วรรณกรรม/วรรณคดีจีน

Permanent URI for this collection

บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านวิเคราะห์วรรณกรรม วรรณกรรมเปรียบเทียบ และการแปลวรรณกรรม

Browse

Recent Submissions

Now showing 1 - 5 of 188
No Thumbnail Available
Publication

ศึกษาวิเคราะห์วรรณกรรมจีน เรื่อง “หงเกาเหลียงเจียจู๋” ของโม่เหยียน

ภัทรวดี ตรัยที่พึ่ง, Traiteephung, Pattarawadee (2022)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาพสะท้อนทางสังคม ด้านวิถีชีวิตวิถีครอบครัว วิถีสังคม แนวคิด และภาพประวัติศาสตร์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา วิธีการวิจัย ได้แก่ ศึกษาวรรณกรรมเรื่อง หงเกาเหลียงเจียจู๋ของโม่เหยียน หลังจากนั้น จึงวิเคราะห์ภาพสะท้อนต่าง ๆ ที่ปรากฏในวรรณกรรม ผลวิจัยพบว่า ชาวไทยและชาวจีนมีการแลกเปลี่ยนทางภาษาและวัฒนธรรมมาช้านาน การศึกษาวรรณกรรมจีนทำให้เข้าใจในวัฒนธรรมจีนด้านต่าง ๆ ด้านวิถีชีวิต แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นคือ คุณภาพชีวิตอาชีพ และการคมนาคม ด้านวิถีครอบครัว แบ่งออกเป็นความสัมพันธ์ของบิดามารดาและบุตรและความสัมพันธ์ของสามีภรรยา ด้านวิถีสังคม สะท้อนให้เห็นภาพสังคมชนบทที่มีสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น วัฒนธรรมและประเพณีที่มีอยู่เดิมซึ่งคล้ายคลึงกัน ด้านแนวคิด แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นคือ ความกตัญญู ความอดทนอดกลั้น ความเมตตากรุณาและความกล้าหาญ ด้านประวัติศาสตร์สะท้อนผ่านการบรรยายพฤติกรรมและบทสนทนาของตัวละครที่เล่าถึงประวัติศาสตร์จีนในช่วงที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานครั้งที่สอง ภาพสะท้อนเหล่านี้เมื่อเทียบกับประเทศจีน ในยุคปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการพัฒนาประเทศ การรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกและการเปลี่ยนแปลงทางแนวคิดของผู้คน

No Thumbnail Available
Publication

ภาพลักษณ์หวังซีเฟิ่งในละครเรื่อง ความฝันในหอแดง และละคร ประวัติไต้อี้ว์

ภูเทพ ประภากร, Prapagorn, Puthep (2022)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาพลักษณ์และวิธีการนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวละครหวังซีเฟิ่งจากละครเรื่องความฝันในหอแดง ปี ค.ศ. 1987 ค.ศ. 1996 ค.ศ. 2010 และละครประวัติไต้อี้ว์ ปี ค.ศ. 2010 โดยใช้แนวคิดภาพลักษณ์และการนำเสนอตัวละครมาเป็นกรอบแนวคิดสำคัญ ขอบเขตเนื้อหาที่มุ่งศึกษาประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความสามารถ ด้านความโหดร้ายและพฤติกรรมที่ขัดต่อจารีตทางสังคมศักดินาจีน ด้านความเป็นภรรยา ด้านความเป็นมารดา และด้านความเวทนาในชีวิต ผลการศึกษา พบว่า ในละครทุกเรื่องภาพลักษณ์ความโหดร้าย พฤติกรรมที่ขัดจารีตทางสังคมโดดเด่นที่สุด รองมาคือภาพลักษณ์ด้านความสามารถในการบริหารจัดการ ด้านความเป็นภรรยาและมารดานำเสนอค่อนข้างน้อย ภาพลักษณ์ด้านความเวทนาในชีวิตที่มีการนำเสนอแตกต่างกันอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่าในสังคมศักดินาจีน แม้สตรีจะมีความสามารถมากเพียงใด กลับยังต้องตกอยู่ภายใต้กรอบจารีตทางสังคมที่นำหลักสามคล้อยสี่คุณธรรมมา ตีกรอบบทบาทและสถานภาพสตรีอย่างเคร่งครัด โครงเรื่องของละครทั้งสี่ดำเนินเรื่องตามตัวบทวรรณคดี โดยเฉพาะการแสดงความสามารถและความโหดร้ายของหวังซีเฟิ่งและช่วงชีวิตที่ตกต่ำ แต่ช่วงจุดจบชีวิตของหวังซีเฟิ่งนำเสนอแตกต่างกัน ละครเหล่านี้ล้วนสะท้อนพฤติกรรมด้านดีของหวังซีเฟิ่ง แม้จะลบภาพจำความโหดร้ายที่มีให้หมดไปไม่ได้ แต่ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจความเป็นมาถึงพฤติกรรม การกระทำเหล่านั้นที่พยายามรักษาสถานภาพและบทบาทของตน ทั้งยังเป็นการสะท้อนความทุกข์ยากของสตรีภายใต้ระบบสังคมศักดินา

No Thumbnail Available
Publication

ว่าด้วย “การคืนชีพ” ของตัวละครในวรรณกรรมไซอิ๋วฉบับอู๋เฉิงเอิน

สุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์, 黄, 汉坤, Amornwanitsak, Surasit (2022)

บทความวิจัยนี้มุ่งวิเคราะห์เหตุและปัจจัยที่ส่งผลถึงตัวละครในวรรณกรรมไซอิ๋วที่เสียชีวิตแล้วได้ “ฟื้นคืนชีพ” กลับมาใหม่อีกครั้ง บนพื้นฐานความคิดที่ว่า การคืนชีพในวรรณกรรมไซอิ๋วมีความสัมพันธ์กับ “รวมตรีศาสน์เป็นหนึ่ง” ผลการศึกษาทำให้ทราบว่า ตัวละครในวรรณกรรมไซอิ๋วที่เคยผ่านการฟื้นคืนชีพกลับมาดำเนินชีวิตในโลกมนุษย์อีกครั้งนั้น ปรากฏในมิติต่างๆ ของตัวละคร ทั้งเรื่องราวของซึงหงอคง จากการนำพู่กันจุ่มหมึกป้ายลงไปยังชื่อ-แซ่ของตนเพื่อเปลี่ยนแปลงบัญชีอายุขัย การเกิดปาฏิหาริย์ของเฉินกวงหรุ่ยที่สามารถรอดพ้นชีวิตจากความตายจากการตอบแทนบุญคุณของพญามังกรแห่งลำน้ำหงเจียง การคืนชีพของจักรพรรดิถังไท่จงหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการไต่สวนโดยพญายมราช การฟื้นคืนชีพของสองสามีภรรยา หลิวเฉวียนและหลี่ชุ่ยเหลียนที่ดวงชะตาได้เป็นเซียนในเวลาต่อมา รวมถึงเรื่องราวการฟื้นคืนชีพของกษัตริย์แห่งแคว้นอูจีกั๋วด้วยยาฟื้นคืนชีพจากไท่ซั่งเหล่าจวินร่วมกับการส่งลมหายใจของซึงหงอคง การปรุงแต่งให้ตัวละครกลับมาฟื้นคืนชีพขึ้นใหม่เกิดจากความต้องการของผู้ประพันธ์ที่ใช้เรื่องการฟื้นคืนชีพมาปลูกฝังและสั่งสอนให้ผู้คนประกอบกรรมดี ละเว้นความชั่ว โดยผู้ที่ได้รับการฟื้นคืนชีพนั้นจะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม รักชาติ ซื่อสัตย์ต่อกษัตริย์ เชื่อเรื่องเวรกรรม มีวาสนาที่สำเร็จเป็นเซียน ซึ่งล้วนเป็นไปตามแนวคิด คุณธรรม จริยธรรมทางสังคมในแบบคติของชาวบ้านจีน

No Thumbnail Available
Publication

ภาพลักษณ์ผู้หญิงจีนในโซเชียลมีเดียจีนท่ามกลางภาวะโรคระบาดโควิด-19

ไพรินทร์ ศรีสินทร, Srisinthon, Pairin (2022)

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ภาพลักษณ์ผู้หญิงจีนที่ปรากฏในสื่อโซเชียลจีนท่ามกลางภาวะโรคระบาด โควิด-19 ผ่านมุมมองการประกอบสร้างความหมายและมายาคติผ่านสื่อสมัยใหม่ จากการศึกษาพบว่าภาพลักษณ์ของผู้หญิงจีนที่ปรากฏในสื่อโซชียลอยู่ในรูปแบบของ “นางฟ้าชุดขาว” กับพันธกิจช่วยเหลือมนุษยชาติ ภาพลักษณ์ของผู้หญิงรากหญ้ากับความสามัคคีในครอบครัวใหญ่ และภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่เป็นขบถในยุคโรคระบาด ภาพลักษณ์ผู้หญิงจีนส่วนใหญ่ที่สื่อโซเชียลจีนนำเสนอมาข้างต้นได้ปรับเปลี่ยนบทบาทไปตามความต้องการของสังคมและยุคสมัย สะท้อนให้เห็นว่าโลกโซเชียลและสื่อทางการจีนประสบผลสำเร็จในการประกอบสร้างความเป็นผู้หญิงจีน และนำเอาผู้หญิงไปผูกติดกับวาทกรรมความอยู่รอดท่ามกลางภาวะวิกฤต และหากพิจารณาแล้วย่อมพบว่าผู้มีอำนาจในการเผยแพร่ควบคุมสื่อเหล่านี้คือ รัฐบาลจีน จึงเห็นได้ว่าความเป็นผู้หญิงท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้เป็น “เพศภาวะ” ที่ประกอบสร้างขึ้นมาในสังคมโดยสถาบันที่มีผู้ชายเป็นผู้ผลิต ขณะที่ผู้ที่ต่อต้านระบอบชายเป็นใหญ่กรณีนักเขียนหญิงนาม “ฟังฟัง” อาจถูกอำนาจครอบงำและลดทอนศักยภาพของเธอในการแสดงออก

No Thumbnail Available
Publication

มโนทัศน์ “สตรี” ในวรรณกรรมจีนสมัย ค.ศ.1912 – ปัจจุบัน

ขนิษฐา ใจมโน, บุญเหลือ ใจมโน, สนิท สัตโยภาส, Peng, Leshan, Chaimano, Kanita, Chaimano, Boonlue, Satayophat, Sanit (2022)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบมโนทัศน์ “สตรีจีน” ต่อความเข้าใจวิถีชีวิตตามบทบาทหน้าที่ลูกสาว แม่ และภรรยา สถานภาพสตรีจีนในวรรณกรรมจีนเรื่อง “ตำนานรักทุ่งสีเพลิง” และ “เสียงเพรียกที่กลบเร้นจากแผ่นดินใหญ่” ผู้วิจัยเลือกเก็บข้อมูลจากเอกสารที่เป็นวรรณกรรมจีนที่มีการแปลเป็นภาษาไทยเท่านั้น แบ่งการเก็บข้อมูลวรรณกรรมเป็น 2 ยุค คือ ยุคสาธารณรัฐจีน (ค.ศ. 1912 - 1989) และยุคสาธารณะรัฐประชาชนจีน (ค.ศ.2002 – ปัจจุบัน) วรรณกรรมเรื่อง “ตำนานรักทุ่งสีเพลิง” เป็นตัวแทนให้เห็นถึงมโนทัศน์ของสตรีจีนในยุคสาธารณะรัฐจีน ทั้งนี้เพราะเป็นสมัยสิ้นสุดของราชวงศ์ชิง สังคมจีนยังคงยึดระบบสังคมแบบศักดินา และวรรณกรรมเรื่อง “เสียงเพรียกที่กลบเร้นจากแผ่นดินใหญ่” เป็นตัวแทนมโนทัศน์ของสตรีจีนในยุคสาธารณะรัฐประชาชนจีน เพราะหลังจากการปฏิรูปการปกครอง สังคมจีนมีการเรียกร้องและสนับสนุนความเท่าเทียมกันระหว่างสตรีกับบุรุษ ผู้วิจัยนำแนวคิดของ เบอร์โล (Berlo. 1996: 29) มาใช้ในการวิเคราะห์บทบาทสตรีจีน 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) บทบาทที่ถูกกำหนดไว้ (Role Prescriptions) 2) บทบาทที่กระทําจริง (Role Descriptions) และ 3) บทบาทที่ถูกคาดหวัง (Role Expectations)ผลการวิจัยพบว่า วรรณกรรมจีนทั้งสองเรื่องปรากฏให้เห็นชัดเจนถึงมโนทัศน์ “สตรีจีน” ตามบทบาทหน้าที่ 3 ลักษณะ กล่าวคือ เมื่อเป็น “ลูกสาว” ต้องเชื่อฟังบิดารมารดาและปฏิบัติตนตามคำสั่งหรือความต้องการของบิดามารดา เมื่อเป็น “แม่” จะต้องพยายามดูแลลูกทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปกป้องลูกจากภยันตราย และเมื่อเป็น “ภรรยา” ต้องดูแลสามี พยายามรักษาปกป้องครอบครัวของตนเอง อีกทั้งต้องอดทนต่อทุกการกระทำของสามี ปราศจากการเรียกร้องใดๆ สตรีจีนที่ไม่ประพฤติปฏิบัติตามจารีตที่ถูกขีดไว้และกระทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับบทบาทหน้าที่ที่แยกตาม 3 ลักษณะไว้จะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี