ภาษาจีน : Chinese
Permanent URI for this community
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านภาษาศาสตร์ภาษาจีน การเรียนการสอนภาษาจีน การแปลภาษาจีน วรรณกรรมจีน และวัฒนธรรมจีน
Browse
Browsing ภาษาจีน : Chinese by browse.metadata.researchtheme1 "การสืบทอด เผยแพร่และการประยุกต์ใช้"
Now showing 1 - 18 of 18
Results Per Page
Sort Options
- Publicationกระบวนการจัดการความรู้ผ่านการถ่ายทอดความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนฮากกาออนไลน์: ความสำเร็จและความท้าทายศิริเพ็ญ อึ้งสิทธิพูนพร; กุมารี ลาภอาภรณ์; Ungsitipoonporn, Siripen; Laparporn, Kumaree (2016)www.hakkapeople.com เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อนําเสนอเรื่องราวของชาวฮากกา ซึ่งถือเป็นการอนุรักษ์สืบสานภาษา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คนรุ่นต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ทําให้ชาวฮากกา ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจในเรื่องของชาวฮากกา มาพูดคุยแลกเปลี่ยน หรือนําเสนอความคิดเห็นต่างๆ จนกลายเป็นชุมชนออนไลน์ที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และโต้ตอบกันไปมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาผู้เขียนมีประสบการณ์ทํางานกับกลุ่มชาติพันธุ์โดยมีพื้นที่ชุมชนชัดเจน แต่ยังไม่เคยทํางานกับกลุ่มคนผ่านเว็บไซต์ จึงนับเป็นความท้าทายทั้งในเชิงกระบวนการและการบริหารจัดการ ผู้เขียนได้เห็นความสําคัญของการถ่ายทอดความรู้ของชาวฮากกา โดยเฉพาะความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน (Tacit Knowledge) จึงทําให้เกิดงานวิจัยในโครงการ “พลังภาษาและวัฒนธรรมในการส่งเสริมการถ่ายทอดภูมิปัญญาอย่างยั่งยืน ผ่านชุมชนออนไลน์ : กรณีศึกษากลุ่มจีนฮากกา” โดยมีวัตถุประสงค์สําคัญเพื่อสนับสนุนศักยภาพของเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมในการฟื้นฟูภูมิปัญญา เพื่อยกระดับแหล่งเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมบนเว็บไซต์ ให้เป็นแหล่งศึกษาและอ้างอิงเชิงวิชาการได้และเพื่อสร้างชุดความรู้ภูมิปัญญาในรูปแบบต่างๆ บนเว็บไซต์ ด้านภาษาและวัฒนธรรม เป็นการฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะชุมชน จากการดําเนินการในโครงการวิจัยนี้ กระบวนการถ่ายทอดความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนฮากกาออนไลน์ นับว่าเป็นต้นแบบของกระบวนการจัดการความรู้ในสังคมดิจิตอลได้แบบหนึ่ง ผลการวิจัยพบว่า ผลสําเร็จของโครงการบรรลุเป้าหมายส่วนหนึ่ง โดยความสามารถของสมาชิกที่มีศักยภาพและความตั้งใจเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับชาวฮากกา เพื่อเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์จนทําให้เกิดผลสําเร็จ แต่ในระหว่างดําเนินงานมีปัญหาอุปสรรคหลายประการ เช่น สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบวิธีการเขียนบทความเชิงวิชาการ ทั้งยังเป็นการทําด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ จําเป็นต้องมีวิธีการให้กําลังใจที่ดีพอ จึงจะผลิตผลงานได้ อย่างไรก็ตาม ความสําเร็จที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งคือ การดําเนินงานโครงการวิจัยนี้ ทําให้ชาวฮากกาเกิดความรัก ความห่วงแหนในชาติพันธุ์ตนเอง ดังจะเห็นได้จากความอนุเคราะห์หลายๆ ด้าน จากสมาคม ฮากกาในจังหวัดที่ได้จัดกิจกรรม เสมือนเป็นพี่น้องกันโดยแท้
- Publicationกระบวนการสืบทอดประเพณีทางสังคมของชาวไทยเชื้อสายจีน ชุมชนตลาดบ้านใหม่ จังหวัดฉะเชิงเทราชนาภา เมธีเกรียงไกร; Maytheekriengkrai, Chanapha (2016)งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบ ความเปลี่ยนแปลงและกระบวนการสืบทอดประเพณีทางสังคมของชาวไทยเชื้อสายจีนชุมชนตลาดบ้านใหม่ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพผ่านแนวคิดเรื่องโครงสร้างครอบครัวแนวคิดด้านวัฒนธรรมและภาวะความทันสมัย ผลการศึกษาพบว่า ชาวไทยเชื้อสายจีนชุมชนตลาดบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ยังคงยึดถือปฏิบัติตามประเพณีของบรรพบุรุษชาวจีน ซึ่งในแต่ละรุ่นมีวิถีการปฏิบัติที่แตกต่างกันและปรับตัวไปตามความเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยมีปัจจัยด้านการผสมกลมกลืน การกลืนกลายทางวัฒนธรรมและภาวะความทันสมัยที่มีผลต่อความเชื่อ ค่านิยม การปฏิบัติและกระบวนการสืบทอดประเพณี แต่กระนั้นชุมชนตลาดบ้านใหม่ถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งทางด้านวัฒนธรรมและความเป็นชาติพันธุ์จีน เหตุเพราะมีศาสนสถานจีนและหน่วยงานภาครัฐเป็นแกนหลักในการส่งเสริมด้านการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณี การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของชาวชุมชนให้ดีขึ้น ก่อให้เกิดแรงผลักดันในการพัฒนาชุมชนให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตนที่เด่นชัด รวมถึงสืบสานและดำรงไว้ซึ่งประเพณีที่ดีงามของบรรพบุรุษชาวจีนสืบต่อไป
- Publicationการคงอยู่และการเปลี่ยนแปลงของเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรปราการธุมวดี สิริปัญญาฐิติ; Siripanyathiti, Thumwadee (2020)การวิจัยเรื่อง“การคงอยู่และการเปลี่ยนแปลงของเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรปราการ” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาเนื้อหาของเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนของชาวไทยเชื้อสายจีน และ2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการคงอยู่และการเปลี่ยนเเปลงเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรปราการงานวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวน 17คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มเป้าหมายแบบลูกโซ่ (Snow - ball) ซึ่งสามารถรวบรวมเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนในพื้นที่ศึกษาได้จำนวน 7 เพลง ได้แก่ 1) เพลงเฝิ่งยาเฝิ่ง (唪呀唪) 2) เพลง เหมินเจี่ยวโฉงกาน (门脚丛柑) 3) เพลงเทียนติ่งอี้จือจี (天顶一只鹅 ) 4) เพลงมู่หมีหมี (目眯眯) 5) เพลงเย่ว์กวงกวง (月光光) 6) เพลงฮั่วจินกู (火金蛄) และ 7) เพลงอี้จือจีจ่าย (一只鸡仔)โดยแบ่งตามสาระสำคัญของเนื้อเพลงออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) เนื้อหาเกี่ยวกับความรักและ การอวยพรของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็ก 2) เนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับสัตว์และพืชพันธุ์ผลไม้ 3) เนื้อหาเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกเสียใจ ตัดพ้อ และ 4) เนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพและอาหารการกิน ปัจจุบันเพลงกล่อมเด็กภาษาจีนในพื้นที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการไม่ได้มีความสำคัญเชิงบทบาทหน้าที่ต่อครอบครัวของชาวไทยเชื้อสายจีน กล่าวคือ ไม่ได้นำมาใช้ร้องกล่อมเด็ก เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการใช้ภาษาจีนถิ่น ลักษณะโครงสร้างครอบครัว วิถีชีวิต รวมถึงความ เจริญของเทคโนโลยีและสื่อบันเทิงต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เพลงกล่อมเด็กภาษาจีนหมดความสำคัญลงไป คงเหลือไว้เพียงคุณค่าเชิงสังคมวัฒนธรรมที่ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงสภาพวิถีชีวิต ค่านิยมต่างๆของชาวไทยเชื้อสายจีนในสมัยอดีตที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหาของเพลงกล่อมเด็ก
- Publicationการดำรงอยู่ การปรับตัว และการสืบทอดของศาลเจ้าจีนกวนอิมปุดจ้อ ในบ้านควนงาช้าง ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรังสุภาภรณ์ แซ่ลิ้ม; ชัยรัตน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง; Saelim, Supaporn; Wongkitrungruang, Chairat (2017)งานวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดำรงอยู่การปรับตัว และการสืบทอด ศาลเจ้ากวนอิมปุดจ้อ บ้านควนงาช้าง ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยใช้แบบ สัมภาษณ์เชิงลึก เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลัก 8 คน อันประกอบด้วย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลเจ้า ประชาชนที่มาใช้บริการศาลเจ้าและชาวบ้านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลเจ้า ข้อมูลที่ได้นำไปวิเคราะห์ด้วยวิธีการเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ประการที่ 1 การดำรงอยู่ของศาลเจ้าเกิดจากการที่ศาลเจ้าและชาวบ้านมีรูปแบบความเชื่อความศรัทธา ที่ตรงกันโดยมีศาลเจ้าเป็นแหล่งประกอบพิธีกรรม ก่อให้เกิดเป็นการขับเคลื่อนให้ศาลเจ้าดำรง อยู่ได้ ประการที่ 2 การปรับตัวของศาลเจ้าเป็นความพยายามที่คงรูปแบบเดิมไว้มากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวให้เข้ากับความเจริญและเทคโนโลยี ประการที่ 3 ยังพบว่า ศาลเจ้า มีผู้สืบทอดด้วยการรับช่วงต่อตำแหน่งต่าง ๆ ตลอดเวลา ส่วนตำแหน่งเจ้าของศาลเจ้าก็ได้มี การวางตัวผู้ที่จะมาสืบทอดในอนาคตไว้แล้ว
- Publicationการธำรงอัตลักษณ์และความทรงจำร่วมจากวรรณกรรมจีนสำหรับการแสดงงิ้วแต้จิ๋วในสังคมไทยอรอนงค์ อินสอาด; Insaard, Onanong (2020)งานวิจัยนี้ศึกษาวรรณกรรมจีนในการแสดงงิ้วแต้จิ๋วปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวรรณกรรมและประเภทของวรรณกรรมจีนที่ใช้แสดงงิ้วแต้จิ๋วในสังคมไทย และวิเคราะห์การธำรงอัตลักษณ์และความทรงจำร่วม โดยใช้วิธีการวิจัยโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากคณะงิ้วจำนวน 3 คณะ คือ คณะซิงตงเจี่ยสูงเฮีย คณะไว่หย่งฮง และ คณะเล่าซาเจี้ยสุง ผลการศึกษาพบว่า ปัจจุบันทั้ง 3 คณะ มีการนำวรรณกรรมจีนมาใช้เป็นบทละครแสดงงิ้ว แบ่งประเภทของเนื้อเรื่องวรรณกรรมจีนเป็น 2 ประเภท คือ เรื่องจากประวัติศาสตร์และพงศาวดาร และเรื่องจากนิทานพื้นเมืองแต้จิ๋ว การเรื่องจากนิทานพื้นเมืองแต้จิ๋วมาแสดงเป็นจำนวนมากในปัจจุบันเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงการ การพยายามธำรงอัตลักษณ์ของชาวจีนแต้จิ๋วโดยการผลิตซ้ำความทรงจำเกี่ยวกับวรรณกรรมจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นสิ่งผู้ชมรับรู้ร่วมกัน ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชาวจีนแต้จิ๋วได้สร้างอดีตของตนผ่านความทรงจำร่วมคือการอนุรักษ์งิ้วแต้จิ๋วให้เป็นศิลปะการแสดงที่เป็นสายใยยึดโยงทุกกิจกรรมของชาวจีนแต้จิ๋ว
- Publicationการรับรู้อารยธรรมจีนโบราณผ่านประวัติศาสตร์นิพนธ์และโบราณคดีกรพนัช ตั้งเชื่อนขันธ์; Tungkeunkunt, Kornphanat (2017)บทความนี้มุ่งศึกษาพัฒนาการของประวัติศาสตร์นิพนธ์เกี่ยวกับอารยธรรมจีนในยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคโบราณตลอดจนอภิปรายความเคลื่อนไหวทางโบราณคดีที่นำไปสู่การสร้างกรอบคำอธิบายใหม่ในการทำความเข้าใจที่มาของความเป็นจีนในปัจจุบัน นอกจากนี้ บทความยังแสดงให้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางโบราณคดีและการศึกษาประวัติศาสตร์จีนโบราณ ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในการรับรู้เกี่ยวกับอารยธรรมและประวัติศาสตร์จีน
- Publicationการสืบทอดความเป็นจีนผ่านการทำความเข้าใจในความหมายและสัญลักษณ์ทางศาสนาของชาวจีนสู่ลูกหลานในสังคมไทยเรือนแก้ว ภัทรานุประวัติ; Pattranupravat, Ruenkaew (2015)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการดำรงอยู่ของลักษณะความเป็นจีนในสังคมไทยเน้นรูปแบบแะวิธีการสืบทอดความเป็นจีนของชาวจีนสู่ลูกหลานที่เกิดในสังคมไทย ความรู้ ความเข้าใจในการถ่ายทอดความหมายของเทศกาลและขนบธรรมเนียม ประเพณีจีนที่สำคัญ รวมทั้งการวิเคราะห์ชาวไทยเชื้อสายจีนในบริบทสังคมไทย การศึกษาเก็ยข้อมูลโดยแบบสอบถามนักเรียนที่กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษา จำนวน 282 คน และการสัมภาษณ์แบบลึกชาวจีนจำนวน 30 คนในจังหวัดสมุทรสงคราม ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเชื่อ ความศรัทธา ในเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชาวจีนส่วนใหญ่ยังมีธรรมเนียมการไหว้เจ้าในวันพระจีน และบรรพบุรุษในวันเช็งเม้ง เทศกาลที่มีการปฏิบัติตามธรรมเนียมของครอบครัว ได้แก่ ตรุษจีนและสารทจีน ส่วนเทศกาลอื่นๆ จะแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว กลุ่มตัวอย่างส้วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจในความหมายของเทศกาลตรุษจีน สารทจีน กินเจและไหว้เจ้าปลายปี รูปแบบการสืบทอดเทศกาลและประเพณีของชาวจีนทำทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัญหาการสืบทอดอยู่ที่รูปแบบการสืบทอดของชาวจีนทำทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัญหาการสืบทอดอยู่ที่รูปแบบการสืบทอดของชาวจีนมีลักษณะไม่เป็นทางการ ไม่เป็นระบบ ไม่ครบถ้วน ปัจจัยที่สนับสนุนให้การสืบทอดความเป็นจีนประสบผลสำเร็จ คือ การแก้ไขความบกพร่องของการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมากพอระหว่างคนแต่ละรุ่นอายุ กระบวนการขัดเกลาภายในครอบครัว การปลูกฝังให้ตระหนักถึงความเป็นลูกหลายจีน การเน้นย้ำความสำคัญที่ต้องสืบทอดเพื่อการดำรงอัตลักษณ์ของความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์
- Publicationบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีต่อการส่งเสริมสืบทอดอัตลักษณ์ ชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนในจังหวัดภูเก็ตวันจรัตน์ เดชวิลัย; ทวนธง ครุฑจ้อน; Dachwilai, Wancharat; Krutchon, Thuanthong (2014)การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะและปัจจัยการสื่อสารทางวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยในการสืบทอดอัตลักษณ์จากบรรพบุรุษถึงอนุชนรุ่นหลังในจังหวัดภูเก็ต 2) ศึกษาบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการกำหนดนโยบายการจัดทำแผนพัฒนาและแผนการดำเนินงานในการส่งเสริมสืบทอดอัตลักษณ์ชาวไทยเชื้สายจีนฮกเกี้ยนในจังหวัดภูเก็ต 3) ศึกษาบทบาทที่ดี (Good practice) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการส่งเสริมสืบทอดอัตลักษณ์ชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนในจังหวัดภูเก็ต ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะและปัจจัยการสื่อสารเพื่อการสืบทอดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการกำหนดนโยบายการจัดทำแผนพัฒนาและแผนประจำปีที่เกี่ย วข้องกับการส่งเสริมสืบทอดตามระเบียบที่กำหนดสำหรับบทบาทที่ดี (Good practice) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต มี 3 โครงการ คือ โครงการร่วมอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต (พ้อต่อ) ของเทศบาลนครภูเก็ต โครงการถือศีลกินผักของเทศบาลเมืองกะทู้ และโครงการถือศีลกินผักขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว บทเรียนสำคัญที่ได้จากงานวิจัย คือ การมีวิสัยทัศน์ของผู้บริหารการบริหารจัดการวัฒนธรรมท้องถิ่นเชิงระบบและต่อเนื่อง และท้องถิ่นมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นต้นแบบการดำเนินงานทางวัฒนธรรมที่ดีข้อค้นพบจากงานวิจัย คือ ประชาชนต้องการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งเสริมสนับสนุนศิลปวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนให้มากขึ้น โดยมีการสื่อสารสืบทอดในเชิงสัญลักษณ์ที่ผ่านระบบคุณค่าความคิด ความเชื่อประเพณีพิธีกรรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์ของชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนอย่างยั่งยืน
- Publicationบทวิเคราะห์การดำรงรักษาอัตลักษณ์วัฒนธรรมจีนในไทยผ่านสถาบันสำคัญทางสังคมกิตตินันท์ เครือแพทย์; เกษตรชัย และหีม; วันชัย ธรรมสัจการ; Krueaphat, Kittinan; Laeheem, Kasetchai; Dhammasaccakarn, Wanchai (2021)บทความวิชาการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการศึกษาการดำรงรักษาอัตลักษณ์วัฒนธรรมจีนในไทยผ่านสถาบันสำคัญทางสังคมโดยนำเสนอผ่านการวิเคราะห์ สังเคราะห์ตามมุมมองของแนวคิดทฤษฎี และวิพากษ์เพื่อให้เกิดความหมายใหม่ การศึกษาครั้งนี้พบว่าสถาบันทางสังคมมีความสำคัญในด้านบทบาทและหน้าที่ดังนี้ ประการแรก การอบรมบ่มเพาะของครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันทางสังคมพื้นฐานมีการขัดเกลาให้เกิดการเล็งเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมจีน ตลอดจนมีการถ่ายทอดทั้งทางตรงและทางอ้อม ประการที่สอง การสนับสนุนของสถาบันการศึกษา มีความสำคัญในด้านให้ความรู้ความเข้าใจและการส่งเสริมกิจกรรมทางวิชาการผ่านการเรียนในรายวิชา และการจัดกิจกรรมต่างๆ ทางวัฒนธรรมจีน ประการที่สาม การให้คำปรึกษาและการดำเนินพิธีกรรมของศาลเจ้าจีน ศาลเจ้าจีนทำหน้าที่เป็นสถาบันความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันประกอบพิธีกรรมต่างๆ และเป็นแหล่งพบปะของชาวไทยเชื้อสายจีน ประการที่สี่ การส่งเสริมรายจ่ายของภาครัฐ ประกอบด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมให้เป็นการท่องเที่ยวและโครงการคืนภาษีในเทศกาลสำคัญ ประการที่ห้า การจัดเทศกาลและความกลมเกลียวของสมาคมชาติพันธุ์จีน สมาคมชาติพันธุ์จีนมีหน้าที่เพื่อดำรงรักษาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมจีนในต่างแดนของชาวจีนที่อพยพมาประเทศไทย ทั้งยังเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ เช่น การเป็นมูลนิธิ การให้ทุนการศึกษา และการสนับสนุนงานเทศกาล
- Publicationเปอรานากัน : บาบ๋า-ย่าหยามรดกทางวัฒนธรรมสายเลือดลูกผสมมลายู-จีนอติยศ สรรคบุรานุรักษ์; ศศิณัฎฐ์ สรรคบุรานุรักษ์; Sankaburanurak, Atiyot; Sankaburanurak, Sasinat (2018)เปอรานากัน สายเลือดลูกผสมระหว่างมลายูและจีน ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในแถบมลายูและพื้นที่ชายฝั่งทะเลของเกาะชวาและเกาะสุมาตราในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ในช่วงศตวรรษที่ 19 เปอรานากันอพยพเข้ามาในเขตท่าเรือของปีนังและสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในช่วงขยายอาณานิคมของอังกฤษ ชาวเปอรานากันประสบความสำเร็จในฐานะพ่อค้าจนกลายมาเป็นนักทำการค้ามืออาชีพในเวลาต่อมา ชุมชนชาวเปอรานากันถูกขนานนามว่า ช่องแคบจีน (Straits Chinese) หรือบาบ๋า ย่าหยา คำที่ใช้เรียกสายเลือดลูกผสมระหว่างมลายูและจีนที่ถือกำเนิดและอาศัยในแถบคาบสมุทรมลายู-อินโดนีเซีย อันได้แก่ เมืองมะละกา เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์และหมู่เกาะชวาอินโดนีเซีย คำว่า บ้าบ๋า เป็นคำที่มาเลย์ยืมมาจากภาษาเปอร์เซีย แปลว่า การให้เกียรติ บรรพบุรุษ และถูกนำมาใช้เรียกชาวจีนเลือดผสมที่เป็นเพศชาย และคำว่า ย่าหยา นำมาใช้เรียกชาวจีนเลือดผสมที่เป็นเพศหญิง ซึ่งเป็นคำที่ชาวชวายืมมาจากภาษาอิตาลี แปลว่า หญิงต่างขาติที่แต่งงานแล้ว หรืออาจจะมาจากภาษาโปตุเกสที่แปลว่าคุณผู้หญิง บทความนี้นำเสนอประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตและความผสมผสาน ความเป็นพหุวัฒนธรรมของเปอรานากันสายเลือดลูกผสมระหว่างมลายูและจีน
- Publicationพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงในการนำเสนอวัฒนธรรมความเป็นจีนผ่านแบบเรียนภาษาจีนสำหรับผู้เรียนชาวต่างชาติสยุมพร ฉันทสิทธิพร; Chanthsithiporn, Sayumporn (2020)ปี ค.ศ. 2005 รัฐบาลจีนยกระดับการสอนภาษาจีนเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ แบบเรียนภาษาจีนจึงต้องมีกลยุทธ์นำเสนอความเป็นจีนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอำนาจอ่อนทางวัฒนธรรม การวิจัยนี้มุ่งเปรียบเทียบแบบเรียน 2 ชุด ที่จัดพิมพ์ห่างกัน 10 ปี Hanyu Jiaocheng (1999) และ Road to Success (2008) ซึ่งพิมพ์ขึ้นหลังจากการยกระดับการสอนภาษาจีนขึ้นเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของแบบเรียนที่ผลิตขึ้นในเวลา ที่ต่างกัน กระบวนการวิจัยเน้นวิจัยเอกสารเป็นหลัก เปรียบเทียบการนำเสนอความรู้ด้านวัฒนธรรมที่ปรากฏในแบบเรียน โดยแบ่งวัฒนธรรมเป็น 3 มิติ ได้แก่ วัฒนธรรมด้านผลผลิต ด้านพฤติกรรม และด้านความคิด อีกทั้งใช้เครื่องมือเชิงสถิติมาตรวจสอบความถี่ของคำศัพท์ที่ปรากฏในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 3 มิติ ดังกล่าว พบว่าแบบเรียนชุด Hanyu Jiaocheng แม้นำเสนอวัฒนธรรมมิติความคิดได้โดดเด่นและสนุก แต่นำเสนอวัฒนธรรมมิติพฤติกรรมและมิติผลผลิตไม่ชัดเจนนัก ผู้เรียนไม่ได้รับองค์ความรู้ในเชิงลึก ส่วนแบบเรียน Road to Success จะเน้นมิติพฤติกรรมที่นำเสนอเรื่องราวของคนหลายกลุ่มในสังคม ส่วนด้านอื่น ๆ ก็พบว่านำเสนอได้ค่อนข้างลุ่มลึก บูรณาการประเด็นวัฒนธรรมหนึ่ง ๆ ได้รอบด้าน ทำให้ผู้เรียนเข้าใจมากกว่าแค่ประเทศจีนมี “อะไร” และยังสามารถเข้าใจได้ว่า “อย่างไร” หรือ “เพราะเหตุใด” อีกทั้งแบบเรียนนำเสนอคุณธรรมที่เป็นสากลมากขึ้น เน้นให้ผู้เรียนเห็นภาพสังคมจีน แต่ไม่ตัดสินคุณค่าให้เหมาะกับผู้เรียนหลากหลายวัฒนธรรม สามารถเป็นกรณีศึกษาในการผลิตแบบเรียนภาษาอื่นได้
- Publicationภาพสะท้อนการสื่อสารของรัฐบาลเพื่อการฟื้นฟูวัฒนธรรมความเอื้อเฟื้อในสังคมจีนปัจจุบันนริศรา แสงเทียน; เมชฌ สอดส่องกฤษ; Seangtian, Narissara; Sodsongkrit, Metcha (2017)ประวัติศาสตร์ทางการเมืองอันเลวร้ายและปัจจัยทางสังคมที่หนักหน่วงเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้สังคมจีนปัจจุบันขาดความเอื้อเฟื้อต่อกันในระดับวิกฤต ทำให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีความสุข รัฐบาลจีนตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวนี้จึงได้เร่งดำเนินนโยบายด้านคุณธรรมของประชาชนเพื่อสร้างจิตสำนึกในเรื่องความเอื้อเฟื้อ โดยหวังที่จะสร้างสังคมที่สงบสุขให้เกิดขึ้นในอนาคต บทความนี้นำเสนอประเด็นความเอื้อเฟื้อในสังคมจีนโดยแบ่งหัวข้อเป็นสี่เรื่อง ได้แก่ 1.อุดมคติและการแสดงออกทางวัฒนธรรมความเอื้อเฟื้อของสังคมจีน 2.ความท้าทาย 3. นโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างคุณธรรมความเอื้อเฟื้อ และ 4.บทสรุป ความคาดหวังในเรื่องความเอื้อเฟื้อของสังคมจีนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประกอบขึ้นด้วยความเอื้อเฟื้อทางสังคมสามมิติ ได้แก่ ศีลธรรมนำสังคม จริยธรรมสัมมาชีพ และคุณธรรมนำครอบครัว
- Publication中国传统文化在泰国的传播研究Xu, Weijie; 徐, 伟杰 (2020)孔子学院与在泰国的中国汉语教师作为中国传统文化在泰国的主要传播者,为泰国的汉语教学与文化传播工作贡献了巨大力量。本文以孔子学院和在泰中国汉语教师为研究对象,通过访问的方式对其在泰国传播中国传统文化的传播动机、传播方式进行调查分析,对中国传统文化在泰国的传播现状进行了探讨。
- Publication中国文化思想在泰国传播渠道研究以翻译作品与篇章为例Lin, Raomei; 林, 饶美; ศิริวรรณ ลิขิตเจริญธรรม (2017)中国文化思想在泰国得以传播的因素主要有两点:一是移民到泰国的华人华侨,二是在泰国传播的中国作品,尤其是曼谷拉玛一世王统治时期出现的中泰翻译作品。起初,几乎没有中泰双语非常好的翻译者,为此泰国朝廷便使用了很特别的方法来解决。首先让精通汉语的华人把作品翻译成简单的泰文,然后再让泰国诗人写成文言文。后来,随着西方文化逐渐传入泰国,中国文化思想的传播也慢慢受到影响,尤其是泰中两国关系经历曲折时,与中国有关的一切都受到了巨大影响。如今,泰中两国关系恢复正常,而且比以往更亲密、更频繁,目前与中国有关的一切在泰国都很受欢迎,这是中国文化思想在泰国传播的重要因素。
- Publication中國與泰國的地緣文化關係研究——史前時期至19世紀Chen, Kai; 陳, 鍇 (2019)地緣文化關係是指,特定區域內的行為主體在器物、制度和觀念三個層面形成的文化關係。本文分析了影響中國與泰國的地緣文化關係的三個要素,即華僑華人、跨境通道與佛教文化。 接下來,本文從器物、制度和觀念三個層面,梳理中國與泰國地緣文化關係,從史前時期至19世紀的發展脈絡。
- Publication从中国汉语教师的视角看中国传统文化在泰国学校的传播Xu, Weijie; 徐, 伟杰 (2021)在泰国的中国汉语教师作为中国传统文化在泰国的主要传播者,为泰国的汉语教学与文化传播工作贡献了巨大力量。本文研究的重点是对在泰中国汉语教师在教学过程当中对中国传统文化的传播情况进行调查,对传播过程中所遇到的问题和障碍,总结出一些具体的解决方法,为在泰国的中国传统文化传播工作和汉语教学工作提供参考。本文在20所大、中小学中选取了45位中国籍汉语教师,通过访谈的方式收集数据,分析了中国传统文化在泰国的传播现状和传播过程中存在的问题,以及中国传统文化教学对泰国汉语教学所产生的促进作用。从分析结果中得出结论:中国传统文化在泰国的传播情况良好,泰国的学校在汉语语言教学的基础上,逐渐增加文化教学与文化活动的比重,但是依然存在有文化教材、教具方面不足的问题。教师作为中国传统文化的传播者,不仅需要提升自身的文化素养,还应该针对不同的学生采取更合适的教学方式,从而更好地传播中国文化,并且通过文化教学来促进学生汉语水平的整体提升。
- Publication泰國曼谷三奶夫人廟與客家族群的關係及其創建時間考Wu, Yunlong; 吳, 雲龍; อวิ๋นหลง อู๋ (2018)泰國曼谷的三奶夫人廟,是泰國曼谷地區(京、吞兩府)境內唯一一座祭祀陳、林、李三位夫人的神廟,其座落於泰國曼谷市吞武里地區他輦鈴路405號。當前,該廟隸屬於泰國客家總會下轄的神廟保管委員會管理。據現存最早的文字資料及口述史記載,該廟或創建於1847年(清道光二十七年),或創建於1847年之前。三奶夫人廟,是三奶夫人信仰的集中體現,也是三奶夫人信仰得以實踐的重要場合,因此三奶夫人廟實際屬於三奶夫人信仰的物質載體。三奶夫人信仰源自中國福建地區,是以福建西南為中心的,江西南部、湖南東部、廣東北部地域範圍內,客家人與閩南人的重要神祗信仰之一。所以,三奶夫人信仰與三奶夫人廟能夠在曼谷落地生根,必然與閩粵地區華人華僑遷徙泰國,乃至東南亞的歷史有著密不可分的關係。因而,欲確定泰國曼谷三奶夫人廟創建的準確時間,必然須先從三奶夫人信仰及該廟與移民泰國的客家族群之間的關係入手,只有理清該信仰及宮廟的來源和來歷,才能在藉助廟宇內相關碑銘、匾額、鐘銘、經文,以及文獻的情況下,真正確鑿無誤地判斷出曼谷三奶夫人廟的創建時間。
- Publication"龙文化” 的地位分析以及在对外汉语教学中的传播策略Liu, Yingnan; 刘, 英楠 (2017)龙一直都是中国人所为之骄傲的图腾,同时也是中国传统文化象征意义的典型代表。谈到中国传统文化就不能不谈到中国的龙,然而龙的地位在中国传统文化中是如何体现的呢?在对外汉语教学中又如何提高龙文化的认识呢?我们将在这里进行分析。