การสอนภาษาจีน
Permanent URI for this collection
บทความวิจัย และบทความวิชาการด้านการเรียนการสอนภาษาจีน วิธีการสอน กระบวนการเรียนรู้ภาษาจีน การสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน ฯลฯ
Browse
Browsing การสอนภาษาจีน by browse.metadata.researchtheme1 "สื่อประกอบการสอน กิจกรรมและสื่อการเรียนรู้"
Now showing 1 - 20 of 41
Results Per Page
Sort Options
- PublicationSome Suggestions on Localized Chinese Textbook Compiling: An Analysis of Basic ChineseWang, Shuhua; Mayoe, Artoe (2013)Basic Chinese is a series of local Chinese textbooks which have been better received than other kinds in Thailand. Through analyzing the sales volume, styles, texts, words, exercises, grammar, culture elements, the advantages and disadvantages of it, this paper offers suggestions in compiling localized Chinese textbooks in Thailand on the following aspects. First, cooperation with the Chinese language teaching experts should be a prerequisite for high-quality local Chinese textbooks. Second, adaptive use of different pedagogies should be used to help teaching. Besides, contrastive analysis of Thai and Chinese may help to reflect the surface features and in-depth features of the localized textbooks in the composing parts of the textbooks. Furthermore, a Thai-Chinese corpus can ensure that localized textbooks are designed with proper difficulty. Also related supporting para-teaching materials should be devised and proper update should be made when new editions of the textbooks come out.
- PublicationThe Comparison between the Use of Audio-Visual Methods and Audio-only Methods in Improving Learners’ Listening Proficiency in Chinese as a Second Language ClassroomsWang, Chunyu (2022)Video has been widely used in teaching listening skills to second language learners. However, research on its use for the teaching of listening skills in Chinese as a second or foreign language (CSL/CFL) context is limited. This research aimed to evaluate the effectiveness of using audio-visual materials and audio-only materials in improving students’ listening skills in CSL classrooms. The participants were divided into two groups, the control group (CG) (audio-only) and the experimental group (EG) (audio-visual), each containing 30 participants from different academic years. They were enrolled in the same Chinese listening class (HSK Level 4 to 5) at a university in Thailand. The data was generated using four question types, namely: 1) overall comprehension (OC), 2) true or false (T&F), 3) multiple choice (MC), and 4) vocabulary (VOC). The average scores from the term were subjected to Independent Samples T-tests. The results revealed a statistically significant increase in the average score of the EG group (OC/T&F/MC). In contrast, the CG group showed a significant difference from the EG group in terms of audio-only for the vocabulary questions (VOC). The study suggests that using audio-visual materials can be an effective method to teach listening skills in CSL/CFL, yet the results were inconclusive for the acquisition of vocabulary.
- Publicationการประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อนด้านภาษา ศิลปะและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรศศิณัฎฐ์ สรรคบุรานุรักษ์; Sankaburanurak, Sasinat (2016)งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมในด้านบริบทได้แก่ วัตถุประสงค์ของหลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาการสอนภาษาจีนในฐานะภาษาต่างประเทศ ที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นและวัตถุประสงค์ของโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษา ศิลปะและวัฒนธรรมจีน ของสาขาการสอนภาษาจีนในฐานะภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านปัจจัยเบื้องต้นได้แก่ ด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และการบริหารจัดการของโครงการ 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ ได้แก่ การติดตามผล การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมเผยแพร่วัฒนธรรม 4) เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ด้านภาษา ศิลปะและวัฒนธรรมจีน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครู เจตคติต่อวิชาชีพของผู้ร่วมโครงการ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า การประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สรุปเป็นรายด้าน ตามรูปแบบการประเมินโครงการของCIPP Model ได้ดังนี้ 1. ผลการประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านบริบท โดยภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมาก ( = 3.76, S.D.=0.08) 2. ผลการประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมาก ( = 3.67, S.D.= 0.06) 3. ผลการประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านกระบวนการ โดยภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมาก ( = 3.73, S.D.=0.05) 4. ผลการประเมินโครงการศึกษาดูงานภาคฤดูร้อน ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านผลผลิต โดยภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับมาก ( = 3.87, S.D.=0.04)
- Publicationการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality : AR) กับการเรียนภาษาจีน : กรณีศึกษานักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีพิชัย แก้วบุตร; 世, 玉; Kaewbut, Pichai (2019)ความท้าทายของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 คือการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานและการเรียนรู้ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีบนฐานข้อมูลที่ผู้เรียนสามารถสืบค้นได้ไม่มีที่สิ้นสุดการเรียนวิชาภาษาจีนเป็นรายวิชาหนึ่งที่ผู้เรียนมักมีทัศนคติเชิงลบ ด้วยความยากของเนื้อหาหรือระบบการเขียนอักษรจีน ทำให้ผู้เรียนขาดความสนใจในการเรียนวิชาภาษาจีน บทความวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality : AR) กับการเรียนการสอนวิชาภาษาจีน (2) เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาจีนรูปแบบใหม่ และ (3) เพื่อศึกษาทัศนคติของนักศึกษาต่อการเรียนภาษาจีนรูปแบบใหม่ ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ หลักสูตรภาษา การสื่อสารและธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ในรายวิชาการสื่อสารภาษาจีน ทางธุรกิจ (Chinese for Business Communication) จำนวน 103 คน และคัดเลือกนักศึกษาจำนวน 30 คน แบบไม่เจาะจงเฉพาะเพื่อสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า จากสถิติแบบสอบถามคิดเป็นร้อยละ 98.1 และผลสรุปสถิติ การสัมภาษณ์เชิงลึกคิดเป็นร้อยละ 100 นักศึกษาเห็นว่าเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมีประโยชน์และมีส่วนช่วยในการเรียนรู้ภาษาจีนในมิติต่างๆ เป็นอย่างมากเหมาะสมต่อ การนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนวิชาภาษาจีน และเหมาะสมที่จะต้องส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในแนวทางในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาจีนรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถจัดทำได้ในรายวิชาภาษาจีนเฉพาะทางและในการประยุกต์ใช้ในเนื้อหาต่างๆ ของรายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน เช่น สัทอักษรจีน (พินอิน) คำศัพท์ บทสนทนา เป็นต้น นอกจากนี้นักศึกษาส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีกับการเรียนภาษาจีนมากยิ่งขึ้น
- Publicationการพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การแยกแยะอักษรจีนที่มีลักษณะคล้ายกันสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลับราชภัฏนครปฐมนัฎฤดี ปั้นกิจวานิชเจริญ; Pankitwanitjalearn, Natrudee (2020)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การแยกแยะอักษรจีนที่มีลักษณะคล้ายกันสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม พร้อมทั้งศึกษาเจตคติของนักศึกษาต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือนักศึกษาสาขาวิซาภาษาจีน ชั้นปีที่ 3 จำนวน 30 คน และใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบจำเพาะเจาะจง (Purposive Sampling ในการหาประสิทธิภาพชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC จากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ที่มีค่าดัชนีตั้งแต่ 0.67 ขึ้นไป และค่าความยากง่าย (P) ระหว่าง 0.30 - 0.70 ค่าอำนาจจำแนก (D) ตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป และค่าความเชื่อมั่น (α) .90 โดยผลการวิจัยพบว่าประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง E,/E2 เท่ากับ 87.89/86.28 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตราฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 และระดับความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ในระดับดีมาก คือ 4.39
- Publicationการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะภาษาจีนแบบบูรณาการโดยใช้บริบทของชุมชนเบญจอาภา พิเศษสกุลวงศ์; Phisetsakunwong, Benja-arpa (2018)งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะภาษาจีนแบบบูรณาการโดยใช้บริบทของชุมชน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาจีนของนักศึกษาก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรม 3) เพื่อศึกษาเจตคติของนักศึกษาที่มีต่อชุดกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ที่เรียนวิชาภาษาจีนระดับกลาง ปีการศึกษา 2/2559 จำนวน 16 คนได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 4 ชุดคือ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะภาษาจีนแบบบูรณาการโดยใช้บริบทของชุมชน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของชุดกิจกรรม 3) แบบประเมินผลงานนักศึกษา และ 4) แบบสอบถามเจตคติที่มีต่อชุดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความยากง่าย และค่าประสิทธิภาพ ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะภาษาจีนแบบบูรณาการโดยใช้บริบทของชุมชนมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.46/81.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 2) นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรม และมีร้อยละของความก้าวหน้าเท่ากับ 20.21 3) จากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะภาษาจีนแบบบูรณาการโดยใช้บริบทของชุมชนสามารถสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาจีนของนักศึกษาได้ เห็นได้จากค่าเฉลี่ยแบบสอบถามได้เท่ากับ 4.43 อยู่ในระดับมาก
