ภาษาศาสตร์ภาษาบาลีและสันสกฤต
Permanent URI for this collection
บทความวิจัย บทความวิชาการ รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ และหนังสือเกี่ยวกับไวยากรณ์บาลี ไวยากรณ์สันสกฤต หรือ ไวยากรณ์บาลีและสันสกฤตเชิงเปรียบเทียบ ด้านเสียง การสร้างคำนาม คำกริยา วากยสัมพันธ์ ภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทย
Browse
Browsing ภาษาศาสตร์ภาษาบาลีและสันสกฤต by browse.metadata.researchtheme1 "ภาษาศาสตร์เชิงประวัติ/นิรุกติศาสตร์ (Historical Linguistics/Philology)"
Now showing 1 - 20 of 43
Results Per Page
Sort Options
- PublicationAn Analytical Study of Sanskrit Grammar in the Prah Khan Inscription (Verse CLXVI-CLXXIX)GE, Qingkan (2018)The purpose of this thesis is to analysis a part of Prah Khan Inscription (verse 166 to 179) with Sanskrit grammar. Learning grammar is designed to enable the reader to pinpoint ambiguities and other infelicities; enabling the reviewer to identify what needs to be fixed to make a text clearer and easier to read; and enabling the writer to understand what sort of modifications will eliminate ambiguities, communicate the meaning more succinctly, or achieve other desirable effects. It may very well be ripe for systematically analyzing the phonological and morphological components of the Prah Khan to determine its structure and grammar. The body of the paper consists of a description of the linguistic system attested in Prah Khan Inscription texts, with particular emphasis on grammatical analysis. The corpus is divided into four general sections according to contents. The first chapter is an introduction about the geographical, historical and culturral background of Prah khan temple and Prah khan Inscription. The second chapter is grammatical syntax analysis and translation. The first one, to make the text more clear I use numbers for the grammatical case, concerns the linear structure of Sanskrit inscription text: discourse consisting of successive utterances, sentences made up of streams of word forms, words themselves represented as strings of phonemes on which morpho-phonetic transformations operate, etc. like Nominal, apart from the indeclinable, are inflected by case and number, and have their own gender. The verb inflects by number and person. In addition it can have tense, mood and so on. After that there is the translation of each verses. The third chapter is the study of grammatical derivation of each word, especially concerning the representations of compounds, is examined. I present an analysis of Sanskrit into a system of stems, prefixes, augments, roots, and suffixes, based within an Apte syntactic theory, which captures, at least to an extent, the fact that compound formation is closer to an Apte process than other aspects of syntax. It therefore permits some acknowledgment of the gradient nature of the word–phrase divide, I show the feasibility of the synthesis of such descriptions by Apte syntactic theory tool. The last chapter is conclusion, after studying the grammatical and semantic analysis of the Prah khan text. I found that comparing the standard western terms and the benefit of traditional Indian grammar. It seems to be more natural to study the grammar of the language with the help of tools worked out in this language. It shows how people who use that language, think of it and its structures, and takes us closer to understand the culture in which the language is used.
- Publicationการกลายเสียงคำบาลี-สันสกฤตเอื้อน เล่งเจริญ (1977)
- Publicationการกลายเสียงสระของคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทยสาโรจน์ บัวพันธุ์งาม; Buaphanngam, Saroj (2017)คําายืมในภาษาไทยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นคําาที่ยืมมาจากภาษาบาลีและสันสกฤตทั้งนี้เพราะภาษาบาลีและสันสกฤตกับภาษาไทยเกิดการสัมผัสกันนานนับพันปีบทความนี้มุ่งศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางเสียงของคําายืมภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทยเฉพาะการกลายเสียงสระเท่านั้น โดยอาศัยแนวคิดด้านการศึกษาภาษาศาสตร์เชิงประวัติและเปรียบเทียบ การเปลี่ยนแปลงทางเสียงของคําายืมภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทยเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการกลายเสียงสระในคําายืมภาษาบาลีและสันสกฤตนั้นก็เพื่อปรับลดจําานวนพยางค์ในคําาให้สอดคล้องกับโครงสร้างพยางค์ของคําาไทย กระบวนการกลายเสียงสระในคําายืมภาษาบาลีและสันสกฤต ได้แก่ การยืดสระเสียงสั้นให้เป็นสระเสียงยาว การทอนสระเสียงยาวให้เป็นสระเสียงสั้น การเลื่อนเสียงสระ การกลายเสียงสระจากสระเดี่ยวเป็นสระประสม การกลายเสียงสระจากสระประสมเป็นสระเดี่ยวการกลายเสียงสระเป็นพยัญชนะ และการสูญเสียงสระท้ายคํา
- Publicationการเปลี่ยนความหมายของคำยืมภาษาบาลีที่ปรากฏในภาษาไทยพระมหาพิษณุ สญฺญเมโธ และคณะ; Sannametho, Phramaha Pitsanu; Phra Srisitthimuni; Kanokkamales, Veerakarn (2021)การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการเปลี่ยนแปลงคำยืมภาษาบาลีที่ปรากฏในภาษาไทย2) วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางความหมายของคำยืมภาษาบาลีที่ปรากฏในภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างคำยืมภาษาบาลีที่ไทยนำมาใช้ โดยสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย จำนวน 50 คำ ซึ่งเป็นคำที่ปรากฏในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยและในชีวิตประจำวันผลการวิจัยพบว่า การศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนความหมายของคำยืมภาษาบาลีที่ปรากฏในภาษาไทยพบว่า คำศัพท์ภาษาบาลีที่พบนั้น ล้วนเป็นคำที่คนไทยรับมาใช้เป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว ซึ่งบางครั้งอาจจะเข้าใจว่าเป็นภาษาไทยของเราเองแต่หากผู้ศึกษาได้ศึกษาหลักเกณฑ์และได้รู้จักวิเคราะห์คำศัพท์จะทำให้ผู้ศึกษามีความเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นและสามารถรู้ว่าคำใดเป็นภาษาไทยแท้ หรือคำใดเป็นคำยืมหรือแม้กระทั่งนำคำบาลีมาดัดแปลงใช้ให้เข้ากับภาษาไทย ในด้านความหมายคำศัพท์ที่ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาพบว่า มีทั้งความหมายคงเดิม ความหมายแคบเข้า ความหมายกว้างออก และความหมายย้ายที่ซึ่งเป็นธรรมชาติของคำยืมที่มักจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับระบบของภาษาที่ยืมมา เพื่อให้สามารถออกเสียงได้สะดวกและเพื่อประโยชน์ของการใช้ภาษาที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาด้านภาษาของผู้ที่นำคำศัพท์ต่างๆ มาสื่อสารกับภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
- Publicationการเปลี่ยนแปลงของภาษาของคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตในปัญญาสชาดกฉบับล้านนาสาโรจน์ บัวพันธุ์งาม; Buaphanngam, Saroj (2021)บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านเสียงและการเปลี่ยนแปลงด้านศัพท์ของคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตที่ใช้ในปัญญาสชาดกฉบับล้านนา โดยศึกษาจากข้อมูลคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตจำนวน 1,725 คำ ในรายงานการวิจัยเรื่อง “การศึกษาเชิงวิเคราะห์ปัญญาสชาดกฉบับล้านนาไทย” การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงและการเปลี่ยนแปลงด้านศัพท์ของคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตที่ใช้ในปัญญาสชาดกฉบับล้านนานั้นศึกษาจากรูปเขียนและเสียงที่สะท้อนผ่านรูปเขียน การอธิบายการเปลี่ยนแปลงด้านเสียงและด้านศัพท์ได้ใช้กรอบแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงภาษาตามแนวทางการศึกษาภาษาศาสตร์เชิงประวัติ ผลการวิจัยพบว่า คำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตที่ใช้ในปัญญาสชาดกฉบับล้านนามีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเสียงและด้านศัพท์ การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเสียงสระและเสียงพยัญชนะของคำภาษาบาลีและสันสกฤตเดิมเมื่อเป็นคำยืมในปัญญาสชาดกฉบับล้านนา การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงสระและเสียงพยัญชนะนั้นเกิดจากกระบวนการกลายเสียง ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางสัทศาสตร์ การสูญเสียง และการเพิ่มเสียง การเปลี่ยนแปลงด้านศัพท์นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพยางค์ ความหมายและไวยากรณ์ หรือชนิดของคำของภาษาบาลีและสันสกฤตเดิมเมื่อเป็นคำยืมในปัญญาสชาดกฉบับล้านนา การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพยางค์ของคำภาษาบาลีและสันสกฤตเดิมเมื่อเป็นคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤต ในปัญญาสชาดกฉบับล้านนามี 2 ลักษณะ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพยางค์ที่ไม่มีผลต่อจำนวนพยางค์เดิม และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพยางค์ที่มีผลต่อจำนวนพยางค์เดิม การเปลี่ยนแปลงความหมายมี 3 ประเภท ได้แก่ ความหมายแคบเข้า ความหมายกว้างออก และความหมายย้ายที่ ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางไวยากรณ์นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดของคำภาษาบาลีและสันสกฤตเดิมเมื่อเป็นคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตในปัญญาสชาดกฉบับล้านนา
- Publicationการเปลี่ยนแปลงความหมายของคำบาลีสันสกฤตในภาษาไทยวิไลศักดิ์ กิ่งคำ; อดุลย์ คนแรง; Kingkam, Vilaisak; Konraeng, Adul (2014)วัตถุประสงค์ของกํารศึกษําครั้งนี้ คือ เปรียบเทียบควํามหมํายของคำบําลีสันสฤตในปทํานุกรมบําลี ไทย อังกฤษ สันสกฤต ฉบับพระเจ้ําบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนําถ พ.ศ. ๒๕๕๓ กับพจนํานุกรมฉบับรําชบัณฑิตยสถําน พ.ศ. ๒๕๔๒ ข้อมูลที่ใช้ในกํารวิจัย ได้แก่ บทตั้งของคำบําลีสันสกฤตที่มีรูปคำตรงกัน แต่บทนิยํามควํามหมํายต่ํางกันในหนังสือสองเล่มดังกล่ําว โดยใช้เกณฑ์กํารเปลี่ยนแปลงควํามหมํายแคบเข้ํา ควํามหมํายกว้ํางออก และควํามหมํายย้ํายที่ของพระยําอนุมํานรําชธน ผลกํารศึกษําปรํากฏว่ํา กํารเปลี่ยนแปลงควํามหมํายของคำบําลีสันสกฤตในภําษําไทย มีกํารเปลี่ยนควํามหมํายทั้งแคบเข้ํา กว้ํางออก และย้ํายที่ และมีควํามหมํายเปลี่ยนจํากรูปธรรมเป็นนํามธรรม หรือจํากนํามธรรมเป็นรูปธรรมอีกด้วย
- Publicationการเปลี่ยนแปลงชนิดคำจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตสู่คำยืมภาษาไทยธวัชชัย ดุลยสุจริต; Thawatchai Dunyasucharit (2018)ในภาษาไทยมีการยืมคําาจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตมาใช้เป็นจํานวนมาก โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเสียง และความหมาย นอกจากนี้แล้วยังเปลี่ยนแปลงชนิดของคําา ด้วย บทความนี้มุ่งศึกษาชนิดของคําาและการสร้างคําาในภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต และชนิดของคําายืมจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตที่นําามาใช้ในภาษาไทย ผลการศึกษาพบว่า คําในภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตแบ่งได้เป็นสามกลุ่มหลัก ๆ คือกลุ่มคํานาม กลุ่มคํากริยา และกลุ่มคําไม่แจกรูป แต่คําที่ยืมมาใช้ในภาษาไทย มีเฉพาะกลุ่มคํานามจากภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต โดยเมื่อนํามาใช้จะเปลี่ยนแปลงชนิดคําจากนามเป็นคํากริยา คําวิเศษณ์ คําอุทาน คําสรรพนาม และคงลักษณะของคําานามไว้
- Publicationการแผลงเสียงสระภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทยอรรถพงษ์ ผิวเหลือง; Phiwhlueng, Atthaphong (2020)บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการแผลงเสียงสระภาษาบาลีและการแผลงเสียงสระภาษาสันสกฤตที่นำมาใช้ในภาษาไทย ซึ่งผู้เขียนได้ดำเนินการศึกษารวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องและสุ่มเลือกภาษาบาลีและสันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทยจำนวน 200 คำศัพท์และวิเคราะห์การแผลงเสียงสระภาษาบาลีและสันสกฤตผลการศึกษาการแผลงเสียงสระในภาษาบาลีมี 5 หน่วยเสียง ได้แก่ หน่วยเสียงสระ อะ, อา, อิ, อุ, โอ และการแผลงเสียงสระในภาษาสันสกฤตมี 11 หน่วยเสียง ได้แก่ หน่วยเสียงสระ อะ, อิ, อี, อึ, อู, โอ, เอ, ไอ, เอย, ร หัน, ฤ และการแผลงเสียงสระในภาษาบาลีและสันสกฤตมี 16 หน่วยเสียง มีความเหมือนและแตกต่างกันดังนี้ 1) หน่วยเสียงสระในภาษาบาลีและสันสกฤตมีการแผลงเสียงสระเหมือนกัน เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทยคือหน่วยเสียงสระอะ, อิ, โอ 2) การแผลงหน่วยเสียงสระอาและอุมีเฉพาะในภาษาบาลี เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทย 3) การแผลงหน่วยเสียงสระอี, อึ, อู, เอ, ไอ, ร หัน, และ ฤ มีเฉพาะในภาษาสันสกฤต เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทย
- Publicationการวิเคราะห์ภาษาบาลีในภาษาไทยวิโรจน์ คุ้มครอง; พระมหาวีรธิษณ์ วรินฺโท (2018)บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่า การใช้ภาษาบาลีในภาษาไทยมีทั้งทางวิชาการและในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการสื่อสารโดยการพูดและการเขียนซึ่งมีคำภาษาบาลีปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยได้รับอิทธิพลทางภาษามาจากภาษาบาลีที่เข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทย สาเหตุจากการยอมรับนับถือศาสนาพุทธของคนไทยเป็นสำคัญ อีกทั้งคนไทยยังนิยมใช้ภาษาบาลีในการตั้งชื่อซึ่งเป็นสิ่งสมมติขึ้น แต่ถ้าตั้งชื่อให้เหมาะสมกับจริตและอุปนิสัยของบุคคลนั้น ชื่อก็จะกลายเป็นสิ่งสำคัญและเป็นอัตลักษณ์ของผู้นั้น และสามารถนำประโยชน์สุขมาให้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่วนการวิเคราะห์คำบาลีที่ใช้ในภาษาไทยปัจจุบัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ภาษาไทยในการ พูด สนทนา และการสื่อสารให้เป็นภาษาไทยในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง และมั่นใจได้ เช่น คำ กาย เป็นต้น ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาบาลีกับภาษาไทยอย่างรู้ลึก รู้รากศัพท์ และรู้ความหมายที่ถูกต้องจึงมีคุณค่าแก่การศึกษาอย่างแท้จริง
- Publicationการวิเคราะห์ศัพท์บาลีสันสกฤตในวรรณกรรมล้านนานิมิตร สิทธิศุภเศรษฐ์; Sitthisupaset, Nimit (2006)
- Publicationการศึกษาเชิงวิเคราะห์ภาษาบาลี-สันสกฤตในวรรณกรรมท้องถิ่น นครศรีธรรมราชประเภทนิทานและคำสอน.ประเสริฐ ศรีราชพัฒน์; Seeragpat, Prasert (1987)
- Publicationการสำรวจงานวิจัยที่เกียวกับคำยืมภาษาบาลีสันสกฤตจิตตาภา สารพัดนึก ไชยปัญญา; Chaipunya, Chittapa Sarapadnuke (2018)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนนำเสนอผลการสำรวจงานวิจัยที่เกี่ยวกับคำยืมภาษาบาลีสันสกฤต ผลการศึกษาพบว่าสามารถแบ่งงานวิจัยได้เป็น 2 กลุ่ม คือ งานวิจัยที่ศึกษาเฉพาะคำยืมภาษาบาลีสันสกฤต และงานวิจัยที่ศึกษาคำยืมซึ่งจะมีการศึกษาคำยืมภาษาบาลีและสันสกฤตอยู่ด้วย จากการศึกษางานวิจัยทั้งสองกลุ่มพบว่า ลักษณะของข้อมูลที่ใช้ในศึกษาแบ่งออกเป็น ข้อมูลจากพจนานุกรม หนังสือแบบเรียนภาษาไทย ตำรา วรรณกรรม วรรณคดี และจารึกสมัยต่าง ๆ ขอบเขต ของเนื้อหาพบการศึกษาเกี่ยวกับที่มาของคำ การจัดหมวดหมู่คำตามที่มาของคำการเปลี่ยนแปลงรูปคำ การเปลี่ยนแปลงเสียง การเปลี่ยนแปลงความหมาย การสร้างกรอบความคิดในการศึกษานำมาจากคำอธิบายของนักวิชาการที่เกี่ยวกับภาษาและไวยากรณ์ไทย ภาษาและไวยากรณ์บาลีและสันสกฤต ภาษาศาสตร์ เช่น ระบบเสียงภาษาไทย ระบบเสียงภาษาบาลีและสันสกฤต การเปลี่ยนแปลงเสียง การเปลี่ยนแปลงความหมาย การเปลี่ยนแปลงของคำยืม แหล่งอ้างอิงที่สำคัญที่สุดของงานวิจัยภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทย คือ พจนานุกรมไทย พจนานุกรมบาลีและพจนานุกรมสันสกฤต
- Publicationความหมายย้ายที่ของคำบาลีสันสกฤตที่ใช้ในสังคมไทยอดุลย์ คนแรง; วิไลศักดิ์ กิ่งคำ; Konreang, Adul; Kingkham, Wilaisak (2015)This paper aims to comparative study of Semantic Shift of Pali and Sanskrit words in Pali, Thai, English and Sanskrit Dictionary of His Royal Highness Krommaphra Chandaburinarunath with the Meaning of Pali and Sanskrit words in the Royal Institute Dictionary B.E. 2542. By the Pali and Sanskrit are the same form but different meaning by the way of comparison . The result is that Semantic Shift of Pali and Sanskrit words was related or unrelated with the roots of Pali and Sanskrit possibly.
- Publicationคำไทยที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤตในกฎหมายตราสามดวง : กรณีศึกษาเฉพาะพระทำนูนและพระธรรมสาตรธีร์ พุ่มทับทิม; Phumthapthim, Theer (2019)บทความนี้กล่าวการวิเคราะห์ค าไทยที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต ตามที่ปรากฏในกฎหมายตราสามดวง ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น กฎหมายตราสามดวงนี้มีทั้งหมด ๒๘ ฉบับ แต่ในบทความนี้น ามาวิเคราะห์เพียง ๒ ฉบับ คือ พระท านูนและพระธรรมสาตรเท่านั้น เพราะในแต่ละฉบับมีการน าภาษาบาลีและสันสกฤตมาใช้เขียนไว้เป็นจ านวนมาก การศึกษาเชิงวิเคราะห์ในที่นี้เป็นการวิเคราะห์ถึงวิธีการเขียนตามภาษาบาลีและสันสกฤตเดิม การเขียนแบบไทยในครั้งอดีตและการเขียนแบบที่นิยมใช้ในปัจจุบัน พร้อมทั้งการให้ความหมายส่วนค าที่เป็นเป็นไทยแท้หรือมาจากภาษาต่างประเทศอื่น ๆ จะไม่น ามาวิเคราะห์ ในส่วนสุดท้ายนั้นได้สรุปวิธีการเขียนภาษาไทย เฉพาะที่มีความต่างจากการเขียนภาษาไทยในปัจจุบัน ซึ่งจักเป็นประโยชน์ต่อการอ่านกฎหมายตราสามดวงหรือเอกสารเก่าของไทยสมัยอดีตได้เป็นอย่างดี
- Publicationคำบาลีสันสกฤตที่สร้างขึ้นในวงการรัฐศาสตร์ของไทย: วิธีการแบบใหม่ในการสมาสคำไทยโกวิทย์ พิมพวง; Pimpuang, Kowit (2019)การศึกษานี้เป็นการศึกษาคําภาษาบาลี-สันสกฤตที่สร้างขึ้นในวงการรัฐศาสตร์ของไทย : วิธีการแบบใหม่ในการสมาสคําไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสร้างคําบาลี- สันสกฤตโดยเฉพาะการสมาสคําและวิธีการสมาสใหม่ ๆ ที่นํามาใช้ในคําศัพท์วงการรัฐศาสตร์ของไทย กรอบแนวคิดของ การศึกษานี้ประกอบด้วยทฤษฎีการสร้างคําสมาส ได้แก่ การสร้างคําบาลี-สันสกฤตและการสร้างคําแบบไทย การศึกษานี้ เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ ข้อมูลที่นํามาศึกษา ได้แก่ ข้อมูล คําศัพท์ทางรัฐศาสตร์จากเอกสารและหนังสือของไทย ผลการศึกษาพบว่า ภาษาบาลี-สันสกฤตมีการสร้างคํา 4 ประเภท ได้แก่ กิตก์ ตัทธิต สมาส และลงคําอุปสรรค ภาษาไทยได้ใช้ประเภทการสร้างคําเหล่านี้ในวงการรัฐศาสตร์ของไทยอย่างชัดเจน จากการสังเกตคําที่ได้สร้างขึ้นใช้ในวงการ รัฐศาสตร์ของไทยปัจจุบัน พบการสร้างคํา 2 ชนิด ได้แก่ การวางคําขยายไว้ข้างหน้าคําหลักและการลงคําอุปสรรคไว้ข้างหน้าคํานามหรือคําอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามคําสมาสบางคําที่ได้วางคําขยายไว้ข้างหลังคําหลักก็ได้พบเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นส่วนน้อยในภาษาไทย ส่วนวิธีการ แบบใหม่ในการสมาสคําที่พบ ได้แก่ 1) คําที่สร้างขึ้นระหว่าง คําภาษาบาลี-สันสกฤตและคําไทยตามหลักไวยากรณ์ของ ภาษาบาลี-สันสกฤต แต่ได้ถูกนํามาสร้างคําขึ้นตามแบบวิธี แห่งคําประสมของไทย 2) คําที่สร้างขึ้นระหว่างคําภาษา บาลี-สันสกฤตและคําไทยตามหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี-สันสกฤต แต่ได้ถูกนํามาสร้างคําขึ้นตามแบบวิธีแห่งคําสมาส ของภาษาบาลีสันสกฤต วิธีการสร้างคําใหม่ ๆ ทั้งสองวิธี ดังกล่าวนั้น ได้รับการคาดหมายว่า จะถูกนํามาใช้ในอนาคต อย่างแพร่หลายบนพื้นฐานแห่งการสร้างคําของภาษาบาลี- สันสกฤต
- Publicationคำบาลีสันสกฤตในภาษาไทยในจารึกสมัยสุโขทัยเสมอ บุญมา (1993)
- Publicationคำภาษาบาลีและสันสกฤต : ภาพสะท้อนพัฒนาการภาษาไทยเกรียงศักดิ์ พลอยแสง (2015)บทความนี้เป็น การศึกษาพัฒนาการภาษาไทยในมุมมองอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความเจริญของวัฒนธรรมทางภาษาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปตามภาวะความเจริญของสังคม ดังค ากล่าวที่ว่า “เมื่อสังคมเจริญขึ้นภาษาก็เจริญตาม”การรู้จักหยิบยืมค าภาษาบาลีและสันสกฤตเข้ามาใช้ปะปนกับค าภาษาไทยเพื่อให้ได้ค า ใหม่ ที่เหมาะต่อการสื่อความ นับ เป็นวิธีการอันเกิดจากภูมิปัญญา ของนักปราชญ์ไทยที่รังสรรค์ให้ภาษาไทยมีความเป็นอัจฉริยลักษณะที่สะท้อนความเป็นตัวตนได้อย่าง
- Publicationคำภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาเขมรถิ่นสุรินทร์พระมหาประกอบ สมานทอง; Smanthong, Phramaha Prakob (1998)วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางด้านเสียงและความหมายของคำภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาเขมรถิ่นสุรินทร์ ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลจากพจนานุกรมเขมร-อังกฤษ พจนานุกรมเขมร (สุรินทร์)-ไทย-อังกฤษ หนังสือตำนานการละเล่น สำนวน ภาษิต คำสอนพื้นฐาน ตลอดจนนิทานพื้นเมือง และการสัมภาษณ์บุคคลต่างวัยต่างอาชีพ ผลการศึกษาพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเสียงเด่นชัดกว่าการเปลี่ยนแปลงด้านความหมาย การเปลี่ยนแปลงด้านเสียงทั้งเสียงพยัญชนะและเสียงสระมีความหลากหลาย เสียงพยัญชนะที่ไม่มี ในระบบเสียงภาษาเขมรถิ่นสุรินทร์เปลี่ยนตามเสียงภาษาเขมรถิ่นสุรินทร์และตามเสียงภาษาบาลีและ สันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทยและภาษาเขมรมาตรฐาน ส่วนเสียงสระเปลี่ยนแปลงไปได้หลายรูปแบบ ส่วนใหญ่มีการยึดเสียงเนื่องจากมีการตัดพยางค์หลัง คำภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาเขมรถิ่นสุรินทร์มีการลดจำนวนพยางค์ให้น้อยลง ความหมายของคำมีการทำให้แคบลง เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนไป อนึ่ง ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางความหมายเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเสียงและการได้รับอิทธิพลทางความหมายของคำภาษาบาลีและสันสกฤตในภาษาไทยและภาษาเขมรมาตรฐาน
- Publicationคำภาษาบาลีและสันสกฤตในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสาน ประเภทนิทานและคำสอนพระมหาทองสุข นาชัยดี; Nachaidee, Phramaha Thongsuk (1998)การศึกษาวิจัยเรื่อง คำบาลีและสันสกฤตในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานประเภทนิทานและคำสอน มีจุดประสงค์เพื่อค้นหาความเปลี่ยนแปลงของคำบาลีและสันสกฤตที่ถูกยืมมาใช้ในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสาน โดยเปรียบเทียบคำบาลีสันสกฤตที่ปรากฏในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานกับคำบาลีสันสกฤตมาตรฐาน วรรณกรรมอีสานจำนวน ๑๑ เรื่องได้รับคัดเลือกมาเพื่อศึกษาวิจัย ซึ่งผู้วิจัยเชื่อว่าน่าจะเป็นข้อมูลอันเพียงพอต่อ การศึกษาวิจัยและเป็นตัวแทนของวรรณคดีอีสานในทุกยุคสมัย ผลการศึกษาวิจัยพบว่า คำภาษาบาลีและสันสกฤตมาตรฐานมีการเปลี่ยนแปลงหลายลักษณะทั้งการยึดเสียง ทอนเสียง สับเสียง เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของเสียง เป็นต้น ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้รูปคำ ภาษาบาลีและสันสกฤตที่ปรากฎในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสาน ส่วนใหญ่ไม่คงรูปตามแบบคำภาษาบาลีและสันสกฤตมาตรฐาน แต่จะกลายไปตามเสียงที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งออกเสียงได้สะดวกกว่าแทน บางกรณีการเปลี่ยนแปลงเสียงของคำบางคำอาจบอกความเป็นมาได้ เช่น การรับคำบาลีสันสกฤตมาใช้ในภาษาอีสาน อาจรับผ่านมาทางภาษาไทยถิ่นกลางถิ่นเหนือหรือทางเขมรก็ได้ ส่วนรูปคำบาลี และสันสกฤตที่ปรากฏในวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานได้เปลี่ยนไป เพราะรับอิทธิพลทางเสียงของภาษาท้องถิ่น ส่วนเรื่องความหมาย คำบาลีและสันสกฤตเหล่านี้จะคงความหมายเดิมไว้บางส่วน และมีการเปลี่ยนแปลงอาจ เป็นไปได้ทั้งความหมายกว้างออกหรือแคบเข้าบ้าง มีส่วนน้อยที่ความหมายเปลี่ยนไปทั้งหมด
- Publicationคำยืมในจารึกไทยอีสานพระมหาสุเทพ พรมเลิศ; Promlert, Phramaha Suthep (1999)วิทยานิพนธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาคำยืมในจารึกไทยอีสาน จำนวน 87 หลัก เนื้อหาของวิทยานิพนธ์แบ่งออกเป็น 5 บท คือ บทที่ 1 เป็นบทนำ ชี้แจงความสำคัญของการวิจัย ความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของการวิจัย สมมติฐานของการศึกษา ขอบเขตของการศึกษา ขั้นตอนของการศึกษา วิธีการศึกษา แหล่งข้อมูล อุปกรณ์ที่ใช้ในการค้นคว้า ข้อตกลงเบื้องต้น รวมทั้งอักษรย่อ บทที่ 2 กล่าวถึงความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับจารึกไทยอีสาน โดยเริ่มจากประวัติศาสตร์ของอีสาน ความสัมพันธ์กับอาณาจักรต่าง ๆ และความเป็นมาของจารึกในบริเวณภูมิภาคอีสานอันเป็นที่มาของข้อมูล บทที่ 3 เป็นบทรวบรวมคำยืมที่พบในจารึกไทยอีสาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ว่าด้วยการยืมภาษาบาลี – สันสกฤต มีจำนวน 763 คำ และตอนที่ว่าด้วยคำยืมภาษาเขมร จำนวน 83 คำ บทที่ 4 เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์คำยืม ในด้านลักษณะเสียง ลักษณะโครงสร้างพยางค์ ลักษณะการสะกดการันต์ ลักษณะทางตำแหน่งและหน้าที่ของคำ และลักษณะทางความหมาย บทที่ 5 เป็นบทสรุปและข้อเสนอแนะ การศึกษาคำยืมในจารึกไทยอีสานทำให้ทราบว่า ดินแดนในบริเวณภาคอีสาน มีการใช้คำยืมภาษาบาลี – สันสกฤต ประมาณ 20% ของคำที่ใช้ในจารึกไทยอีสานทั้งหมด และมีจำนวนมากกว่าคำยืมภาษาเขมร ซึ่งมีประมาณ 5% คำยืมเหล่านั้นมีทั้งคำที่ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะใด ๆ เลย และมีทั้งคำที่เปลี่ยนแปลงด้านเสียง โครงสร้างพยางค์ การสะกดการันต์ ตำแหน่งและหน้าที่ของคำ และความหมาย คำยืมบางคำมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าหนึ่งลักษณะ การเปลี่ยนแปลงที่พบมากที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงด้านเสียง รองลงมาคือการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างพยางค์ การสะกดการันต์ ความหมาย และหน้าที่ของคำ ตามลำดับ ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่พบน้อยที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงด้านตำแหน่งของคำ
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »