหมายของคำเชื่อมจากภาษาต้นฉบับนั้น ผู้แปลจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับวากยสัมพันธ์และอรรถศาสตร์ของภาษาจีนโบราณเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังต้องมีความรู้เกี่ยวกับคำเชื่อมในภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาเป้าหมาย จึงจะสามารถถ่ายทอดความหมายของคำเชื่อมจากภาษาจีนโบราณมาเป็นภาษาไทยได้ถูกต้อง
- Publicationการแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยเป็นภาษาจีนกันย์สินี จตุพรพิมล (2014)การแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวเป็นงานสําคัญของการท่องเที่ยว เนื่องจากชื่อเหล่านี้จะใช้แนะนําแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังใช้ในหนังสือนําเที่ยวต่าง ๆ เพื่อแนะนําสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ดังนั้น ชื่อสถานที่ควรจะมีการแปลที่เป็นเอกภาพ เนื่องจากชื่อที่แปลต่างกันอาจทําให้เกิดความเข้าใจผิดและจดจํายาก วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ คือ เพื่อศึกษาการแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยเป็นภาษาจีนและเพื่อเสนอหลักการแปลชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยเป็นภาษาจีน นอกจากนี้ ผลของการศึกษายังสามารถนําไปใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การสอน การแปล เป็นต้น ผู้วิจัยรวบรวมรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยและภาษาจีนจาก ๕ แหล่ง ได้แก่ พจนานุกรม หนังสือท่องเที่ยว แผ่นพับ อินเทอร์เนต และการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยรวบรวมรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาไทยได้จํานวน ๙๘๐ ชื่อ และรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวภาษาจีนจํานวน ๑.๐๗๒ ชื่อ โดยชื่อบางชื่อมีการแปลหลายแบบ ผลการศึกษาพบว่าชื่อที่ใช้วิธีการแปลมีจํานวน ๔๕๙ ชื่อ และชื่อที่ใช้วิธีการถ่ายถอดเสียงมีจํานวน ๖๑๓ ชื่อ ซึ่งบทความนี้จะนําเสนอเฉพาะส่วนของชื่อที่ใช้วิธีการแปลเท่านั้น โดยชื่อที่ใช้วิธีการแปลสามารถจําแนกได้เป็น ๕ วิธี ได้แก่ ๑) การแปลทั้งหมด (๒๗๕ ชื่อ) ๒) การละคํา (๗๒ ชื่อ) ๓) การขยายความ (๔ ชื่อ) ๔) การเติมคํา (๒๒ ชื่อ) และ ๕) การตั้งชื่อใหม่ (๘๖ชื่อ)
- Publicationการวิเคราะห์กลวิธีการแปลบทความทางการศึกษาจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย:กรณีศึกษาการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนพรรณทิพา จันทร์เพ็ง; คณิศร ธีระวิทย์; Chanpeng, Pantipa; Teeravith, Kanisorn (2021)การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์การแปลบทความทางการศึกษาจากหนังสือInternational Chinese Teaching Cases and Analyses 2) เพื่อศึกษากลวิธีการแปลบทความทางการศึกษาจากฉบับภาษาจีนเป็นภาษาไทย ดังนั้นผู้วิจัยได้ลงมือปฏิบัติการแปลบทความเรื่องการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนของแต่ละประเทศ (Chinese Teaching Cases) จำนวน 6 บท 28 กรณีตัวอย่าง จากหนังสือ “International Chinese Teaching Cases and Analyses” (国际汉语教学案例与分析) และได้แบ่งการวิเคราะห์การแปลเป็น 2 ระดับคือ 1) ระดับคำศัพท์เทคนิคหรือคำศัพท์เฉพาะทางด้านการศึกษา 2) ระดับวลี กลุ่มคำ สำนวน ซึ่งผลการศึกษาพบว่า กลวิธีที่ใช้ในการแปลงานทางด้านการศึกษาพบทั้งหมด 12 วิธี กลวิธีที่ผู้แปลใช้มากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ การขยายหรือเพิ่มคำ วลี ข้อความ (ร้อยละ 15.28) การเรียงลำดับประโยคใหม่ (ร้อยละ 14.96) และการเติมคำอธิบาย (ร้อยละ 9.55) นอกจากนี้ยังพบปัญหาในการแปลคำศัพท์เฉพาะ สำนวนทางด้านวิชาการ การตีความหรือการจับใจความ และการเลือกใช้ภาษาฉบับแปล จึงเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ 1) ศึกษาคำศัพท์และข้อมูลเฉพาะด้าน 2) ทำความเข้าใจในภาษาต้นฉบับและฉบับแปล 3) เลือกรูปแบบการแปล 4) เรียนรู้และวิเคราะห์โครงสร้างทางภาษา 5) เรียนรู้เทคนิคและกลวิธีในการแปล
- Publicationการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและสาเหตุข้อผิดพลาดในการแปลภาษาจีน บนป้ายสาธารณะในจังหวัดเชียงรายสหัทยา สิทธิวิเศษ; Sittivised, Sahattaya (2021)งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในการแปลภาษาจีนบนป้ายสาธารณะในจังหวัดเชียงรายและวิเคราะห์สาเหตุข้อผิดพลาดในการแปลภาษาจีนบนป้ายสาธารณะในจังหวัดเชียงราย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ป้ายข้อความภาษาจีนที่ใช้ในการแจ้งเตือน สื่อสาร หรือบอกข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวตามสถานที่สาธารณะในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ที่ปรากฏข้อผิดพลาดในการสื่อสารภาษาจีน จำนวน 172 ป้าย ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสุ่มโดยบังเอิญ (Accidentally Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่เป็นค่าร้อยละและพรรณนาวิเคราะห์พร้อมยกตัวอย่างประกอบ จากการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในการแปลภาษาจีนบนป้ายสาธารณะในจังหวัดเชียงราย พบว่าข้อผิดพลาดจากการแปลผิดความหมายมีมากที่สุด จำนวน 71 ป้าย คิดเป็นร้อยละ 41.27 รองลงมาคือข้อผิดพลาดจากการเลือกใช้คำไม่เหมาะสม ข้อผิดพลาดจากการแปลผิดโครงสร้างและหลักไวยากรณ์ ข้อผิดพลาดจากการแปลไม่ครบประโยค คิดเป็นร้อยละ 21.51, 19.18, 9.88 ตามลำดับ ในส่วนข้อผิดพลาดที่พบน้อยที่สุดคือข้อผิดพลาดจากการแปลเกินข้อความต้นฉบับ คิดเป็นร้อยละ 8.13 สำหรับสาเหตุที่พบมากที่สุดของการข้อผิดพลาดในการแปลภาษาจีนบนป้ายสาธารณะในจังหวัดเชียงราย คือ การแปลโดยขาดความเข้าใจเรื่องหลักการใช้คำ คิดเป็นร้อยละ 43.60 รองลงมาคือสาเหตุจากการแปลตรงตัว การแปลโดยเทียบความหมายมาจากภาษาอังกฤษ การแปลโดยใช้ Google Translation และ การแปลโดยไม่เข้าใจวัฒนธรรมของภาษาต้นฉบับ คิดเป็นร้อยละ 33.72, 7.55, 6.39 และ 5.81 ตามลำดับ สำหรับสาเหตุของข้อผิดพลาดที่พบน้อยที่สุดคือการแปลเทียบเสียง คิดเป็นร้อยละ 2.90
- Publicationการวิเคราะห์ปัญหาและการประเมินคุณภาพการแปลภาษาไทยเป็นภาษาจีน ด้วยเครื่องมือแปลภาษา Baidu Translate และ Google Translateกัลยา ขาวบ้านแพ้ว; Khaowbanpaew, Kanlaya (2022)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.วิเคราะห์ปัญหาการแปลไทย-จีนด้วยเครื่องมือแปลภาษา Baidu Translate และ Google Translate 2.ประเมินคุณภาพการแปลไทย-จีนของเครื่องมือทั้ง 2 ชนิด โดยประโยคตัวอย่างนำมาจากนิตยสารไทยแอร์เอเชีย ดำเนินการวิเคราะห์ปัญหาการแปลคำ** วลี และประโยค ส่วนการประเมินคุณภาพการแปลใช้หลักการแปลของเหยียนฟู่ (严复) ในด้านสำนวนการแปลอ่านคล่อง เข้าใจง่าย กับเกณฑ์การประเมินบทแปลของ Institute of Linguist’s (IOL) Diploma in Translation ในด้านการใช้คำศัพท์ สำนวนอย่างเหมาะสม บทแปลเชื่อมโยงและจัดระบบอย่างดี และความแม่นยำในการใช้เครื่องหมายวรรคตอน เครื่องมือในการวิจัยคือแบบประเมินคุณภาพการแปล โดยมีอาจารย์ชาวจีน 20 คนเป็นผู้ประเมิน ผลวิจัยสรุปได้ว่า ปัญหาการแปลคำส่วนใหญ่เกิดจากการไม่สามารถเลือกใช้คำที่มีหลายความหมายมาแปลให้ตรงบริบทได้ ในการแปลวลีมีปัญหาการเรียงลำดับคำ การแปลประโยคความรวมมีปัญหาการใช้คำเชื่อม และเครื่องหมายวรรคตอน การเรียงลำดับ เป็นต้น ส่วนประโยคความซ้อนมักมีปัญหาการเรียงลำดับส่วนขยาย และการเลือกใช้คำกริยา ในด้านคุณภาพการแปล Baidu Translate มีคุณภาพระดับควรปรับปรุง Google Translate มีคุณภาพระดับดี ข้อเสนอแนะกรณีที่ต้องการแปลคำวิสามานยนามด้วยการทับศัพท์ภาษาอังกฤษควรเลือกใช้ Google Translate ควรตรวจสอบคำยืมจากภาษาอังกฤษที่มีความหมายใกล้เคียงกัน ควรระวังการแปลส่วนขยายกริยา การแปลประโยคความรวมควรปรับคำเชื่อมภาษาจีนให้หลากหลาย การแปลประโยคความซ้อน ควรตรวจการเรียงลำดับ การแปลตกหล่นส่วนขยาย และเลี่ยงการใช้เครื่องมือแปลประโยคความซ้อนที่มีส่วนขยายในภาคแสดง
- Publicationการศึกษากลวิธีการแปลชื่อร้านค้าภาษาจีนเป็นภาษาไทย ในเขตสาทร กรุงเทพมหานครชานนท์ เชาว์จิรพันธุ์; นพธร ปัจจัยคุณธรรม; Chaojirapant, Chanon; Patjaikhunnatham, Nophatorn (2019)การศึกษากลวิธีการแปลชื่อร้านค้าภาษาจีนเป็นภาษาไทย ในเขตสาทร กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่อร้านค้าภาษาจีนเป็นภาษาไทย ในเขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยเก็บข้อมูลชื่อป้ายร้านค้าในเขตสาทร ที่เขียนเป็นภาษาจีนและภาษาไทย จำนวน 115 ชื่อร้านค้า พบวิธีการแปลป้ายชื่อ ได้แก่ 1) กลวิธีการตั้งชื่อใหม่ เป็นกลวิธีที่นิยมประยุกต์ใช้มากที่สุด กลวิธีนี้เน้นการตั้งชื่อใหม่โดยเนื้อหาและความหมายอาจเกี่ยวข้องหรือต่างกันเพื่อการหลีกเลี่ยงออกเสียงของภาษาผิด 2) กลวิธีการทับศัพท์ เป็นกลวิธีที่พบรองลงมาจากกลวิธีการตั้งชื่อใหม่ เป็นการถอดเสียงแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ในภาษาแปลคือภาษาไทย ไม่ได้เน้นย้ำในเรื่องการตีความหมายเพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจถึงความหมายอย่างถ่องแท้ แต่เน้นการถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของชื่อร้านค้าจีนได้อย่างเต็มรูปแบบ 3) กลวิธีการแปลความเป็นการแปลแบบตรงตัว หรือการแปลแบบคำต่อคำ โดยกลวิธีนี้ต้องอาศัยทักษะ ทางภาษาทั้งภาษาจีนและภาษาไทย เพื่อหาความเชื่อมโยงทางด้านการแปล กลวิธีนี้มุ่งเน้นการเก็บรักษาความหมายการเคารพในต้นฉบับของชื่อร้านค้า ข้อค้นพบจากการศึกษากลวิธีการแปลชื่อร้านค้าภาษาจีนเป็นภาษาไทยของชาวไทยเชื้อสายจีน ในเขตสาทร กรุงเทพมหานคร ศึกษาจากชื่อธุรกิจร้านค้าภาษาจีนแปลเป็นภาษาไทยและจัดแยกประเภทรูปแบบการแปลชื่อ วิธีการแปลและวิเคราะห์ภาษาแปลปลายทางสะท้อนค่านิยมของภาษาถิ่นและสำเนียงถิ่น โดยกลวิธีการแปลความนั้นนอกจากจะยังมีความเชื่อมโยงทั้งทางด้านการแปลแล้ว ยังแสดงให้เห็นความตั้งใจอย่างแท้จริงของผู้ตั้งชื่อ โดยยังเน้นความถูกต้องทางการแปล เคารพในภาษาต้นฉบับ
- Publicationการศึกษากลวิธีการแปลชื่ออาหารไทยเป็นภาษาจีน :กรณีศึกษาร้านอาหารไทยในนครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีนเนตรน้ำทิพย์ บุดดาวงศ์; ศรัณธร สุระหาร; Buddawong, Nednamthip; Surahan, Saranthon (2021)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาวิเคราะห์กลวิธีการแปลชื่ออาหารไทยเป็นภาษาจีน2) ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกลวิธีการแปลชื่ออาหารไทยเป็นภาษาจีน โดยเก็บข้อมูลรายชื่ออาหารจํานวน 493รายชื่อ จากร้านอาหารไทยในนครเฉิงตูที่ได้รับเครื่องหมายไทยซีเล็คท์จํานวน 11 ร้าน ผลการศึกษาพบว่า กลวิธีการแปลมีทั้งหมด 9 วิธี ดังนี้ 1)ทับศัพท์ 2)ตรงตัว 3)ตัดความ 4)เติมคําหรือเสริมด้วยข้อความ 5)ใช้คํากว้าง ๆ ทั่วไป 6)ใช้คําเจาะจง7)ใช้คําเทียบเท่า 8)แทนที่ด้วยวัฒนธรรมภาษาแปล 9)ตั้งชื่อใหม่ โดยกลวิธีที่พบมากที่สุดคือการแปลแบบเติมคําหรือเสริมด้วยข้อความ ส่วนกลวิธีการแปลที่พบน้อยที่สุดคือ การแปลแบบแทนที่ด้วยวัฒนธรรมภาษาแปล ทั้งนี้ งานวิจัยนี้ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกลวิธีการแปลชื่ออาหารไทยเป็นภาษาจีน คือ 1)กลวิธีการแปลชื่ออาหารประเภทแกงและต้มโดยใช้คําว่า“ทัง”2) กลวิธีการแปลชื่ออาหารประเภทผัดโดยใช้คําว่า “เฉ่า”3)กลวิธีการแปลชื่ออาหารประเภทยํา โดยใช้คําว่า “เหลียงปั้น”4) กลวิธีการแปลชื่ออาหารประเภททอด เผา ย่าง หรือนึ่งโดยใช้คําว่า“จ๋า” หรือ“เจียน” การเผาหรือย่างใช้คํากว้าง ๆ ว่า “ข่าว” และการแปลชื่ออาหารประเภทนึ่งใช้คํารวมว่า “เจิง”
- Publicationการศึกษากลวิธีการแปลและข้อผิดพลาดในการแปลคำและวลีทางวัฒนธรรมจากภาษาไทยเป็นภาษาจีนที่ปรากฏในบทบรรยายใต้ภาพในภาพยนตร์เรื่อง “ร่างทรง”วีระชาติ ดวงมาลา; กนกพร นุ่มทอง; Duangmala, Veerachat; Numtong, Kanokporn (2022)งานวิจัยฉบับนี้มุ่งศึกษากลวิธีการแปลและข้อผิดพลาดในการแปลคำและวลีทางวัฒนธรรมจากภาษาไทยเป็นภาษาจีนที่ปรากฎในบทบรรยายใต้ภาพในภาพยนตร์เรื่อง “ร่างทรง” ผู้วิจัยใช้การศึกษาโดยรวบรวมคำและวลีทางวัฒนธรรมที่พบในบทบรรยายใต้ภาพทั้งเรื่อง จากนั้นแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ประเด็น คือ ประเภทของคำทางวัฒนธรรมที่ปรากฏ กลวิธีการแปลและข้อผิดพลาดในการแปล ผลการศึกษาพบว่า 1. คำทางวัฒนธรรมในบทบรรยายใต้ภาพในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1) คำทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม 2) คำทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับวัตถุ 3) คำทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสังคม 4) คำทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา 5) คำทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษา 2. กลวิธีการแปลที่ใช้แยกออกเป็น 7 กลวิธี คือ 1) กลวิธีการแปลโดยใช้คำยืม 2) กลวิธีการแปลโดยใช้คำที่มีความหมายกว้างกว่าต้นฉบับ 3) กลวิธีการแปลโดยใช้คำบัญญัติ 4) กลวิธีการแปลโดยการแทนที่ด้วยสิ่งที่มีในวัฒนธรรมปลายทาง 5) กลวิธีการแปลโดยการอธิบายความ 6) กลวิธีการแปลโดยการละ 7) กลวิธีการแปลตรงตัว 3. ข้อผิดพลาดในการแปลที่พบแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) การแปลผิด 2) การแปลเกิน 3) การเลือกใช้คำไม่เหมาะสม จากผลการศึกษาดังกล่าวสรุปได้ว่าเมื่อผู้แปลต้องแปลคำและวลีทางวัฒนธรรม ผู้แปลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูล และเตรียมความรู้และความเข้าใจวัฒนธรรมของภาษาต้นทางและภาษาปลายทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อความหมายที่ผิดพลาด
- Publicationการศึกษาการแปลคำศัพท์โลจิสติกส์จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยและภาษาจีนณัฐศรัณย์ บำรุงศรี; จตุวิทย์ แก้วสุวรรณ์ (2021)บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาการแปลคำศัพท์โลจิสติกส์แบบคำต่อคำระหว่างภาษาอังกฤษเป็นไทยและภาษาจีน เฉพาะกรณีที่มีการแปลไม่ตรงตามความหมายทั่วไปของภาษาอังกฤษ ในพจนานุกรม คำอธิบายศัพท์อังกฤษ-ไทยพื้นฐานด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่ควรรรู้ของ พรวศิน ศิริสวัสดิ์ และ แสงจันทร์ กันตะบุตร โดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบความหมายคำต่อคำ ตามทฤษฎีการแปลของสุพรรณี ปิ่นมณี และรัชนีโรจน์ กุลธำรง ผลการวิจัยพบว่าภาษาไทยและภาษาจีนไม่ได้แปลตามความหมายทั่วไปของภาษาอังกฤษ แต่แปลภายใต้กรอบความคิดทางโลจิสติกส์ ซึ่งหากเป็นผู้ที่ไม่ได้มีความรู้เฉพาะด้านจะไม่สามารถแปลศัพท์เหล่านี้ได้ จึงใช้วิธีการแปลโดย 1) การใช้ความหมายรองและความหมายเชิงเปรียบแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย 2) การเทียบเคียงความหมายต่อความหมายแปลจากภาษาจีนเป็นภาษาไทย 3) ความหมายที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นคำศัพท์แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และ 4) คำศัพท์บอกหมวดและคำบรรยายลักษณะแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน ทำให้เห็นถึงการแปลคำศัพท์บางประเภทในแต่ละภาษานั้น ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ จะต้องอาศัยการทำความเข้าใจความหมายโดยนัยของคำศัพท์นั้นก่อน โดยการแปลแบบนี้สามารถใช้วิธีการแปลเหล่านี้แปลคำศัพท์ใหม่อื่นๆ ได้ โดยเฉพาะศัพท์ในศาสตร์ใหม่ที่ไม่เคยมีอยู่ในบริบทของสังคมภาษาปลายทาง
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »