ภาษาศาสตร์ภาษาฝรั่งเศส
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing ภาษาศาสตร์ภาษาฝรั่งเศส by browse.metadata.researchtheme2 "หน่วยคำวิทยา (Morphology)"
Now showing 1 - 7 of 7
Results Per Page
Sort Options
- Publicationกริยาที่ปรากฏร่วมกับรูปสรรพนามในภาษาฝรั่งเศสสุดารัตน์ พุทธพงษ์; Buddhapong, Sudarat (2015)ภาษาฝรั่งเศสมีกริยาจำพวกหนึ่งเรียกว่า กริยาที่ปรากฏร่วมกับรูปสรรพนาม(les verbes pronominaux) กริยาชนิดนี้มีตำแหน่งอยู่หลังสรรพนามที่ผันตามประธาน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ (1)กริยาที่ต้องปรากฏร่วมกับรูปสรรพนามเท่านั้น (les verbes essentiellement pronominaux) และ (2) กริยาที่ปรากฏร่วมกับรูปสรรพนามที่สร้างจากคำกริยาทั่วไปซึ่งแบ่งออกเป็น2กลุ่มคือ (2.1) กริยาที่ประกอบกับสรรพนามแล้วคงเค้าความหมายเดิม (les verbes à la construction pronominale) แต่เพิ่มลักษณะการกระทำเข้าไป ซึ่งมี 3ลักษณะ ได้แก่ (2.1.1) ลักษณะสะท้อนเข้าหาตัวประธาน (sens réfléchi) (2.1.2) ลักษณะว่าประธานมีการกระทำต่อกัน (sens réciproque) (2.1.3) ลักษณะว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (sens passif) และ (2.2) กริยาที่ประกอบกับสรรพนามแล้วความหมายต่างจากเดิม (les verbes pronominaux autonomes) ส่วนวิธีที่ช่วยในการจำแนกกริยาที่ปรากฏร่วมกับรูปสรรพนามเหล่านี้ออกจากกันคือ สำหรับกลุ่มที่ (1) และ (2.2) ต้องอาศัยการจดจำรูปกริยาและความหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนกลุ่มที่ (2.1)ต้องอาศัยบริบทเป็นสำคัญ
- Publicationการใช้ภาษาอังกฤษในเพลงฝรั่งเศสสามาวดี ตรีกุล; Treekul, Samawadee (2013)Generated by what we call "internationalization" or "globalization", humans speaking different languages can communicate more easily and frequently. Because of this, we see a linguistic phenomenon such as language contact which the sociolinguists call "code-switching". The situation of language contact is nowadays common and could occur between the standard language and the dialect, between two very different languages, for example between Chinese and Japanese or Japanese and German, or could occur between two very close languages like Chinese and Japanese, French and Spanish or French and English. This last example creates a Linguistic phenomenon called "Frenglish". Learning French and especially English is popular in all countries around the world because of the similar of these two languages: historical, political, economic, military, medical, scientific, cultural and educational. It should be noted that these two languages are indo-European languages and share structure and lexicon which facilitate contact between people knowing these two languages. It leads to mixing between these two languages, for example in advertising, in the press, on the Internet, in the news, or even in songs. This article considers the Frenglish concept in French songs. It concerns the analysis of a French linguistic phenomenon in contact with English. We focused on the problem of contact between French and English under the terms of neologisms, especially lexical borrowing and English words' Francization in French lyrics. We studied particularly in language contact between English and French, the following changes: gender attribution (masculine and feminine), number attribution (singular and plural), and morphosyntactic integration.
- Publicationการเปรียบเทียบอรรธสระของภาษาฝรั่งเศสและภาษาไทย ในประเด็นสรีรสัทศาสตร์และสัทวิทยาสัญชัย สุลักษณานนท์; Suluksananon, Sanchai (2016)ภาษาฝรั่งเศสและภาษาไทยมีอรรธสระพ้องกันอยู่สองเสียง คือ เสียง [j] และ [w] ส่วนเสียง [ɥ] นั้นถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภาษาฝรั่งเศส การเปรียบเทียบระหว่างสองภาษาจึงเน้นที่สองเสียงแรกเป็นสำคัญ ทั้งในด้านสัทศาสตร์และในด้านสัทวิทยา ส่วนอรรธสระเสียงสุดท้ายซึ่งไม่มีในระบบเสียงของภาษาไทยนั้นจะเน้นศึกษาเพียงเอกลักษณ์เฉพาะของเสียงและทำการเปรียบเทียบกับสระบางเสียงที่ใกล้เคียง การศึกษาเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งของเสียงอาจเป็นสาเหตุสำคัญของการเปล่งเสียงที่ผิดเพี้ยนของผู้เรียนชาวไทย แบบฝึกหัดฝึกการเปล่งเสียงมักไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาเฉพาะของผู้เรียนแต่ละชาติ สำหรับผู้เรียนชาวไทยควรเน้นในข้อด้อยบางอย่างซึ่งแตกต่างจากชาวต่างชาติอื่น ๆ
- Publicationการศึกษาเปรียบเทียบอุปลักษณ์เชิงมโนทัศน์ที่เกี่ยวกับคนที่พบในสำนวนฝรั่งเศสและสำนวนไทยชนิกานต์ วงศ์ปิยะ; Wongpiya, Chanikan (คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2013)การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์และเปรียบเทียบการใช้อุปลักษณ์ที่เกี่ยวกับคนที่พบในสำนวนฝรั่งเศสและสำนวนไทย และ 2)เพื่อวิเคราะห์และเปรียบเทียบมโนทัศน์ที่เกี่ยวกับคนที่พบในสำนวนฝรั่งเศสและสำนวนไทย ในการศึกษาครั้งนี้เลือกศึกษาเฉพาะสำนวนฝรั่งเศสและสำนวนไทยที่มีความหมายเกี่ยวกับคน โดยใช้แนวคิดทฤษฎีอรรถศาสตร์ปริชานของเลคอฟฟ์และจอห์นสันในการวิเคราะห์ ผลการศึกษาประเภทอุปลักษณ์ไม่พบความแตกต่างของการจัดประเภท อุปลักษณ์ในสำนวนฝรั่งเศสและสำนวนไทย โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ 1) อุปลักษณ์สิ่งมีชีวิต และ 2) อุปลักษณ์สิ่งไม่มีชีวิต ผลการศึกษาประเภทมโนทัศน์สรุปได้ว่า ผู้ใช้ภาษาของคนในสังคมฝรั่งเศสและสำนวนไทยมองคนในสังคม ดังนี้ 1) คนเป็นสิ่งมีชีวิต และ 2) คนเป็นสิ่งไม่มีชีวิต โดยสะท้อนให้เห็นจากรูปภาษาที่นำมาใช้เป็นอุปลักษณ์และทำให้เห็นว่าสังคมฝรั่งเศสและสังคมไทยมองโลกคล้ายคลึงกันแต่เนื่องด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ทำให้รูปภาษาที่นำมาใช้เปรียบมีความแตกต่างกัน
- Publicationเล่าเรื่อง Xสัญชัย สุลักษณานนท์; Suluksananon, Sanchai (2021)อักษร X มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากอักษรตัวอื่นๆในหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้แทนเสียง การใช้ในเชิงไวยากรณ์และการใช้ในเชิงความหมาย ในแง่มุมของเสียงอักษรตัวนี้แทนเสียงได้หลายเสียงตามแต่บริบท และยังแทนเสียงได้ถึงสองเสียงในเวลาเดียวกัน ในแง่มุมของไวยากรณ์อักษรตัวนี้ใช้เติมหลังคํานามเพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์โดยมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจศึกษาอย่างมาก แต่การใช้ค่อนข้างมีความสลับซับซ้อน ท้ายสุดในแง่มุมของความหมายอักษรตัวนี้ยังนํามาใช้แสดงความหมายหลายหลากในแวดวงต่างๆ
- Publicationวิสามานยนามในภาษาฝรั่งเศสและภาษาไทย; กรณีการนํามาใช้เชิงอุปลักษณ์อังศุมารินทร์ ต่อมดวงแก้ว; Tomduangkaew, Unsumarin (2015)ในภาษาฝรั่งเศส การใช้คําวิสามานยนามในบริบทของการสื่อสารแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆคือ การใช้แบบปกติและการใช้แบบพิเศษ การใช้วิสามานยนามเชิงอุปลักษณะเป็นหนึ่งในการใช้แบบพิเศษที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจําวันโดยเฉพาะในหนังสือพิมพ์ ปรากฏการณ์ทางภาษาชนิดนี้สามารถพบได้เช่นกันในภาษาไทย ในการตีความหมายเพื่อให้เข้าใจประโยคหรือบทอ่านที่ปรากฏคําวิสามานยนามเชิงอุปลักษณะ จะต้องใช้ทั้งความสามารถทางภาษาและความรู้ทางวัฒนธรรม เพื่อระบุการใช้เชิงอุปลักษณ์และเชื่อมโยงความหมายที่ประโยคหรือบทอ่านต้องการสื่อให้ถูกต้อง ดังนั้นวิสามานยนามเชิงอุปลักษณ์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคําศัพท์เชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจสําหรับการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ เพราะการเรียนภาษาเพื่อให้เข้าใจในตัวภาษาอย่างลึกซึ้งนั้น จะต้องเรียนรู้วัฒนธรรมที่แฝงมากับตัวภาษานั้นๆ ไปพร้อมกัน
- Publicationอักษร I, J และ Y สามศรีพี่น้องสัญชัย สุลักษณานนท์; Suluksananon, Sanchai (2018)อักษร I, Y และ J เคยเป็นอักษรตัวเดียวกันและแทนเสียงเดียวกันก่อนที่จะกลายมาเป็นอักษรสามตัวที่แตกต่างกัน ประวัติของอักษรทั้งสามนี้ช่วยอธิบายปรากฏการณ์ทางภาษา ในภาษาฝรั่งเศส อักษร Y และ I มักใช้สลับเปลี่ยนหรือแทนที่กันอย่างที่พบเห็นได้ในการกระจายกริยา ในภาษาอังกฤษ ผู้เรียนชาวไทยเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนอักษร Y เป็น I ก่อนที่จะเติม -es, -er, -est, ฯลฯ โดยไม่เคยทราบถึงเหตุผลว่าทําไมต้องทําเช่นนั้น อักษร I และ J มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดในภาษาละติน ทั้งคู่ถือว่าเป็นอักษรตัวเดียวกันและแทนเสียงเดียวกัน ต่อมาในยุคกลาง วิวัฒนาการทางภาษาทําให้ทั้งคู่กลายเป็นอักษรสองตัวที่แตกต่างกันและแทนเสียงที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้เอง อักษร J จึงไม่เคยนําหน้าอักษร I และ Y ในภาษาฝรั่งเศส