- Publicationการพัฒนาชุดกิจกรรมที่เน้นกลวิธี SQ4R เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาจีน และทักษะการคิดแบบอภิปัญญาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5อรวรรณ กิจชาลารัตน์; วรรณิดา ถึงแสง; ผจงกาญจน์ ภู่วิภาดาวรรธน์; Kitchalarat, Orawan; Thungsang, Wannida; Phuvipadawat, Pachongkarn (2020)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมที่เน้นกลวิธี SQ4R เพื่อส่งเสริมทักษะ การอ่านภาษาจีนและทักษะการคิดแบบอภิปัญญาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) ศึกษาทักษะการอ่านภาษาจีนของนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นกลวิธี SQ4R 3) ศึกษา การควบคุมกำกับการรู้คิดในขณะอ่านของนักเรียน และ 4) ศึกษาความสามารถการตั้งคำถามระดับสูง ของนักเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นกลวิธี SQ4R กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนที่เรียนแผนการเรียนศิลป์ภาษาจีน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 20 คน โดยการเลือกตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมที่เน้นกลวิธี SQ4R เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาจีน และทักษะการคิดแบบอภิปัญญาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) แบบวัดทักษะการอ่าน ภาษาจีนแบบอัตนัย 3) แบบประเมินพฤติกรรมตนเองสำหรับนักเรียนเกี่ยวกับการแสดงออกถึง การควบคุมกำกับการรู้คิดในขณะอ่านระหว่างปฏิบัติตามขั้นตอนการเรียนรู้จากชุดกิจกรรมที่เน้น กลวิธี SQ4R และ 4) แบบวัดความสามารถของนักเรียนในการตั้งคำถามระดับสูงและตอบคำถาม โดยกำหนดเกณฑ์คุณภาพรูบริคส์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย () ของคะแนนและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทำการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test (Paired Test) ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ผลการวิจัยปรากฏว่า ชุดกิจกรรมมีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.03/88.61 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .05 ทักษะการคิดแบบอภิปัญญาด้านการควบคุมกำกับการรู้คิด มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 33 แปลความหมายว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีการปฏิบัติตามขั้นตอนในชุดกิจกรรมระดับดี และทักษะการคิดแบบอภิปัญญาด้านความสามารถในการตั้งคำถามระดับสูง มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 3.00 แปลความหมายว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความสามารถในการตั้งคำถามระดับสูงอยู่ในระดับ ดีมาก
- Publicationการพัฒนาชุุดการเรียนรู้ภาษาจีนสำหรับนักเรียน ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่นของจังหวัดฉะเชิงเทรา : กรณีศึกษาโรงเรียนวัดหัวไทรเสี่ยวซิน เสอ; ชนิกานต์ รัตนชัยไพศาล; สุจรรยา ธิมาทาน; สุปภาดา อินทรบงกด; เจียวเยว่ เจ้า; She, Xiaoxin; Rattanachaipaisankul, Chanikan; Thimathan, Sujanya; Indrabongkot, Supaphada; Zhao, Jiaoyue (2020)การวิจัยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ภาษาจีน สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา: กรณีศึกษาโรงเรียนวัดหัวไทร ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผสสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาจีนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ภาษาจีน สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา: กรณีศึกษาโรงเรียนวัดหัวไทร ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาจีนด้วยชุดการเรียนรู้ภาษาจีน สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา: กรณีศึกษาโรงเรียนวัดหัวไทร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในโรงเรียนวัดหัวไทร ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดการเรียนรู้ภาษาจีนโดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทรา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาจีน และแบบวัดเจตคติที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาจีน ผลการวิจัยพบว่า (1) ประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ภาษาจีนโดยบูรณาการข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา มีค่าเท่ากับ 80.57/81.07 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาจีนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ภาษาจีน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) เจตคติที่มีต่อการเรียนภาษาจีนของนักเรียนอยู่ในระดับดี
- Publicationการพัฒนาเว็บไซต์คอมพิวเตอร์สำหรับเพิ่มพูนทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 กรณีศึกษาสำนักวิชาจีนวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงพงศธร คำน้อย; 彭, 少纯; Kamnoi, Pongsathorn (2020)การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเว็บไซต์คอมพิวเตอร์ที่สำหรับการพัฒนาทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาจีนวิทยา 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้เว็บไซต์คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีนของนักศึกษาชั้นปีที่1 สำนักวิชาจีนวิทยา 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนการสอนโดยใช้เว็บไซต์คอมพิวเตอร์ในการฝึกทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีน ประชากรกลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาสำนักวิชาจีนวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา Foundation Chinese I ในภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2561 จำนวน 193 คน เครื่องมือที่ใช้วิจัยในครั้งนี้คือ 1) เว็บไซต์คอมพิวเตอร์สำหรับเพิ่มพูนทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีน 2) แบบทดสอบทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์จีน หลังใช้เว็บไซต์คอมพิวเตอร์พัฒนาทักษะภาษาจีน 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อเว็บไซต์คอมพิวเตอร์พัฒนาทักษะภาษาจีน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และ One sample T-Test ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาระบบเว็บไซต์(website system) สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี มีองค์ประกอบหรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องและตรงตามความต้องการของนักศึกษาและทำให้นักศึกษาเกิดความอยากเรียนรู้ กระตือรือร้นในการฝึกทักษะภาษาจีนของตนเองมากยิ่งขึ้น 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้เว็บไซต์พัฒนาทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีนโดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หากพิจารณารายด้านพบว่า ผลการทดสอบด้านการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีน สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจของนักศึกษาหลังจากใช้เว็บไซต์พัฒนาทักษะการฟัง การอ่าน และไวยากรณ์ภาษาจีนโดยมีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมเท่ากับ 3.88 กล่าวคือ นักศึกษามีความพึงพอใจในระดับมาก และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยรวมเท่ากับ 0.76 ซึ่งแสดงว่านักศึกษามีความพึงพอใจที่ค่อนข้างคล้อยตามกัน
- Publicationการพัฒนาสื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบ“bǐ”ในภาษาจีนกลางพรรณภรณ์ ขันธพัทธ์; ตรีศูล เกษร; ศุภกร ทาพิมพ์; อนงครัตน์ บังศรี; อุษณา ทีบัว; Kantapat, Pannaporn; Kesorn, Threesoon; Tapim, Suphakorn; Bangsri, Anongkarat; Teebua, Ausana (2022)งานวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพให้กับสื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบ“bǐ”ในภาษาจีนกลางให้มีประสิทธิภาพ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางความรู้และความเข้าใจในเรื่องประโยคเปรียบเทียบ “bǐ”ในภาษาจีนกลางระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบที่ใช้บุพบท “bǐ”ในภาษาจีนกลางกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ห้องเรียนศิลป์ภาษาจีน โรงเรียนเพชรพิทยาคม ภาคเรียนที่2ประจ าปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบ “bǐ”ในภาษาจีนกลาง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่อการสอน จากนั้นดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าt-test ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของสื่อการสอนมีค่าเท่ากับ 80.06/83.25ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบ “bǐ” ของผู้เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อการสอนเพื่อการเรียนรู้ไวยากรณ์ประโยคเปรียบเทียบ “bǐ”ในภาษาจีนกลางอยู่ในระดับมาก
- Publicationการพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามเส้นทางรถม้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษาจีนเหนือขวัญ บัวเผื่อน; 潘, 佳丽; Buaphuan, Nueakwan (2021)งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามเส้นทางรถม้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษาจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามเส้นทางรถม้าฉบับภาษาจีนในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) และ เพื่อประเมินคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ปราชญ์ชุมชน ผู้นำชุมชน ผู้ให้บริการรถม้านำเที่ยว ผู้ประกอบการ กลุ่มสมาชิกการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลำปาง จำนวน 25 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) และนักท่องเที่ยวชาวจีนหรือนักท่องเที่ยวที่สามารถใช้ภาษาจีนได้ ใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบสะดวก (Convenience Selection) จำนวน 81 คน ใช้แบบประเมินเป็นเครื่องมือวิจัย โดยผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัยจากผู้ทรงคุณวุฒิ วิเคราะห์ข้อมูลการประเมินคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) โดยใช้สถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มีผลการศึกษา ดังนี้ ผลการประเมินคุณภาพหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) จากนักท่องเที่ยวที่ใช้ภาษาจีน ด้านรูปแบบหนังสือ พบว่า มีคุณภาพระดับดีมากในประเด็น การออกแบบสอดคล้องกับสถานที่จริง (ค่าเฉลี่ย=4.62) ขนาดของภาพชัดเจนมีความเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย=4.61) มีสีสัน สวยงาม ชวนให้อ่าน (ค่าเฉลี่ย=4.60) ความชัดเจนของอักขระ ตัวอักษร สวยงาม อ่านง่าย (ค่าเฉลี่ย=4.58) และมีความทันสมัยเหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่นำเสนอ (ค่าเฉลี่ย=4.58) ด้านภาษาหนังสือ พบว่า มีคุณภาพระดับดีมากในประเด็น ภาษาและภาพมีความสอดคล้องกัน (ค่าเฉลี่ย=4.64) และเนื้อหากระชับ ไม่ซับซ้อน (ค่าเฉลี่ย=4.55) ด้านการใช้งานหนังสือ พบว่า มีคุณภาพระดับดีมากในประเด็น นำไปเผยแพร่ อ้างอิงต่อได้ (ค่าเฉลี่ย=4.70) และนำไปใช้ท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง (ค่าเฉลี่ย=4.58) ส่วนด้านสื่อภาษาจีน พบว่า มีคุณภาพระดับดีมากในประเด็น สื่อท่องเที่ยวภาษาจีนทำให้ท่องเที่ยวด้วยตนเองได้ (ค่าเฉลี่ย=4.55) และสื่อท่องเที่ยวภาษาจีนทำให้มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น (ค่าเฉลี่ย=4.53)
- Publicationการพัฒนาเอกสารประกอบการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม และการประเมินผลการนำไปใช้Huang, Hsiang Yun; ธนาพร ปัญญาอมรวัฒน์; อนุช สุทธิธนกูล; ธนาพร ปัญญาอมรวัฒน์, อนุช สุทธิธนกูล (2018)งานวิจัยเรื่องการพัฒนาเอกสารประกอบการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสารสำหรับธุรกิจโทรคมนาคมมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการสอนภาษาจีนเพื่อการสื่อสารสำหรับธุรกิจโทรคมนาคมและประเมินผลการใช้เอกสารประกอบการสอน โดยศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง งานวิจัย และการสัมภาษณ์พนักงานหน้าร้านของบริษัทที่ให้บริการโทรคมนาคมในท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองและห้างสรรพสินค้า นำข้อมูลที่ได้มาจัดทำเป็นเอกสารประกอบการสอน จำนวน 1 ชุด จำนวน 2 เล่ม เล่มละ 8 บท รวม 16 บท และนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้เรียนที่ฝึกงาน ณ บริษัทที่ให้บริการโทรคมนาคม จำนวน 23 คน และผู้สอน 2 คน พร้อมทั้งสำรวจข้อคิดเห็นและเก็บข้อมูลความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอนและการจัดการเรียนการสอน นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอนและการจัดการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก ส่วนผู้สอนมีความเห็นว่า ควรปรับแก้คำอ่านที่สะกดผิด ควรเพิ่มปริมาณของแบบฝึกหัดและเฉลยแบบฝึกหัด และพิจารณาเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหา
- Publicationการศึกษาการใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สำหรับช่วยในการพัฒนาทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนผ่องพรรณ ทวีเลิศทรัพย์; จันทิมา จิรชูสกุล; มนัสนันท์ ฉัตรเวชศิริ; TAVEELERTSUB, PHONGPAN; JIRACHOOSAKUL, CHANTHIMA; CHATWECHSIRI, MANATSANAN (2022)การศึกษาในยุคความปกติใหม่ (New Normal) เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดการปรับตัวทางด้าน การเรียน การสอน แอปพลิเคชันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่มีส่วนช่วย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านสื่อหรือนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) การใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ช่วยในการพัฒนาทักษะส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีน และ (2) ความพึงพอใจต่อการใช้แปพลิเคชัน ติ๊กตอก (Tiktok) เฟซบุ๊ก(Facebook) ยูทูบ (Youtube) และอินสตาแกรม (Instagram) ในการพัฒนาทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนงานวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจัยพื้นฐานเชิงปริมาณ ผู้วิจัยทำการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามออนไลน์ (GoogleForms) ซึ่งกลุ่มตัวอย่างคือผู้เรียนภาษาจีนทั่วไป จำนวน 105 คน ผลการวิจัยพบว่า แอปพลิเคชันยูทูบเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนในการพัฒนาทักษะและส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนในการฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เรียนรู้บทสนทนาภาษาจีน มากที่สุด แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ใช้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีน มากที่สุด สำหรับหัวข้อคำศัพท์ภาษาจีน บทสนทนาภาษาจีนพื้นฐานหรือคำศัพท์ บทสนทนาทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นหัวข้อที่ผู้เรียนภาษาจีนทั่วไปเรียนรู้จาก แอปพลิเคซันติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ยูทูบและอินสตาแกรม เหตุผลที่ผู้เรียนภาษาจีนทั่วไปติดตาม แอปพลิเคชันติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรม คือมีเนื้อหาสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ทันต่อเหตุการณ์และนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ในงานวิจัยยังพบว่าผู้เรียนทั่วไปที่ศึกษาภาษาจีนมีความพึงพอใจจากการใช้แอปพลิเคชันติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรมบนสมาร์ทโฟนในการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ที่ค่าเฉลี่ย 4.32 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์สมมติฐานที่ตั้งไว้ เนื่องจากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนสามารถช่วยในการพัฒนาทักษะภาษาจีนทั้ง 4 ด้านและช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนนอกห้องเรียน ประเภทเนื้อหาบนติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรมตรงตามความสนใจของผู้เรียนภาษาจีนด้วยตนเองหรือเน้นเรียนเสริมความรู้นอกห้องเรียน อีกทั้งครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจเรียนรู้ภาษาจีนสามารถเลือกใช้แอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับการพัฒนาทักษะแต่ละด้าน
- Publicationการศึกษาแบบเรียนภาษาจีนโบราณ กรณีศึกษาสุภาษิต "นกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ"บุญธิญา รักสวน; พิสิษฐพัฒน์ ปัญญาเร็ว ทองเปลว; ณฐ บุญธนาธีรโชติ; Li, Haochang; 李, 浩昌; Raksuan, Boontiya; Panyarew Thongpleaw, Phisitthapat; Bunthanatherachot, Nuttha; Li, Haochang (2022)บทความวิจัยนี้มุ่งศึกษาถึงโครงสร้างของแบบเรียนภาษาจีนโบราณสำหรับผู้ท่ีเรียนภาษาจีนโดยการศึกษานี้ใช้แบบเรียนภาษาจีนโบราณ 4 เล่ม เป็นเครื่องมือในการศึกษา ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ แบบเรียนภาษาจีนโบราณ กรณีศึกษาสุภาษิต “นกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ” ทั้งด้านเนื้อหาของสุภาษิตที่ เป็นภาษาจีนโบราณและการอธิบายคำศัพท์ภาษาโบราณเป็นภาษาปัจจุบัน แบบเรียนทั้ง 4 ชุดนี้มีลักษณะเฉพาะ ในแบบเรียนปรากฏความเหมือนและความแตกต่างกันของรูปแบบการใช้ภาษาโบราณและในโครงสร้างแบบเรียน ด้วย ผลการวิเคราะห์ภาพรวมของแบบเรียนทั้ง 4 ชุดนี้พบว่า การเลือกใช้เนื้อหา การแบ่งวรรคตอนของเนื้อหา การใช้สัญลักษณ์กำหนดจุดอธิบายเนื้อหาจะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น หากผู้แต่งแบบเรียนต้องการเน้นเรื่อง เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสุภาษิตโดยตรง มีการตัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปกครองหรือการเมืองออกไป เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นการถ่ายทอดภาษาโบราณและมุมมองที่แตกต่างกันของผู้เขียนแบบเรียนทั้ง 4 ชุด ซึ่งผู้สอน ภาษาจีนโบราณสามารถนำแบบเรียนทั้ง 4 ชุดไปใช้ในการอ้างอิงและเลือกแบบเรียนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ด้าน การเรียนการสอนต่อไป
- Publicationการศึกษาแบบเรียนรายวิชาภาษาจีนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในด้านความสอดคล้องและต่อเนื่องกับแบบเรียนรายวิชาภาษาจีนหมวดศึกษาทั่วไปในระดับอุดมศึกษาให้มีความพร้อมทางทักษะภาษาแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ณัฐกานต์ ทวีวัฒนเศรษฐ์; 陈, 玉琳; Thaveewatanaseth, Nathakarn (2020)บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของแบบเรียนภาษาจีนที่ใช้สอนรายวิชาภาษาจีน หมวดวิชาศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยเปรียบเทียบแบบเรียนรายวิชาภาษาจีนที่ปัจจุบันใช้ในระดับอุดมศึกษากับแบบเรียนรายวิชาภาษาจีนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและหลักสูตรภาษาจีนศึกษานานาชาติ ผลการวิจัยพบว่า แบบเรียนมีคำศัพท์ใหม่จำนวนน้อย วงคำศัพท์แคบ ทั้งคำศัพท์และเนื้อหาบทเรียนมีความซ้ำซ้อนกับสิ่งที่นิสิตได้เคยศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ดังนั้นแบบเรียนควรมีความเชื่อมโยงพื้นฐานความรู้เดิมในระดับมัธยมศึกษาสู่การต่อยอดทางความรู้ ควรมุ่งพัฒนาศักยภาพนิสิตเพื่อการเรียนรู้ทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง นำไปปฏิบัติได้จริง พร้อมมีความเข้าใจสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นบุคคลทางทักษะภาษาแห่งในศตวรรษที่ 21 เพื่อหาแนวทางการพัฒนาการเขียนแบบเรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย
- Publicationการศึกษาเปรียบเทียบคำศัพท์ในแบบเรียนชุด “สนทนาภาษาจีนมาตรฐาน 360 ประโยค” กับเกณฑ์การสอบ HSKKเสี่ยวอิง เฉิน; วริษา อัศวรัตน์; 陈, 小英; 马, 春霖; Chen, Xiaoying; Asavaratana, Warisa (2022)งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบคำศัพท์ในแบบเรียนชุด “สนทนาภาษาจีนมาตรฐาน 360 ประโยค” เล่ม 1 เล่ม 2 เล่ม 3 และเล่ม 4 กับคำศัพท์ตามเกณฑ์การสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีนในทักษะด้านการพูด HSKK ระดับต้นโดยยึดคำศัพท์ HSK ระดับ 1 และ HSK ระดับ 2 ในเกณฑ์การสอบวัดระดับควาสามารถภาษาจีน HSK เป็นหลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ ผู้วิจัยได้วิเคราะห์คำศัพท์ในแบบเรียนทั้ง 4 เล่มดังกล่าวที่ปรากฏเหมือนคำศัพท์ HSK ระดับ1 และ HSK ระดับ 2 และวิเคราะห์คำศัพท์ HSK ระดับ 1และ HSK ระดับ 2 ที่ไม่ปรากฏในแบบเรียน จากการวิจัยพบว่า คำศัพท์ในแบบเรียนที่ปรากฏเหมือนคำศัพท์ HSK ระดับ 1 และ HSK ระดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 95.70 และที่ไม่ปรากฏในแบบเรียนคิดเป็นร้อยละ 4.30 นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังได้เสนอแนวทางการสอดแทรกคำศัพท์ตามเกณฑ์ที่ไม่ปรากฏเพิ่มในแบบเรียนชุด“สนทนาภาษาจีนมาตรฐาน 360 ประโยค” เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้คำศัพท์ที่ครบถ้วนตามเกณฑ์การสอบ HSKK ระดับต้นจากแบบเรียนทั้ง 4เล่ม ผลการวิจัยที่ได้นี้ยังสามารถนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาเรียบเรียงแบบเรียนหรือ เอกสารประกอบการสอนให้สอดคล้องตามเกณฑ์การสอบ HSKK ระดับต้น และเป็นแนวทางการทำวิจัยด้านคำศัพท์ของการสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีนต่างๆ ได้อีกด้วย
- Publicationการศึกษาเปรียบเทียบแบบเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยชนิกานต์ รัตนชัยไพศาลกุล; Rattanachaipaisankul, Chanikan (2021)ในปัจจุบันการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทยยังมีปัญหาการจัดการเรียนการสอนในหลายประเด็น ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยยกประเด็นปัญหาด้านตำราแบบเรียนภาษาจีน ทั้งเรื่องของคุณภาพความเหมาะสมของเนื้อหาแต่ละด้าน รวมถึงการเลือกใช้ตำราประกอบการเรียนการสอนในระดับอุมดมศึกษาของผู้สอน ผู้วิจัยเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ถึงนำมาซึ่งการวิจัยในครั้งนี้ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบหนังสือตำราหรือแบบเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย จำนวน5 ชุดดังนี้ 1. Hanyu Jiaocheng (汉语教程) 2.Fazhan Hanyu(发展汉语)3.Chuji Hanyu ภาษาจีนระดับต้น(初级汉语)4.Taiguorenxuehanyu คนไทยเรียนภาษาจีน(泰国人学汉语) 5.Boya Hanyu (博雅汉语)ผู้วิจัยนำหนังสือทั้ง 5 ชุดนี้มาศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยศึกษาวิเคราะห์จากเนื้อหา 5 ด้าน ได้แก่ ด้านระบบเสียง ด้านบทเรียน ด้านคำศัพท์ ด้านไวยากรณ์และด้านแบบฝึกหัด อีกทั้งเพื่อเสนอแนะมุมมองและแนวทางการเลือกใช้ประกอบการเรียนการสอนหรือแนวทางการเขียนหนังสือหรือตำราแบบเรียนภาษาจีนระดับต้นในระดับอุดมศึกษา จากผลการวิจัยพบว่า หนังสือเรียนทั้งห้าชุดมีข้อดีและข้อด้อยต่างกันไปดังนี้ หนังสือชุด Hanyu Jiaocheng มีจุดเด่นในเนื้อหาด้านระบบเสียง โดยมีการกระจายตัวของเนื้อหาที่ดี และด้านแบบฝึกหัดที่มีแบบฝึกหัดด้านไวยากรณ์ครบถ้วน มีจุดด้อยด้านไวยากรณ์ที่นำเสนอไวยากรณ์น้อยกว่าเล่มอื่นๆ และด้านแบบฝึกหัดที่มีรูปแบบไม่หลากหลาย หนังสือชุด Fazhan Hanyu มีจุดเด่นด้านเนื้อหาบทเรียนที่มีการนำเสนอบทเรียนที่หลากหลาย ด้านไวยากรณ์มีจำนวนไวยากรณ์ที่มากที่สุดและสอดคล้องกับ “หลักสูตร” มากที่สุด และด้านแบบฝึกหัดที่มีหัวข้อแบบฝึกหัดหลากหลาย จุดด้อย ด้านคำศัพท์ทีคำศัพท์ในระดับ ก น้อยที่สุด Chuji Hanyu มีจุดเด่นด้านไวยากรณ์เช่นกัน และภาพรวมค่อนข้างดี หนังสือชุด Taiguorenxuehanyu มีจุดเด่นด้านเนื้อหาของระบบเสียง และการนำเสนอคำศัพท์และไวยากรณ์ระดับ ก จำนวนมาก นอกจากนี้ด้านแบบฝึกหัดมีหัวข้อแบบฝึกหัดที่หลากหลายมากที่สุด จุดด้อยคือด้านไวยากรณ์ที่มีจำนวนไวยากรณ์สอดคล้องกับ “หลักสูตร” น้อยที่สุด หนังสือชุด Boya Hanyu นำเสนอคำศัพท์ที่สอดคล้องกับหลักสูตรมากที่สุด มีจุดด้อยด้านแบบฝึกหัดเรื่องระบบเสียงที่มีความหลากหลายของหัวข้อน้อยที่สุด
- Publicationการสร้างชุดกิจกรรมการเรียนเขียนอักษรจีนในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐานเพื่อพัฒนาการเขียนอักษรจีนเฉพาะบทตามหลักปี่ซุ่นจาประสบการณ์ตรง โดยใช้แอปพลิเชั่น LINE 词典(ci dian) ร่วมกับการเรียนรู้แบบผู้เรียนนำตนเองสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2นุกูล ธรรมจง; Thammachong, Nukul (2022)การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างชุดกิจกรรมการเรียนเขียนอักษรจีนในรายวิชา ภาษาจีนพื้นฐานเพื่อพัฒนาการเขียนอักษรจีนเฉพาะบทตามหลักปี่ซุ่นจากประสบการณ์ตรงโดยใช้ แอปพลิเคชั่น LINE 词典 (ci dian) ร่วมกับการเรียนรู้แบบผู้เรียนนำตนเองสำหรับนักศึกษาสาขาวิชา ภาษาจีน หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียน เขียนอักษรในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของ นักศึกษาต่อชุดกิจกรรมการเรียนเขียนอักษรจีนในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน ประชากรเป็นนักศึกษาสาขาวิชา ภาษาจีน หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่ผ่านการเรียนภาษาจีนมาแล้วไม่ต่ำ กว่า 1 ปี และไม่อยู่ระหว่างการฝึกสอน จำนวน 62 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 จำนวน 31 คน คัดเลือกโดยใช้วิธีการสุ่มแบบจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรม แผนจัดการเรียนรู้ประกอบชุดกิจกรรม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนเขียนอักษรจีนในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน การ วิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็นวิเคราะห์หาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะใช้สถิติพื้นฐานคือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาหลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนเขียนอักษรจีน ใช้ การทดสอบค่าทีที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน และการสำรวจความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนเขียน อักษรจีน ใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรมการ เรียนเขียนอักษรจีนในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐานที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.61/86.22 ซึ่งสูงกว่า เกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนเขียนอักษรใน รายวิชาภาษาจีนพื้นฐาน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อชุดกิจกรรมการเรียนเขียน อักษรจีนในรายวิชาภาษาจีนพื้นฐานโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.39, S.D. = 0.72)
- Publicationการสร้างและพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการสื่อสารภาษาจีนเบื้องต้นของ ผู้ประกอบการอิสระในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย รองรับการเป็นไทยแลนด์ 4.0สมยศ จันทร์บุญ; นิรัตน์ ทองขาว; สุริยา เกษตรสุขถาว; พิชญ์ธัชกิต ธนวัฒน์โอภาส; Chanboon, Somyos; Tongkaw, Nirat; Kasetsukthavorn, Suriya; Tanawattanaophas, Bhitdhatchakitti (2019)งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยประเภทการวิจัยและพัฒนา ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการสื่อสารภาษาจีนของผู้ประกอบการอิสระ ในเขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยใช้ผู้ประกอบการอิสระฯ 77 คน เป็นกลุ่มตัวอย่าง กระบวนการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน 1) ศึกษาปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการอิสระฯ เอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง 2) สร้างและหาประสิทธิภาพนวัตกรรม 3) นำนวัตกรรมไปทดลองใช้ 4) ประเมินความพึงพอใจต่อนวัตกรรม ผลวิจัยพบว่า ผู้ประกอบการอิสระฯ มีปัญหาการสื่อสารภาษาจีนและมีความต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาจีน เพื่อการประกอบอาชีพอย่างมาก แต่มีข้อจำกัดทางด้านอายุและเวลา ผู้วิจัยจึงได้สร้างและพัฒนานวัตกรรมที่เน้นการฝึก ทักษะการสื่อสารภาษาจีนเบื้องต้นที่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง เนื้อหานวัตกรรมมีความเฉพาะเจาะจง ตรงตามความต้องการและง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งประกอบไปด้วยคำศัพท์และประโยคสนทนาเบื้องต้นเกี่ยวกับการทักทาย การแนะนำสินค้า การสอบถามและต่อรองราคาสินค้า การเชิญชวนและขอความร่วมมือ ประโยคปฏิเสธในสถานการณ์ต่างๆ และการบอกเส้นทางที่มีบทแปลและเสียงอ่านภาษาไทยกำกับในรูปของหนังสือเล่มเล็กขนาดพกพาและไฟล์เสียง ผลจากการประเมินความพึงพอใจในการใช้นวัตกรรมฯ ของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มผู้ประกอบการต่อนวัตกรรม พบว่า ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.98 และ 4.30 ตามลำดับ ผลทดสอบก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมฯ พบว่า มีคะแนน สูงขึ้นในทุกเนื้อหาของทักษะการฟังและการพูด จึงกล่าวได้ว่านวัตกรรมนี้มีความพึงพอใจในระดับดีและสามารถนำไปพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาจีนของผู้ประกอบการอิสระฯ ได้จริง
- Publicationความสนใจของนักศึกษาต่อกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีน : กรณีศึกษานักศึกษาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีพิชัย แก้วบุตร; Kaewbut, Pichai (2020)ปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษาจีนให้ประสบความสำเร็จคือความสนใจของผู้เรียนซึ่งการสร้างความสนใจรูปแบบหนึ่งของการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในปัจจุบันคือการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงเป็นหลักและเพิ่มเติมเนื้อหาทางวิชาการเป็นส่วนเสริมบทความวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์1)เพื่อศึกษาความสนใจของนักศึกษาต่อกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนในรายวิชาภาษาจีนและ2)เพื่อเป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนในการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีนให้กับนักศึกษาผู้วิจัยเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตสุราษฎร์ธานีที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีน1และวิชาภาษาจีนฟัง-พูดและเข้าร่วมกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนรวมจำนวน155ชุดผลวิจัยพบว่าในภาพรวมผู้เรียนสนใจกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนมีสถิติอยู่ในระดับมาก(ค่าเฉลี่ย4.09)ซึ่งผู้เรียนเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวมีส่วนช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีนในระดับมาก(ค่าเฉลี่ย4.00)และแนวทางการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนวิชาภาษาจีนควรเป็นการจัดกิจกรรมเชิงบูรณาการที่มีความหลากหลายของรูปแบบกิจกรรมอยู่ในระดับมาก(ค่าเฉลี่ย4.09)นอกจากนี้ผู้เรียนมีทัศนคติและความสนใจต่อวิชาภาษาจีนอยู่ในระดับมาก(ค่าเฉลี่ย4.16)ซึ่งผลดังกล่าวสามารถนำมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเสริมนอกชั้นเรียนและแนวทางการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาจีนต่อไปได้
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »