ภาษาจีน : Chinese
Permanent URI for this community
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านภาษาศาสตร์ภาษาจีน การเรียนการสอนภาษาจีน การแปลภาษาจีน วรรณกรรมจีน และวัฒนธรรมจีน
Browse
Browsing ภาษาจีน : Chinese by OECD Research Area "6.1 ประวัติศาสตร์และโบราณคดี"
Now showing 1 - 18 of 18
Results Per Page
Sort Options
- PublicationThe Opium Wars in China's Junior High School TextbooksLi, DanTing; Mattariganond, Dararat; Narasaj, Benjawan (2019)The Opium Wars were major events in China as they brought significant changes to the course of Chinese history. The objective of this article is to analyze how one of the junior high school history textbooks in China describes the Opium Wars and integrates national ideology into the curriculum. The study applied historical research methods by analyzing the book’s content and structure. It found that that the Opium Wars are presented in chronological order in this book: The First Opium War (1840-1842) and the Second (1856-1860). the latter, also known as the Burning of the Summer Palace, was connected with the Taiping Heavenly Kingdom Movement. The textbook points out the brutality of western countries in waging war upon China and their destruction of Chinese civilization, and praises China’s national heroes. There is an emphasis on patriotism, loyalty and courage for the self-sacrifice of national heroes in the depiction of the events, thereby interpolating national ideology in accordance with Marxist concepts, the main values of Chinese socialism, and Confucianism.
- Publicationความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนและล้านนาในสมัยปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 – 16Feng, Zhoubi; สรัสวดี อ๋องสกุล; 冯, 洲碧; Feng, Zhoubi; Ongsakul, Sarassawadee (2020)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะและการปรับเปลี่ยนของความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนกับล้านนา ผู้เขียนได้วิเคราะห์ลักษณะและการปรับเปลี่ยนของความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนและล้านนาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 –16 โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ(1) ก่อนการสร้างความสัมพันธ์แบบระบบบรรณาการ (2) ความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนราชวงศ์หยวนและล้านนา และ(3) ความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนราชวงศ์หมิงและล้านนา พบว่าความสัมพันธ์ในระบบบรรณาการระหว่างจีนและล้านนามีลักษณะที่เป็นพลวัต มีความปรับเปลี่ยนเสมอ และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของทั้งสองอาณาจักรในแต่ละสมัย
- Publicationจีนในประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ในประวัติศาสตร์จีนกรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์; 陈, 玉珊; Tungkeunkunt, Kornphanat (2017)ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่น และเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาทำความเข้าใจเหตุการณ์หรือการกระทำต่างๆ ของมนุษย์ที่ดำเนินหรือเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับของเวลา บทความนี้นำเสนอพัฒนาการของแนวคิดเรื่อง “จีน” ที่ถูกสร้างขึ้นในประวัติศาสตร์ รวมถึงปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์จีน ซึ่งทำให้แนวคิดเรื่อง “จีน” ในแต่ละยุคสมัยแตกต่างกัน
- Publicationเจ้าหญิงเหวินเฉิงกับอาณาจักรถู่ปัวสุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; 黄, 汉坤; Amornwanotsak, Surasit (2018)บทความนี้มุ่งศึกษาความสัมพันธ์และคุณูปการต่างๆ ที่เจ้าหญิงเหวินเฉิงจากราชส านักถังมอบให้ไว้กับราชอาณาจักรถู่ปัวหรือทิเบต ซึ่งพบว่าเจ้าหญิงเหวินเฉิงทรงมีพระจริย-วัตรอันงดงามและพระสติปัญญาอันเฉียบแหลม นอกจากนั้นแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้น าความเจริญมากมายหลายแขนงมาสู่ดินแดนถู่ปัวแห่งนี้ โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้เองจึงท าให้พงศาวดารทิเบตได้เขียนยกย่องพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ตาราขาวทรงอวตารลงมาเพื่อช่วยเหลือโลกมนุษย์
- Publicationเจิ้งเหอ: การสร้างความทรงจำร่วมในสวนสาธารณะตำบลจิ้นหนิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนXu, Huanli; ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์; แก้วตา จันทรานุสรณ์; Mattariganond, Dararat; Janthransorn, Kaeota (2021)บทความนี้มุ่งศึกษาการสร้างความทรงจำร่วมเกี่ยวกับเจิ้งเหอ โดยวิเคราะห์ผ่านสวนสาธารณะเจิ้งเหอ ตำบลจิ้นหนิง เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ส่วนวิธีการศึกษาใช้วิธีการวิจัยทางประวัติศาสตร์ ด้วยการศึกษาจากเอกสารจีนหลากประเภท ดังเช่น พงศาวดาร หนังสือ วิทยานิพนธ์ ร่วมกับการศึกษาข้อมูลภาคสนาม ผลการศึกษาพบว่า สวนสาธารณะเจิ้งเหอ ตำบลจิ้นหนิง เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานนั้นเป็นบ้านเกิดของเจิ้งเหอและเป็นสถานที่ฝังศพบิดาของเจิ้งเหอ จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างความทรงจำร่วมเกี่ยวกับเจิ้งเหอโดยรัฐบาลและประชาชนท้องถิ่นร่วมกันสร้าง ผ่านรูปปั้นเจิ้งเหอ หออนุสรณ์การแสดงเจิ้งเหอ การแกะสลักรูปภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจิ้งเหอบนกำแพง คำกลอนคู่ ฯลฯ ด้วยการจารึกความทรงจำเกี่ยวกับคุณงามความดี ความรู้ ความสามารถในการเดินทางของเจิ้งเหอ เพื่อประกอบสร้างความทรงจำร่วมอันน่ายกย่องของเจิ้งเหอในฐานะวีรบุรุษนักสำรวจทางทะเล วีรบุรุษของท้องถิ่น และวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน
- Publicationเซิ่งหมิงลี่ : กปิตันจีนในมาเลเซียที่กลายเป็นเทพเจ้าสุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; 黄, 汉坤; Amornwanotsak, Surasit (2019)บทความนี้มุ่งนำเสนอประเด็นการกลายเป็นเทพเจ้าของเซิ่งหมิงลี่ หัวหน้ากลุ่มจีนแคะที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกปิตันจีนคนแรกแห่งเมืองเซเรมบัน รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน จากการศึกษาพบว่า หลังจากที่เซิ่งหมิงลี่ถูกฆ่า เยี่ยย่าไหล อดีตลูกน้องของเซิ่งหมิงลี่ได้ย้ายไปทำเหมืองแร่ที่กัวลาลัมเปอร์ เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้การบูชาเซิ่งหมิงลี่เป็นที่ประจักษ์ชัดขึ้น ตำแหน่ง “เซียนซือเหยีย” ที่ได้มาจากการทรงเจ้าเป็นเครื่องยืนยันในวัตถุประสงค์มุ่งก่อเกิดความศรัทธาในดวงวิญญาณของเซิ่งหมิงลี่ ทั้งนี้ มีตำนานเรื่องเล่าที่เกี่ยวพันกันระหว่างดวงวิญญาณของเซิ่งหมิงลี่กับเยี่ยย่าไหลอีกหลายเรื่อง เชื่อว่าเยี่ยย่าไหลมีความประสงค์ที่จะใช้เซิ่งหมิงลี่เป็นศูนย์รวมใจของชาวจีนแคะ เป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างฐานอำนาจ โดยกรรมกรเหมืองแร่ที่เป็นชาวจีนแคะยกย่องเซิ่งหมิงลี่ในฐานะเทพอารักษ์ประจำกลุ่มอาชีพของตน ซึ่งต่อมากรรมกรเหมืองแร่ชาวจีนจากกลุ่มวัฒนธรรมอื่นๆ ก็บูชาในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ทำให้ความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อเซิ่งหมิงลี่ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น
- Publicationตำนานของเจิ้งเหอในสังคมอยุธยาจากหนังสือตงซีหยังเข่าสุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; 黄, 汉坤; Amornwanitsak, Surasit (2020)เรื่องเล่าเจิ้งเหอในสังคมไทยมีมาช้านาน น่าเชื่อว่าหลังจากที่เจิ้งเหอสิ้นบุญแล้ว ผู้คนชาวจีนในสังคมไทยได้ผูกโยงเจิ้งเหอเข้ากับสถานที่ สิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น วัดพนัญเชิง เจดีย์ ซุ้มประตูจีน ดังปรากฏอยู่ในเอกสารตงซีหยังเข่าของจังเซี่ย ทั้งหมดนี้เชื่อว่าเกิดจากความศรัทธาของผู้คนชาวจีนที่มีต่อเจิ้งเหอ บทความนี้มุ่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับตำนานของเจิ้งเหอที่ปรากฏในเอกสารตงซีหยังเข่า โดยพยายามชี้ให้เห็นว่าสถานที่บางแห่งน่าจะมีอยู่จริงตามที่ถูกจดบันทึกไว้ในเอกสารชิ้นดังกล่าว แต่เรื่องราวที่นำไปผูกโยงเข้ากับเจิ้งเหอคงมีทั้งเรื่องจริงและเท็จผสมปนเปกันไป เพราะตงซีหยังเข่าเขียนขึ้นหลังจากที่เจิ้งเหอสิ้นบุญราว 184 ปี จึงเป็นได้ว่าเรื่องเล่าของเจิ้งเหอเหล่านี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับเจิ้งเหอในแบบฉบับที่มีความพิสดารแปลกใหม่ เป็นไปในลักษณะการยกย่องและระลึกถึงวีรกรรมของเจิ้งเหอ โดยกลุ่มชาวจีนในสังคมไทยเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าวให้เป็นที่ประจักษ์
- Publicationแนวคิดการเปลี่ยนแปลงถัง-ซ่งกับกระบวนทัศน์ในการศึกษาประวัติศาสตร์จีนกรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์; 陈, 玉珊; Tungkeunkunt, Kornphanat (2016)บทความนี้อธิบายแนวคิดการเปลี่ยนแปลงถัง-ซ่ง ซึ่งเป็นสมมติฐานการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของจีนโดยนักวิชาการญี่ปุ่นสานักเกียวโตที่เสนอว่า ตั้งแต่กลางราชวงศ์ถังจนถึงราชวงศ์ซ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลงจากยุคกลางเก่าไปสู่ยุคต้นสมัยใหม่ในประวัติศาสตร์จีน การเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลนี้มีทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ทางสังคมและคุณค่าทางวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน บทความนี้ก็ได้สำรวจงานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดการเปลี่ยนแปลงถัง-ซ่งในประเทศญี่ปุ่น จีนและอเมริกา จากนั้นจึงนำไปสู่การอภิปรายความสำคัญ อิทธิพล และข้อถกเถียงของแนวคิดนี้ ซึ่งส่งผลต่อ กระบวนทัศน์ในการศึกษาประวัติศาสตร์จีน
- Publicationประวัติศาสตร์จีนปลายราชวงศ์ชิงจากภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสกำพล ปิยะศิริกุล; ฐนวิชณ์ ไกรเพิ่ม; Piyasirikul, Kampol; Kraiperm, Thanawit (2022)บทความนี้มุ่งศึกษาประวัติศาสตร์จีนในช่วงปลายราชวงศ์ชิงจากภาพข่าวที่ ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1891 - 1911 คําถามการวิจัยคือ หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสสะท้อนมุมมองจากภาพข่าว เกี่ยวกับเนื้อหาประวัติศาสตร์จีนอย่างไร ผู้เขียนตั้งสมมุติฐานการศึกษาว่า หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสมุ่งเสนอมุมมองไป ที่ประวัติความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฝรั่งเศส และประวัติความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับมหาอํานาจักรวรรดินิยมการศึกษานี้ใช้วิธีการวิจัยทางประวัติศาสตร์เป็นหลัก โดยรวบรวมเอกสารชั้นต้น วิเคราะห์เนื้อหา ประวัติศาสตร์จีน และรับรู้มุมมองของฝรั่งเศสจากหนังสือรวมภาพข่าวเรื่อง ประวัติศาสตร์จีนที่หล่นหายในตะวันตก: ประวัติศำสตร์จีนสมัยปลายราชวงศ์ชิง ค.ศ. 1891 - 1911 จากการบันทึกของหนังสือสือพิมพ์ฝรั่งเศส เลอ เปอติ ฌูร์นำล (《遗失在西方的中国史:法国〈小日报〉记录的晚晴 1891 - 1911》) ผลการวิจัยพบว่า มีภาพข่าวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนสมัยปลายราชวงศ์ชิงจํานวนทั้งสิ้น 112 ภาพ เนื้อหาของภาพข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่หนึ่ง ภาพข่าวประวัติ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับมหาอํานาจจักรวรรดินิยม จํานวน 64 ภาพจากมุมมองของนักข่าวฝรั่งเศส ภาพข่าว เหล่านี้สะท้อนเหตุการณ์สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 การจลาจลของนักมวยอี้เหอถวน การบุกจีนของ กองทัพพันธมิตรแปดชาติ สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น กลุ่มที่สอง ภาพข่าวประวัติความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับ ฝรั่งเศส แม้ว่าภาพข่าวเหล่านี้มาจากหนังสือพิมพ์สัญชาติฝรั่งเศส แต่กลับนําเสนอเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเฉพาะจีน กับฝรั่งเศสเพียง 26 ภาพเท่านั้น ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างจีนกับฝรั่งเศสในสมัยปลาย ราชวงศ์ชิง อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังพบเนื้อหาภาพข่าวกลุ่มที่สามซึ่งอยู่นอกเหนือสมมุติฐาน กล่าวคือ ภาพข่าว ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเฉพาะประเทศจีน จํานวน 22 ภาพ ส่วนใหญ่นําเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับขบวนการปฏิวัติ และภัยพิบัติในประเทศจีน ตลอดจนนําเสนอภาพบุคคลสําคัญทางประวัติศาสตร์ในราชสํานักชิง ในภาพรวม ผู้เขียนพบว่า ภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสสะท้อนมุมมองว่า จีนเป็นผู้จุดชนวนความขัดแย้งกับต่างชาติ และยังเป็นผู้ที่ทําให้เหตุปะทะทวีความรุนแรงมากขึ้น ภาพข่าวเหล่านี้จึงนําเสนอและให้ความสําคัญว่าฝรั่งเศสและ มหาอํานาจจักรวรรดินิยมเป็นฝ่ายที่ถูกกระทํา จึงจําเป็นต้องใช้กําลังเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของตน
- Publicationเพื่อนจีนในบ้านไทยสุรางค์ศรี ตันเสียงสม (2007)ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์กันทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมกันมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งในประดับประมุขของประเทศและระดับประชาชน ทางการเมืองประมุขทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนพระราชสาสน์และของขวัญกันตั้งแต่สมัยโบราณ ทางด้านเศรษฐกิจ ประเทศทั้งสองมีการค้าขายกันเรื่อยมา นอกจากความสัมพันธ์ทางด้านการเมืองและทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ความสัมพันธ์ด้านสังคมเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะในประเทศไทยมีชาวจีนและลูกหลายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและมีบทบาทในสังคมไทย ชาวจีนได้เข้ามาประกอบอาชีพต่างๆ ในสังคมไทย เช่นเป็นขุนนาง เป็นชนชั้นนายทุน เป็นแรงงานในการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และสาธารณูปโภคในประเทศไทย การข้ามาของชาวจีนนั้นมีผบกระทบอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งในประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงน่าศึกษาอย่างยิ่งถึงสาเหตุที่ชาวจีนอพยพมาประเทศไทย การตั้งรกราก การผสมกลมกลินกับชาวไทย ดังนั้นบทความนี้จะแบ่งหัวข้อการศึกษาออกเป็นประเด็นย่อยๆ ดังต่อไปนี้คือหนึ่ง การเข้ามาของชาวจีนในประเทศไทย สองลักษณะพิเศษของสังคมไทย สาม ชาวจีนที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนนาง และบทสรุป
- Publicationภาชนะดินเผาที่หนานเหอปัง: ภาพสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในยุคกลางและยุคปลายของวัฒนธรรมซงเจ๋อWang, Bin; ฉวีวรรรณ ว่องเจริญกุล; Wongcharoenkul, Chaweewan; ฉวีวรรรณ ว่องเจริญกุล (2011)กลุ่มวัฒนธรรมซงเจ๋อ เป็นกลุ่มวัฒนธรรมที่อยู่ในช่วงระหว่างกลุ่มวัฒนธรรมหม่าเจียปังและกลุ่มวัฒนธรรมเหลียงจู่ โดยที่กลุ่มวัฒนธรรมซงเจ๋อน้ำเชื่อมต่อมาจากกลุ่มวัฒนธรรมหม่าเจียปัง และกลุ่มวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อจากปุ่มซงเจ๋ิก็คือกลุ่มวัฒนธรรมเหลียงจู่นั่นเอง กลุ่มวัฒนธรรมซงเจ๋อเป็นกลุ่มวัฒนธรรมที่มีชีวิตและเป็นกลุ่มวัฒนธรรมที่มีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดกลุ่มวัฒนธรรม 1 เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะมีประวัติการเปลี่ยนแปลงที่ยาวนานและค่อนข้างซับซ้อนเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มวัฒนธรรมซงเจ๋อไม่เพียงแต่รวบรวมวัฒนธรรมที่โดดเด่นของทั้งสองกลุ่มวัฒนธรรมดังที่กล่าวมา แต่ยังมีอีกลักษณะเฉพาะกลุ่มของวัฒนธรรมซงเจ๋ออีกด้วย ด้วยเหตุนี้ บทความชิ้นนี้จึงได้นำหลักการวิเคราะห์เชิงปริมาณของหลักโบราณคดีเพื่อนำมาวิเคราะห์เครื่องปั้นดินเผาในช่วงยุคกลางและยุคปลายของวัฒนธรรมซงเจ๋อ
- Publicationภาพลักษณ์ของเจิ้งเหอในประวัติศาสตร์จีนสิทธิพล เครือรัฐติกาล; 许, 佳朋; Kruarattikan, Sitthiphon (2012)ภาพลักษณ์ของเจิ้งเหอในประวัติศาสตร์จีนเปลี่ยนแปลงไปตามบริบททางสังคม และการเมืองของแต่ละยุคสมัย ภายใต้ระเบียบของลัทธิขงจื่อในช่วงก่อนสงครามฝิ่น การเดินเรือของเจิ้งเหอจึงถูกมองว่าเป็นเพียงกิจกรรมที่ฟุ่มเฟือยของจักรพรรดิราชวงศ์หมิง แต่ เมื่อจีนเข้าสู่ช่วง “ศตวรรษแห่งความอัปยศ” (ค.ศ.1842–1949) การเดินเรือของเจิ้งเหอ ได้รับการยกย่องในฐานะสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในอดีตของจีน และเมื่อจีนหันมาใช้ นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจหลัง ค.ศ. 1978 การเดินเรือของเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ มิตรภาพและผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีนกับสังคมนานาชาติ
- Publicationภาพลักษณ์ของโจโฉในวัฒนธรรมจีนกนกพร นุ่มทอง; 吴, 琼; Numtong, Kanokporn (2017)โจโฉเป็นนักการทหาร นักการปกครองและกวีที่โดดเด่นปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ภาพลักษณ์ของโจโฉมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย โจโฉในการรับรู้ของชาวบ้านจีนทั่วไปเป็นสุดยอดของกังฉินในประวัติศาสตร์จีน หลังสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เกิดกรณี “พลิกคดีให้โจโฉ” ขึ้น ซึ่งมีประเด็นโต้แย้งต่างๆ ทั้งในแง่ทฤษฎีทางวรรณคดีและในแง่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโจโฉจะมีคุณูปการต่อประเทศ แต่ภาพลักษณ์ “ผู้ร้าย” ของโจโฉในประวัติวัฒนธรรมจีนก็มีที่มาที่ไปสมเหตุสมผลและไม่มีความจาเป็นต้อง “พลิกคดีให้โจโฉ” หรือรื้อสร้างภาพลักษณ์ของโจโฉในวัฒนธรรมจีนแต่อย่างใด
- Publicationรูปเคารพเจิ้งเหอในสังคมไทยสุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; Amornwanitsak, Surasit (2020)บทความนี้มุ่งสำรวจลักษณะและวิเคราะห์รูปเคารพของเจิ้งเหอที่ปรากฏอยู่ในสังคมไทย และทำความเข้าใจถึงความเชื่อความศรัทธาที่นำไปสู่การสร้างรูปเคารพของเจิ้งเหอ เบื้องต้นพบว่า รูปเคารพเจิ้งเหอในสังคมไทย มีอยู่ด้วยกัน 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) พระพุทธรูปตามคติพุทธศาสนานิกายเถรวาท นามว่า หลวงพ่อโต “ซำปอกง” 2) พระภิกษุในพุทธศาสนาแบบจีนนิกาย และ 3) เทพเจ้าตามคติจีน จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ระบุว่า แม่ทัพกองเรือมหาสมบัติแห่งราชวงศ์หมิงผู้นี้เคยเดินทางมาเยือนดินแดนประเทศไทยถึง 3 ครั้ง และอาจเคยร่วมบุญบูรณะวัดพนัญเชิงหรือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ของวัดแห่งนี้ ซึ่งต่อมาผู้คนพากันขนานนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “ซำปอกง”
- Publicationเล่าเรื่องของชาติจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน : “จีนโบราณ” ในจีนสมัยใหม่นงลักษณ์ ลิ้มศิริ (2018)แนวคิดการจัดนิทรรศการสำหรับพิพิธภัณฑ์ยุคสมัยใหม่ภายใต้บรรยากาศของกระแสโลกาภิวัตน์ได้เปลี่ยนแปลงไป มีการใช้วัฒนธรรมเป็นแนวทางสำคัญในการจัดแสดง ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางดังกล่าว โดยเฉพาะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หลักและเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนกลางที่สำคัญที่สุดของประเทศ ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมเห็นได้ชัดเจนคือ รัฐบาลใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการบูรณะและปรับปรุงอาคารพิพิธภัณฑ์ให้เป็นอาคารสมัยใหม่ที่มีความสะดวกสบายและทันสมัย พร้อมทั้งมีการปรับปรุงการจัดนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ด้วย โดยเฉพาะห้อง “จีนโบราณ” มีการจัดแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของวัฒนธรรมและความเจริญรุ่งเรืองของจีนจากยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคสมัยใหม่ (ราชวงศ์หมิง - ชิง) นำเสนอพัฒนาการของจีนในแต่ละยุคด้วย 4 ประเด็นหลัก คือ พัฒนาการทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งสะท้อนภาพของจีน ในฐานะ “แหล่งอารยธรรมโลกที่ยิ่งใหญ่สืบสานต่อเนื่องอย่างยาวนาน จากผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์” แสดงให้เห็นถึงความเป็นชาตินิยมทางวัฒนธรรมของจีนสมัยใหม่
- Publicationวีรชนในแบบเรียนประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของจีนปัจจุบันLi, Danting; ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์; เบญจวรรณ นาราสัจจ์; ดารารัตน์ เมตตาริกานนท์; เบญจวรรณ นาราสัจจ์ (2018)วีรชนเป็นองค์ประกอบหลักของกิจกรรมทางสังคมและประวัติศาสตร์ การศึกษาประวัติศาสตร์จำนวนมากจึงเป็นการศึกษาบทบาทและความสำคัญของวีรชนในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บทความชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่ารัฐบาลจีนมีการนำเสนอเรื่องราววีรชนระบบฮ่องเต้ในแบบเรียนประวัติศาสตร์จีนเป็นอย่างไรและรัฐได้มีการสอดแทรกอุดมการณ์ชาติผ่านวีรชนเหล่านี้อย่างไรโดยใช้วิธีการศึกษาทางประวัติศาสตร์ด้วยการวิเคราะห์หนังสือแบบเรียนประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของจีน ผลการศึกษาพบว่าแบบเรียนประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นได้กล่าวถึงวีรชนจีนเป็นจำนวน 47 คนโดยมีเพศชาย 46 คน เพศหญิงคนเดียวสามารถแบ่งออกเป็น 7กลุ่ม ประกอบด้วย (1) ฮ่องเต้ (2) นักวิทยาศาสตร์/ผู้สร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี (3) ผู้นำการปฏิรูป/ ผู้นำปฏิวัติ/ผู้นำทางการเมือง/ผู้นำจลาจล (4) ทหาร/ข้าราชการ/ ผู้ปกป้องแผ่นดิน (5) ผู้เปิดเส้นทางติดต่อโลกภายนอก (6) นักปรัชญา/นักคิด และ (7) อื่นๆ เช่น จิตรกร เป็นต้น จากจำนวนวีรชนทั้งหมดในหนังสือแบบเรียนนี้ พบว่า แบบเรียนประวัติศาสตร์มีการเขียนถึงฮ่องเต้ในประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณจำนวนมากที่สุด ส่วนแนวการเขียนวีรชนในแบบเรียนนั้น ผู้เขียนใช้กรณีจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นฮ่องเต้ที่ถูกอุทิศจำนวนหน้าเขียนมากที่สุด โดยมีการนำเสนอจิ๋นซีฮ่องเต้ทั้งในด้านดีและด้านที่เป็นความผิดพลาด เน้นแนวคิดทางการปกครองของจิ๋นซีฮ่องเต้ มีการสอดแทรกด้วยอุดมการณ์ความเป็นเอกภาพแห่งชาติ
- Publicationหานอี้ว์ : "เจ้าเมือง" "เจ้าพ่อ" "เจ้าที่"สุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์; 黃, 漢坤; Amornwanitsak, Surasit (2016)บทความนี้มุ่งศึกษาสถานะ “เจ้าเมือง” “เจ้าพ่อ” และ “เจ้าที่” ของหานอี้ว์ ซึ่งเป็น บุคคลสําคัญในประวัติศาสตร์จีนสมัยราชวงศ์ถัง การศึกษาพบว่าเนื่องด้วยคุณูปการต่าง ๆ นานาที่หานอี้ว์ได้ทําให้กับสังคมและประเทศชาติ โดยเฉพาะได้เดินทางมาปกครองพื้นที่เมือง แต้จิ๋วเป็นเหตุให้ได้รับการบูชาในฐานะเทพเจ้าในยุคต่อมา และในสมัยราชวงศ์ชิงหน่วยงาน ของราชสํานักหมิงและชิงจํานวนมากยังได้บูชาท่านในฐานะเทพ “เจ้าที่” อีกด้วย
- Publication中泰关系的新进展Zhang, Xizhen; 张, 锡镇 (2018)近两年来,“中泰一家亲”的友好合作关系继续发展,两国高层互访不断,政治互信日益深化,经贸关系不断加强,人文交流更加密切。中国连续五年成为泰最大贸易伙伴,是泰国第三大投资来源国,泰国是中国在东盟第三大贸易伙伴。这是中泰关系的大局。不过,在战略伙伴关系日益加深的同时,我们也不得不正视双边关系中某些消极因素,防微杜渐,以防损害友好关系大局。